ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย หนุนพรรคก้าวไกล ยื่นญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ยืนยันไม่แตกกัน-เข้าใจวัยรุ่น ปมยื่นอภิปรายทั่วไป ชี้แค่กลยุทธ์ แก้ รธน.ไม่แตะเนื้อหาในรายมาตราอื่น โยน ส.ส.ร.เป็นผู้พิจารณา
วันนี้ (25 ส.ค.) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า ในวันนี้จะมีการประชุมวิปฝ่ายค้านร่วมกับพรรคก้าวไกล เพื่ออธิบายถึงการดำเนินการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญ ม.152 ซึ่งยืนยันว่าการยื่นญัตติในครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ เพราะหากไม่เปิดอภิปรายในสมัยประชุมนี้ก็อาจจะไม่ทันต่อสถานการณ์บ้านเมือง
“เป็นกลยุทธ์ของเรา พวกเขาเป็นวัยรุ่นเราเข้าใจดี ยืนยันว่าทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ไม่ได้แตกกัน ยังทำงานด้วยกันได้เป็นอย่างดี เพียงแต่บางครั้งพูดคุยกันน้อย ส่วนการทำงานทุกอย่างยังเป็นไปตามปกติ และวันนี้จะมีการอธิบายให้เข้าใจ หากไปยื่นอภิปรายทั่วไปในสมัยหน้าอาจจะไม่ทันการณ์ เพราะคิดว่าในสมัยประชุมหน้ารัฐบาลไปไม่รอดแน่ๆ จริงคิดว่าต้องยื่นอภิปรายในสมัยประชุมนี้ก่อน” นายสุทินกล่าว
นายสุทินกล่าวอีกว่า สำหรับช่วงเวลาที่เหลือในสมัยประชุมนี้จะมีการพิจารณาวาระสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1. การประชุมรัฐสภาเพื่อแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 2. การอภิปรายทั่วไป ตาม ม.152 และ 3. ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในวาระ 2 และ 3 ส่วนจะพิจารณาเรื่องใดก่อนคงจะต้องมีการหารืออีกครั้ง ส่วนตัวคิดว่าควรพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน
เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ต่างฝ่ายต่างเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของตนเองเข้ารัฐสภา นายสุทินกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายใด ต่างมีหลักการตรงกัน คือ การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เพียงแต่มีความแตกต่างในรายละเอียดซึ่งคิดว่าสามารถพูดคุยกันในสภาได้ ส่วนกรณีของพรรคก้าวไกลที่ยังมี ส.ส.มาลงชื่อไม่พอที่จะเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ โดยในวันนื้พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมพรรค และจะมีการอธิบายให้กับ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้เข้าใจในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกล แต่จะมีมติอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุม ส.ส.พรรค
“ในขั้นตอนนี้ โดยหลักการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก่อนเพื่อให้มีการตั้ง ส.ส.ร.ให้สำเร็จ โดยจะไม่ไปแตะเนื้อหาในรายมาตราอื่นๆ เพราะคิดว่าควรให้ ส.ส.ร.เข้ามาดำเนินการเว้นเสียแต่หากเกิดกระบวนการเตะถ่วงไม่ให้เกิดการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ หรือเป็นไปอย่างล่าช้า ฝ่ายค้านก็จะเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมมาตราอื่นๆ เข้าไปด้วย”