วันนี้ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ได้เกิดเหตุต้นมะขามยักษ์ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตึกไทยคู่ฟ้า ล้มลง ซึ่งต้นมะขามยักษ์ที่อยู่เลียบคลองเปรมประชากรนั้น ถือเป็นต้นไม้ที่อยู่คู่กับทำเนียบมานานเกือบ 100 ปี ได้ล้มลง สาเหตุเนื่องจากเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาต่อเนื่องและค่อนข้างหนัก จึงทำให้ต้นมะขามซึ่งมีอายุเกือบ 100 ปี และมีลำต้นที่ไม่สมบูรณ์ ลักษณะตรงกลางลำต้นเป็นโพรง บริเวณรากเน่าเปื่อย ไม่มีรากแก้ว ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสถานที่ ทำเนียบรัฐบาล จึงประสานไปยังกรุงเทพมหานคร โดยสำนักสิ่งแวดล้อมฯ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญมาดู โดยได้ลงความเห็นว่าต้นมะขามดังกล่าวมีอายุมาก ไม่สามารถที่จะล้อมและนำไปทำนุบำรุง หรือกลับมาปลูกได้เช่นเดิม เนื่องจากตรงกลางลำต้นเป็นโพรง เหลือเพียงเปลือกนอก ภาพรวมทั้งหมดไม่แข็งแรง รากเน่าเปื่อยตามอายุ จึงต้องนำต้นมะขามดังกล่าวออกไป โดยทางผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาเลือกต้นไม้อื่นมาปลูกทดแทน เนื่องจากสถานที่ดังกล่าว คือ ทำเนียบรัฐบาล จึงต้องหารือกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงเป็นลำดับชั้นก่อน แต่คาดว่าจะเป็นต้นมะขามที่นำมาปลูกทดแทนเช่นเดิม เนื่องจากตลอดแนวเลียบคลองมีการปลูกต้นมะขามไว้ทั้งหมดอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ต้นมะขามเก่าแก่ประจำทำเนียบรัฐบาลล้มในวันเดียวกันนี้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะจากกลุ่มข้าราชการและเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะคนเก่าคนแก่ที่ใกล้เกษียณอายุราชการ โดยมีความเห็นว่าที่ผ่านมาแม้จะอยู่มานานแต่เหตุการณ์ต้นไม้เก่าแก่ของทำเนียบก็ไม่เคยล้ม จึงอาจเป็นลางที่ไม่ค่อยดีนัก โดยมีบางคนนำมาผูกโยงกับเสถียรภาพของรัฐบาลซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการมีปัญหาภายในกันเองโดยเฉพาะภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)