“อนุชา” ลั่นนำ พปชร.เป็นเสาหลักประชาธิปไตย เตรียมฟอร์มทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ ให้ “นฤมล” เป็นหัวหน้าดึงคนมีชื่อเสียงเข้าร่วม ตั้งเป้าให้ประชาชนกินดีอยู่ดี โวฟื้นเศรษฐกิจได้แน่ ไม่ขัดถ้า “อุตตม-สนธิรัตน์” จะช่วยงาน มั่นใจความขัดแย้งในพรรคจะหมดไปหลัง “บิ๊กป้อม” นั่งหัวหน้า
วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.10 น. ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงภายหลังที่ประชุมมีมติเลือกให้ดำรงตำแหน่งว่า ขอบคุณทุกคนที่มอบความไว้วางใจให้ตนปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค โดยการประชุมได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารชุดเก่าเป็นอย่างดีและเรียบร้อย ทั้งนี้ การที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค จะช่วยหลอมรวมให้สมาชิกพรรคเป็นหนึ่ง สิ่งที่ตนได้รับและสัมผัสจาก พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่าท่านเป็นคนทุ่มเท เสียสละ และพูดเสมอว่าต้องการให้แผ่นดินไทย ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และจะเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง
“ขอสัญญา และให้คำมั่นว่าผมจะปฏิบัติตัวทำงานเเพื่อให้พรรคเจริญรุ่งเรือง เป็นเสาหลักในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เช่นเดียวกับหัวหน้าพรรค และจะพยายามทำงานตอบสนองต่อสมาชิกพรรค และพรรค และตอบสนองต่อความไว้วางใจของประชาชน” นายอนุชากล่าว
นายอนุชากล่าวต่อว่า หัวหน้าพรรคสั่งการให้ออกนโยบายแก้ปัญหาของประเทศ เราทำได้แน่ เพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้น ขอให้คอยดู ยืนยันด้วยความมั่นใจว่าจะนำพาประเทศ สังคม เศรษฐกิจ การเมืองสู่ความเจริญ เพื่อทำให้ประชาชนกินดี อยู่ดี พรรคเราทำได้แน่นอน ทั้งนี้ กก.บห.ชุดใหม่จะมีส่วนใน ครม.เศรษฐกิจด้วยหรือไม่นั้น เราทำงานคู่ขนานเพื่อผลิตนโยบาย มีนักวิชาการ นักธุรกิจ คนรุ่นใหม่ ช่วยกันคิดและนำเสนอถึงรัฐบาล และนายกฯ ตนมั่นใจว่าดีแน่ จะได้เห็นสิ่งดีๆ เกิดขึ้น เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นแน่นอน โดยโฉมหน้าทีมเศรษฐกิจใหม่ของพรรค จะนำโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และคนมีชื่อเสียงของประเทศ ขอให้รอตกผลึกอีกครั้ง
เมื่อถามว่าจะดึงนายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีหัวหน้าและอดีตเลขาธิการพรรคพลัฃประชารัฐมามีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ทุกฝ่ายถ้าได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ส่วนรวม คิดอ่านที่จะทำอะไรช่วยเหลือกัน เพื่อให้ประเทศชาติเป็นศูนย์รวม ที่พวกเราจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคไปทำงานให้ประชาชน และประเทศชาติให้เจริญ โดยไม่คำนึงถึงเรื่องส่วนตัว ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ส่วนเรื่องความขัดแย้งภายในพรรคนั้นจะหมดไปแน่นอน เมื่อเรามี พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค ที่มีความรัก ความเอื้ออาทร
นายอนุชากล่าวชี้แจงถึงกระแสการมีตำแหน่งใน ครม.ว่าที่ตนได้เป็นเลขาธิการพรรคไม่ได้เกี่ยวกับกลุ่มก๊วน หรือจะไปอยู่ใน ครม. ยืนยันว่าไม่ได้มองเรื่องตำแหน่งใน ครม.ตนเป็นคนทำงาน ไม่ใช่นักพูด ตนมีสมอง นักคิด นักปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วง เรื่อง ครม.เป็นเรื่องไกลตัว ที่ผ่านมาไม่เคยพูดเรื่องการทำงานว่าจะเป็นอะไรเลย มีครั้งนั้นครั้งเดียวที่พูดหลังการเลือกตั้ง
