กมธ.การเมือง เตรียมเรียก “นิพิฏฐ์-สมชัย” ให้ข้อมูลทุจริตเลือกตั้ง แนะจับตาเลือกตั้งท้องถิ่นคาดหนักกว่าปกติ เหตุขาดช่วงมาหลายปี กังขา กกต.แบ่ง 19 เขตเลือกตั้ง แต่โซนรัฐบาลอาจมีธงได้-เสียเปรียบการแข่งขัน
วันนี้ (9 ก.ค.) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวถึงความคืบหน้าการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยติดตามความคืบหน้าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เริ่มต้นเชิญตั้งแต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกระทรวงมหาดไทย แต่โดนเบรกด้วยสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เชิญเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย โดยประเด็นปัญหาที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่าคณะรัฐมนตรีก็ต้องรอสัญญาณจาก กกต.ก่อนซึ่งต้องแบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จภายในเดือนนี้ ซึ่งการแบ่งเขตเลือกตั้ง 19 จังหวัดแรกเป็นการแบ่งเขตเลือกตั้งในโซนที่มีรัฐบาลมากกว่า ขณะที่ กกต.บอกไม่เป็นความจริงและยืนยันว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งจะเสร็จภายในเดือนนี้ แล้วทั้งหมดก็จะกลับไปอยู่ที่คณะรัฐมนตรีครั้งหนึ่ง โดยจะมีการติดตามต่อไป
นายปดิพัทธ์ระบุว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ทั่วประเทศจะหนักกว่าปกติ เพราะว่าไม่ได้จัดมาหลายปี แต่ข้อกังวลไม่ใช่เรื่องด้านเทคนิค แต่เป็นเรื่องขอบเขตอำนาจว่าทำไมถึงไม่มีอำนาจประกาศการเลือกตั้งทุกเขต แต่กลับให้มีการกำหนดก่อนหลังซึ่งควรจะต้องจับตาดู เพราะเกินขอบเขตที่กฎหมายให้อำนาจแก่คณะรัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่แค่ประกาศเห็นชอบให้มีการเลือกตั้ง แต่การระบุจังหวัดและเขตไม่ใช่อำนาจของคณะรัฐมนตรี จึงมองว่าเกี่ยวข้องมีธงให้เกิดการได้เปรียบหรือเสียเปรียบของฝั่งใดฝั่งหนึ่งหรือไม่ จึงอยากให้สื่อมวลชนพิจารณาว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นจะต้องเป็นสิทธิและไม่ยอมให้มีการแทรกแซง
นายปดิพัทธ์บอกว่า กรรมาธิการจะติดตามการทำงานของ กกต. ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโปงการทุจริตเลือกตั้งจังหวัดพัทลุง ที่ร้องโดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ส่งหลักฐานการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดลำปาง โดยจะเชิญทั้งสองคนเข้ามาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ