“ประธานวิปฝ่ายค้าน” แนะ ปชช.ยื่นร่างแก้ไข รธน. กระตุ้นรัฐบาลเร่งเสนอร่างประกบ เตรียมหารือใน กมธ.แก้ รธน.ศุกร์นี้ สรุปให้ชัดก่อนร่างเข้าสภาภายในสมัยประชุมนี้
วันนี้ (29 ก.ค.) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในฐานะที่ตนเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 โดยได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทยว่า ในการประชุม กมธ.ในวันที่ 31 ก.ค. 63 จะหยิบยกเรื่องการกระชับเวลาในการศึกษามาหารือ เพราะเห็นว่าสามารถทำได้อยู่แล้ว เพื่อที่จะไม่ต้องทอดเวลาออกไป ส่วนเรื่องเนื้อหาจะต้องให้ที่ประชุม กมธ. สรุปในเบื้องต้นว่า ที่ศึกษากันมานั้นเห็นควรจะต้องแก้อย่างไร ประเด็นไหน เพื่อให้สังคมได้เห็นชัดเจนขึ้น เพราะที่ผ่านมาเพียงแค่ศึกษาแต่ยังไม่ได้สรุป ดังนั้น ที่ประชุม กมธ.ในวันที่ 31 ก.ค. 63 จะต้องรีบสรุป เพราะเราตั้งใจกันว่าอยากให้กระบวนการทุกอย่างจบ โดยเราตั้งเป้าว่าจะต้องเสนอเข้าสภาภายในเดือนสิงหาคมนี้ ดังนั้น ขั้นตอนการศึกษาควรจะเสร็จอย่างช้าวันที่ 10 ส.ค. 63 จากนั้นก็นำเรื่องเข้าสู่สภาและร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอได้ก่อนปิดสมัยประชุมนี้
“นี่คือความต้องใจของพรรคเพื่อไทย และจะมีการประชุมร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เช้าวันศุกร์ (31 ก.ค.) ก่อนจะมีการประชุม กมธ. อย่างไรก็ตาม แม้เราจะมีความตั้งใจอย่างนี้ แต่เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญชัดเจน และทันต่อความประสงค์ของสังคม ผมขอแนะนำว่า อยากให้ภาคประชาชนไม่ว่าจะเป็นนิสิต นักศึกษา ประชาชน หรือองค์กรต่างๆ ให้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เลย เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ต้องรอ กมธ.ก็ได้ เนื่องจาก กมธ.เป็นการศึกษาของสภาส่วนหนึ่ง ซึ่งประชาชนสามารถยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เหมือนกัน และผมทราบว่ามีประชาชนร่างไว้นานแล้ว ฉะนั้น สามารถยื่นก่อนที่ กมธ. จะสรุปได้เลย เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้กรรมาธิการ และรัฐบาล เร่งทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาประกบ เพื่อจะได้เร็วขึ้น และพรรคเพื่อไทยยินดีสนับสนุนร่างของประชาชน เมื่อเข้าสู่สภาเราจะได้มีร่างที่หลากหลายว่าจะแก้กันอย่างไร ผมคิดว่าจะเป็นแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์ที่สุด” นายสุทินกล่าว
เมื่อถามว่า มีสัญญาณจากวุฒิสภา (ส.ว.) ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร นายสุทินกล่าวว่า ตอนแรกเรามีความหวังกับ ส.ว.น้อย หรือแทบจะไม่มีความหวังเลย หากจะแก้ได้ในส่วนของ ส.ว.ก็แก้ได้บางประเด็น แต่ในระยะหลังเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเป็นบวกขึ้น หลังจากที่มีเสียงของประชาชน และนิสิต นักศึกษา เรียกร้อง เราจึงมีความหวังกับ ส.ว.เหมือนกัน
นายสุทินกล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้สรุปว่าจะแก้ทั้งฉบับ หรือบางมาตรา เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญง่ายขึ้น แต่ตนเห็นว่าแก้อย่างไรก็ตามที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม แต่เมื่อประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมแล้ว พรรคเพื่อไทยก็มีประเด็นที่จะเสนอผ่านประชาชน ซึ่งในความตั้งใจของเราคิดว่ามีการแก้จำนวนมาก แต่ต้องฟังเสียงประชาชน และโอกาสที่จะเป็นไปได้ ทั้งนี้ หากแก้ใหญ่ หรือแก้ทั้งฉบับ จะต้องใช้เวลามาก เราจึงคิดว่าเราอยากได้เนื้อหารัฐธรรมนูญที่ดี และเวลาที่เหมาะ คิดว่าการตั้ง ส.ส.ร.เป็นแนวทางที่ดีที่สุด แต่อาจจะช้า ใช้เวลามาก ดังนั้น ทาง กมธ.กำลังคิดกันว่าถ้าไม่ใช่ ส.ส.ร.จะเป็นอะไรได้บ้าง บางคนบอกว่าแก้มาตรา 256 ก็พอ บางส่วนคิดว่าควรจะแก้สาระเลยซึ่งจะทำให้เร็วขึ้น