นายกฯ ชี้แนวคิดเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหามาตรการที่เหมาะสมดูแลคนส่วนใหญ่ ขอทุกคนมั่นใจ ยันไม่เปิดเรื่อยเปื่อย ย้ำทุกคนช่วยกัน จะนั่งงอมืองอเท้าไม่ได้ ต้องต่อลมหายใจเติมออกซิเจน ไม่กลับไปร่อแร่เหมือนเดิม
วันนี้ (26 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงแนวคิดเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาในไทย หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ว่า กำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะมีมาตรการอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ เริ่มที่ไหนก่อน เพราะมีหลายคนบ่นมา จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ จังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ จะเป็นการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนน้อยก่อน เพื่อเป็นการทดสอบระบบ โดยจะต้องมีแบบฟอร์มต่างๆ เข้ามารองรับ เที่ยวบินที่เข้ามาต้องสามารถตรวจสอบเส้นทางได้ เมื่อเข้าไปในพื้นที่ท่องเที่ยวแล้วจะต้องมีการจำกัดพื้นที่ และกันพื้นที่ออกจากส่วนอื่น ซึ่งมีขั้นตอนเยอะแยะมากมาย ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะเปิดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย
นายกฯ กล่าวว่า ข้อสำคัญอยากบอกประชาชน คือ ถ้าไม่ทำอะไรเลยมันก็จะหนักกว่านี้ไปเรื่อยๆ สถานประกอบการก็ต้องถูกปิด ลูกจ้างก็ถูกเลิกจ้าง และรัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนไปช่วยเหลือ ทุกๆ คนก็มีภาระดูแลครอบครัว หนี้สิน แล้วเขาจะทำอย่างไร รัฐบาลจะไปช่วยทั้งหมดไม่ได้เพราะมีคนเป็นจำนวนมาก อะไรก็ตามที่รัฐบาลสามารถจะผ่อนคายให้ได้ก็จะพยายามอย่างยิ่งยวดในการที่จะหามาตรการที่เหมาะสมดูแลประชาชนส่วนใหญ่ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันคิด ถ้าคัดค้านกันไปมาก็จะทำอะไรไม่ได้ทุกอย่างก็เหมือนเดิม อยู่กันเหมือนเดิมแล้วจะอยู่ได้กันอีกกี่เดือน รัฐบาลนี้ก็จะแย่ไปเรื่อยๆ เราก็ต้องต่อลมหายใจเขาไม่ใช่เหรอ ช่วยทีละเล็กทีละน้อยเหมือนกลับเติมออกซิเจนเข้าไป ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยก็กลับไปร่อแร่เหมือนเดิมทุกอย่าง ก็ฝากสื่อไว้ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกอย่างคงต้องมีมาตรการองรับ ตนเคยพูดไปแล้วว่าการจะทำอะไรก็ตาม เราต้องมีมาตรฐานทางด้านสุขภาพเราเสียก่อน ทั้งการตรวจสอบการคัดกรอง การสวมหน้ากากอนามัย และการรักษาระยะห่าง มีแอปพิลเคชัน “ไทยชนะ” ติดตามตัว เมื่อใครเข้า-ออกประเทศ เราสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด และข้อสำคัญคือ ประชาชนในพื้นที่ต้องดูแลเพราะคนที่ได้ประโยชน์ไม่ใช่รัฐบาล หากคนในพื้นที่พูดกันไปพูดกันมาว่าอันนี้ก็ไม่ได้อันนั้นก็ไม่ได้ แล้วใครเสียประโยชน์ก็ประชาชนไม่ใช่เหรอ รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลตรงนี้ ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าหากพบหรือไม่พบเราดูแลได้เราควบคุมได้จำกัดการแพร่ระบาดได้
นายกฯกล่าวว่า นี่คือ สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องมองภาพใหญ่กันบ้างทุกเรื่องถ้ามองแต่ภาพเล็กๆ ก็จะติดปัญหากันไปหมดจึงทำให้ต้องมีศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ขึ้นมา และต้องมีกฎหมายเพื่อที่จะดำเนินการตรงนี้แต่กฎหมายก็ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในท้องถิ่น ตนถามว่า อย่างชาว จ.ภูเก็ตอยากได้หรือไม่ ก็มีทั้งคนอยากได้กับไม่อยากได้ และถามว่าประเทศจะทำอย่างไร คนที่ตกงานจะทำอย่างไร ต้องคิดตรงนี้ ไม่ใช่ไอ้นั่นก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ดี สรุปทำอะไรไม่ได้เลย แล้วเราจะมานั่งงอมืองอเท้ามันไม่ได้แล้ว แล้วทุกคนก็กลับมาด่ารัฐบาล เราก็ต้องช่วยรัฐบาลบ้างในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยรวม และประเทศชาติ