กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไทร้องศาลปกครอง ขอเพิกถอนกฎกระทรวง-ระเบียบทรงผม ชี้ละเมิดสิทธิร่างกาย-เอื้อ ร.ร.มีสิทธิขาดตัดผมเด็กสั้นได้
วันนี้ (30 ก.ค.) นักเรียนตัวแทนกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท พร้อมด้วย น.ส.ศิริกาญจน์ เจริญศิริ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้ายื่นฟ้องกระทรวงศึกษาธิการ และ รมว.ศึกษาธิการ เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 ต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้เพิกถอนกฎกระทรวง (ศึกษาธิการ) ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2518) ที่ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ และระเบียบว่าด้วยการไว้ทรงผมนักเรียน ปี 2563 โดยตัวแทนกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท กล่าวว่า กฎและระเบียบที่กระทรวงศึกษาธิการออกมาขัดต่อสิทธิในร่างกายของเรา เป็นการละเมิดร่างกายเรา เพราะผมถือเป็นหนึ่งในอวัยวะของร่างกาย ดังนั้นจึงขอให้ยกเลิกกฎกระทรวงที่ออกโดยคณะปฏิวัติ และระเบียบว่าด้วยการไว้ทรงผมนักเรียน ปี 2563 เพราะระเบียบดังกล่าวมีเนื้อหากำกวม และมีการให้อำนาจโรงเรียนมีสิทธิขาดพิจารณาตัดผมเด็กได้ แม้จะให้มีการรับฟังความคิดเห็นนักเรียนด้วย แต่ก็ยังให้สิทธิขาดเป็นของโรงเรียน ดังนั้นจึงมีโรงเรียนหลายแห่งไม่ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว ทำให้ยังมีการตัดผมเด็กนักเรียนอยู่ โดยครูบางคนยังตัดผมเด็กนักเรียนโดยอ้างกฎระเบียบดังกล่าว ทั้งที่นักเรียนไม่สมัครใจ เป็นการใช้ความอาวุโสสูงกว่ามาบังคับ
เมื่อถามว่า หลังออกมาเคลื่อนไหวสถานการณ์ในโรงเรียนขณะนี้เป็นอย่างไร ตัวแทนนักเรียนกล่าวว่า ถ้าคนที่เห็นก็จะเชียร์ให้กำลังใจ แต่ที่ไม่เห็นด้วยก็จะนิ่งๆ แต่จะเอาไปซุบซิบกัน
ด้าน น.ส.ศิริกาญจน์ กล่าวว่า คดีนี้มีผู้ฟ้องคดีรวม 73 คน โดยขอให้เพิกถอนกฎกระทรวง (ศึกษาธิการ) ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2518) ที่ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ และระเบียบว่าด้วยการไว้ทรงผมนักเรียน ปี 2563 เนื่องจากเห็นว่าส่งผลต่อสิทธินักเรียนเกินกว่าเหตุ ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักเรียนจนเกินกว่าเหตุ ละเมิดสิทธิในชีวิตเนื้อตัวร่างกาย รวมทั้งเป็นการบังคับบุคลิกภาพ ทั้งที่การพัฒนาบุคลิกภาพของนักเรียนจะต้องพัฒนาโดยตัวเองเพื่อเป็นบุคลิกภาพของตัวเองโดยที่รัฐจะมาบังคับไม่ได้