หน.ปชป.โยนกลับ ส.ส.ปชป.หารือ กมธ.ปมซื้อเรือดำน้ำ หาข้อยุติ เชื่อเป็นทางออกที่ดีที่สุด ย้ำความมั่นคงประเทศ-ศก.สำคัญ ขออย่าเพิ่งคิดไปไกล รับยังไม่ได้คุยนายกฯ ยันเดินหน้าแก้ รธน. ส.ว.ต้องไม่มีอำนาจเลือกนายกฯ
วันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มีมติให้ ส.ส.ของพรรคที่เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ไปหารือกับคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวเพื่อขอให้ทบทวนการของบประมาณเพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ วงเงิน 2.25 หมื่นล้านบาท ว่าเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมาธิการฯชุดดังกล่าว จึงต้องให้ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นกรรมาธิการในชุดนี้ไปหารือในที่ประชุมดังกล่าวเพื่อให้ได้ข้อยุติซึ่งตนคิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด
เมื่อถามว่า กรรมาธิการทั้ง 7 คนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับการจัดซื้อเรือดำน้ำ แต่เสียงส่วนใหญ่ในกรรมาธิการฯ เห็นชอบ พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการอย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น ขอให้กรรมาธิการของพรรคไปหารือในที่ประชุมชุดดังกล่าวก่อนจนได้ข้อยุติ ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าผลการหารือดังกล่าวเป็นอย่างไร แต่ตนยังเชื่อมั่นว่าจะมีทางออกได้
เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ต่อเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ นายจุรินทร์กล่าวว่า ในที่ประชุม ส.ส.ของพรรคเมื่อวัน 25 ส.ค.ที่ผ่านมามีความเห็นว่าเรื่องความมั่นคงของประเทศ และเรื่องความมั่นคงทางเศรษฐกิจต่างก็มีความสำคัญทั้งสองส่วนเท่ากัน จึงต้องมาช่วยกันคิดว่าจะสร้างสมดุลอย่างไร ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีปัญหาโรคโควิด-19 เพราะประเด็นนี้เป็นสิ่งที่คณะกรรมาธิการของพรรคประชาธิปัตย์จะต้องไปพูดคุยกับกรรมาธิการคนอื่นๆ ตนจึงขอให้เขาได้ไปพูดคุยกันก่อน ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไร เขาคงมารายงานให้พรรคประชาธิปัตย์ทราบต่อไป
เมื่อถามว่าอีกว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางคนระบุว่า หากการจัดซื้อเรือดำน้ำผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการฯชุดนี้ จะลงมติสวนในการพิจารณาร่างงบประมาณในวาระ 2 และ 3 นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่ไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะตอนนี้งบประมาณอยู่ในการพิจารณาวาระที่ 2 ตนยังเชื่อว่าทุกอย่างจะมีทางออก โดยตอนนี้ต้องขอเริ่มนับหนึ่งจากขั้นแรกเสียก่อน คือ การรอผลสรุปจากที่ประชุมกรรมาธิการฯถ้า ได้ข้อยุติในขั้นนี้ได้ก็จะช่วยให้สามารถดำเนินการในขั้นอื่นๆ ต่อไปได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อผ่านความเห็นชอบจากกรรมาธิการฯแล้วก็จะถูกส่งเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2 ที่จะได้มีการเรียงลำดับมาตรา ก่อนจะตามด้วยการพิจารณาวาระที่ 3
“ผมยังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรี เพราะเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพียงแต่เชิญนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานเปิดงานและมอบรางวัล PM อวอร์ด เท่านั้น ยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องอื่น แต่ผมยังคิดว่าตอนนี้คงยังเป็นขั้นที่กรรมาธิการไปพูดคุยกันก่อน” นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กำลังไปดำเนินการยกร่างร่วมกับวิปรัฐบาล ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นการจัดทำรายละเอียดว่าควรจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นใดบ้าง เพื่อให้เป็นที่ยอมรับได้ของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด และเมื่อทำเสร็จแล้วก็จะนำเสนอให้สาธารณะชนรับทราบ ส่วน ส.ว.นั้น พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าควรจะต้องมีเอาไว้ แต่ต้องมีการจำกัดบทบาทอำนาจหน้าที่ ให้ทำเฉพาะเรื่องการกลั่นกรองกฎหมาย แต่ไม่ควรมีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันให้มีการแก้ไขในเรื่องนี้ด้วย เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่ออกมาระบุว่าจะต้องแก้ไขและธรรมนูญ และยังยืนยันจนถึงทุกวันนี้ว่าจะต้องดำเนินการแก้ไข