สำนักนายกฯ ทุ่ม 50 ล้าน อัปเกรดเคเบิลใยแก้วนำแสง 14 กลุ่มอาคารทั่วทำเนียบรัฐบาล เน้นระบบป้องกันความปลอดภัยเครือข่าย เผยใช้งบกว่า 11.6 ล้าน เฉพาะติดตั้งฮาร์ดแวร์ป้องกันการเจาะระบบ-โจมตีผ่านช่องโหว่ซอฟต์แวร์จากกลุ่มแฮกเกอร์
วันนี้ (15 ก.ย.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เผยแพร่ประกาศให้ บริษัท อาร์ ที เอ (2003) จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคาจัดซื้อครุภัณฑ์พร้อมติดตั้งโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไร้สาย “เคเบิลใยแก้วนำแสง” หลังจากเสนอได้ราคาต่ำสุดที่ 40,898,824 บาท จากราคากลาง งบลงทุนปี 2563 ของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สลน.ที่กำหนดวงเงินไว้ที่ 50 ล้านบาท
นอกจากค่าส่งมอบแผนงานโครงการ/อุปกรณ์เครือข่ายและการติดตั้ง วงเงิน 2 ล้านบาทเศษ ค่าอุปกรณ์ระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสง วงเงิน 21.3 ล้านบาทเศษ เช่น อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยระบบเครือข่าย แอปพลิเคชัน อุปกรณ์กระจ่ายสัญญาณหลัก 2 ชุด และอุปกรณ์ความเร็วสูง รวม 53 ชุด ยังรวมถึง Wireless Access Poion 300 ชุด เป็นต้น ยังมีค่าติดตั้งอุปกรณ์เคเบิลและสัญญาณ วงเงิน 9.3 ล้านบาทเศษ และติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบรวมศูนย์ และวิเคราะห์ตรวจจับภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์อัติโนมัติ “แฮกเกอร์” ระบบป้องกันการโจมตีผ่านช่องโหว่ซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องลูกข่าย ฯลฯ วงเงินกว่า 11.6 ล้านบาทเศษ สุดท้ายเป็นค่าจัดฝึกอบรมและเอกสาร วงเงิน 2.3 ล้านบาทเศษ
สำหรับโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไร้สาย “เคเบิลใยแก้วนำแสง” วงเงินกว่า 50 ล้านบาท เป็นการปรับปรุงระบบไร้สายที่ติดตั้งครั้งล่าสุดตั้งแต่ พ.ศ. 2555 สมัยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เป็นระบบควบคุมจากส่วนกลาง และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้ป้องกันการบุกรุกของบุคคลภายนอก หรือองค์กรที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาในระบบ หรือแฮกเกอร์
“ในอดีตมีการติดตั้งระบบภายในกลุ่มอาคารทำเนียบรัฐบาล ประกอบด้วย ตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี ตึกนารีสโมสร ตึกบัญชาการ 1-2 ตึกในสังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เช่น ตึก 26 ตึก 20 ตึก 41 และตึกสำนักงาน กพ.(หลังเดิม) ซึ่งติดตั้งใช้งานเป็นระยะกว่า 7 ปี รวมถึงเป็นการปรับปรุงระบบแทนผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานแต่ไม่มีอยู่ในสายการผลิตแล้ว และรองรับผู้ใช้งานทุกระดับ ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายประจำ”
ในระบบล่าสุดนี้จะติดตั้งเพิ่มเติมรวมทั้ง 14 อาคาร เช่น ตึกภัคดีบดินทร์ ตึกแดง 1 ตึก 44 ตึก 11 ตึก 18 ตึกแดง 3 ซึ่งอยู่ในกลุ่มงานของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น