รมว.สธ. เผยไม่ได้รับสัญญาณ “ประยุทธ์” ให้ ภท.ปรับ ครม. ระบุตน “ศักดิ์สยาม” เป็นคนประเมินผลงาน ชี้กมธ.งบฯ ล่ม เป็นระบอบ ปชต. แม้เป็นพรรคร่วม รบ.เปรียบลิ้นกับฟัน เห็นต่าง หวานแหววตลอดไม่ได้
วันนี้ (21 ก.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการปรับรายชื่อ ครม.ของพรรคภูมิใจไทย ว่า วันนี้ตนขอขึ้นไปประชุมร่วมกับรัฐมนตรีของพรรคก่อน เพราะก่อนการประชุม ครม.ต้องมีการหารือร่วมกันประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนไปประชุม ครม.ชุดใหญ่
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า จะไม่แตะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคร่วม นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องถามนายกฯ เมื่อถามอีกว่า ไม่ได้รับสัญญาณอะไรเลยเหรอ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่มี” ถึงเวลานี้ยังไม่มีสัญญาณอะไร เกี่ยวกับการปรับ ครม.มาที่พรรคภูมิใจไทย ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ แต่เราจะตัดสินใจตัวเราเองไม่ได้ เช่น ลูกพรรคของภูมิใจไทยมาเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนคนที่ประเมินผลงาน คือ ตน และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่า ถ้าให้ส่งชื่อยังยืนยันเป็นคนเดิมและโควตาเดิมใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ส่ง ถ้าส่งแล้วค่อยคิด เพราะส่งชื่อได้ถึงคืนวันสุดท้ายก่อนที่จะประกาศรายชื่อ
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เสนอให้นับองค์ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เป็นผลให้การประชุมล่ม ว่า คงไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะการประชุมกรรมาธิการร่วมกัน มีทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล และเสียงข้างมากเสียงข้างน้อย ซึ่งบางครั้งยังไม่ได้มีการปรับจูนกัน เท่าที่ทราบเหตุการณ์เมื่อวาน (20 ก.ค.) เป็นเรื่องของการตั้งอนุกรรมาธิการด้านต่างๆ จากที่ นายชาดา รายงานให้ฟัง เห็นว่า จะมีการมอบหมายตำแหน่งให้เพียงกลุ่มเดียว แต่นี่เป็นระบอบประชาธิปไตย จะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เชื่อถือซึ่งกันและกัน ถ้าทำงานให้กับประชาชนร่วมกัน ใครจะมารวบและขอทำคนเดียวคงไม่ได้ เพราะว่าเราอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ เพื่อทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง
เมื่อถามว่า แบบนี้ตำแหน่งที่จะไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐจะต้องเกลี่ยใหม่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ก็คงไม่ใช่แล้วมั้ง ถ้าใช่ก็คงไม่ต้องนับองค์ประชุม”
เมื่อถามว่า แสดงว่า มีการพูดคุยกันแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็น่าโอเคแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน จะมาทุบโต๊ะกันก็คงไม่ใช่
เมื่อถามว่า จะกระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะมองว่าเป็นเรื่องแค่นี้ เหมือนลิ้นกับฟัน ซึ่งก็ต้องมีบ้างที่เห็นไม่ตรงกัน ก็ต้องถอยหลังออกมา และมาทำความตกลงกัน ถ้าเข้าใจก็เดินหน้าต่อไป ซึ่งจะให้หวานแหววกันไปตลอดก็คงไม่ใช่ แบบนี้ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า แบบนี้จะเป็นมาตรฐานต่อไปหรือไม่ ว่าถ้าพรรคร่วมไม่พอใจก็จะทำประมาณนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน นี่เป็นระบอบประชาธิปไตย ต้องรับฟังทุกฝ่าย
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า ต้องแบ่งโควตาให้พรรคร่วมใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบ เขารายงานตนแค่นี้ และตนก็เห็นด้วย ซึ่งตอนนี้คาดว่าจะมีการพูดคุยกันรู้เรื่องแล้ว และก็ต้องดำเนินการต่อไป เรื่องนี้ไม่ใช่การแบ่งเพื่อหาผลประโยชน์ แต่ต้องมีการเกลี่ยตำแหน่งเพื่อให้ทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วม
เมื่อถามว่า เมื่อพูดคุยกันจบแล้ว แสดงว่า การประชุมครั้งหน้าจะราบรื่น นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนรู้ว่าการอยู่ร่วมกันจะอยู่อย่างไร ต้องรับฟังกันบ้าง ถอยบ้าง ขอบ้าง แต่อยู่บนพื้นฐานการทำงานให้กับบ้านเมือง ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา อย่าคิดว่านี่เป็นความขัดแย้ง แต่ขัดแย้งกันบ้างมันก็ต้องมีบ้าง แต่ก็ต้องหาทางออกร่วมกัน หากเห็นชอบเหมือนกันหมดก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยและไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเห็นชอบด้วยกันหมดทุกเรื่อง