นายกฯ ขู่ขึ้นแบล็กลิสต์โรงแรมในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ฉวยขึ้นราคา เผย 22 ก.ค. ศบค.ชุดใหญ่ถกผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 เฟส 6 พร้อมพิจารณาอายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังใกล้ครบกำหนด 31 ก.ค.
วันนี้ (21 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันที่ 22 ก.ค.จะมีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม ในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในระยะที่ 6 แต่ไม่ใช่ว่ารัฐบาลประกาศไปแล้ว มีมาตรการไปแล้วไม่มีใครมาช่วยรัฐบาล ในการดูแลพื้นที่ในทุกขั้นตอน จะต้องมีคนรับผิดชอบช่วยกันดูแลให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในภายหลัง เพราะเราต้องสร้างความสมดุลให้ได้ระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจระดับฐานราก ซึ่งมีความเดือดร้อนมากมาย และมีทั้งคนเห็นชอบและไม่เห็นชอบ แต่ทุกคนต้องคำนึ่งภาพโดยรวม ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องทำทั้ง 2 ด้าน
นายกฯกล่าวว่า นอกจากนี้ ในการประชุม ศบค.จะมีพิจารณาเรื่องการต่ออายุ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ที่จะครบการต่ออายุในวันที่ 31 ก.ค.ว่า มีความจำเป็นอย่างไร ส่ิงสำคัญคือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับนี้ มีไว้ใช้เพื่ออะไร ซึ่งตนเคยพูดไว้หลายครั้งนี้ เพราะหลายกฎหมายไม่ครอบคลุม ทั้งนี้ ตนไม่ได้เอากฎหมายฉบับนี้ไปยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมแต่อย่างใด เพราะมี พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะอยู่แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีพบโรงแรมที่พักหลายแห่งในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ฉวยโอกาสขึ้นราคา ว่า ตนได้สั่งการไปแล้ว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังเข้าไปตรวจสอบ หากโรงแรมใดขึ้นบัญชีกับ ศบค.ไว้แล้ว และมีการฉวยโอกาสขึ้นราคามากกว่าที่ตกลงกันไว้ จะถูกขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ เพราะวันนี้มีการผ่อนคลายไประดับหนึ่งแล้ว อย่างการให้โรงแรมขนาดเล็กเข้าร่วมโครงการด้วย ฉะนั้น อย่าขึ้นราคาก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นจะโดนแบล็กลิสต์ ขอให้ทุกคนและผู้ประกอบการช่วยกัน ถ้าเราทำไม่ดีก็จะส่งผลไม่ดีกับโรงแรมของท่านเอง
นายกฯกล่าวว่า ตนต้องการให้มีการท่องเที่ยวในเมืองรองมากขึ้น ท่องเที่ยววันธรรมดามากขึ้น ซึ่งก็ขอให้จัดการช่วงเวลาการเที่ยวให้ดี บางคนก็มีเงินอยู่แล้ว บางคนก็นำเงินจากคูปองอาหารท่องเที่ยว มูลค่า 600-900 บาท/วัน ไปใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ทั้งนี้ราคาปกติหลายโรงแรมมีการพูดคุยกันแล้วราคาเท่าไหร่ ลดได้เท่าไหร่ แต่บางทีก็ฉลาดพอคนเข้าพักมากๆ ก็ขึ้นราคา จะถูกขึ้นบัญชีทั้งหมด เพราะเราควรมีความซื่อสัตย์สุจริตต่อไป รัฐบาลต้องบริหารคนเยอะแยะ หลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง แน่นอนย่อมมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นธรรมดา ตนก็ไม่ได้ไปถือสาอะไร