หน.ปชป.รูดซิปปากปรับ ครม.กลัวส่งสัญญาณผิด ย้ำทุกอย่างเริ่มที่นายกฯ หากปรับ ครม.พรรคมีขั้นตอนพิจารณาอยู่แล้ว ยืนยันกินเลี้ยง ส.ส.-อดีต ส.ส.-อดีตหัวหน้าพรรค ไม่มีนัยการเมือง
วันนี้ (23 มิ.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดเลี้ยง ส.ส., อดีต ส.ส., ผู้บริหาร และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงเย็นวันนี้หลังการประชุม ส.ส.ของพรรคว่า มีการตกลงกันให้รัฐมนตรีของพรรคเวียนกันเป็นเจ้าภาพตามช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่ากสรกระทรวงคมนาคม ขอเป็นเจ้าภาพคนแรก จึงเป็นที่มาของการจัดงานเลี้ยงหลังการประชุม ส.ส.วันนี้ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้มีนัยยะทางการเมืองใดเป็นพิเศษ แต่เนื่องจากปิดสมัยประชุมมานาน เมื่อเปิดสมัยประชุม ส.ส.แล้วจึงหาโอกาสสังสรรค์กันบ้างตามสถานการณ์เท่าที่ทำได้ เพราะขณะนี้ยังมีข้อกำจัดสถานการณ์โควิด-19 อยู่
ส่วนกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี นายจุรินทร์กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรียังไม่มีการพูดคุยประเด็นนี้ ซึ่งตนเองเคยให้สัมภาษณ์แล้วว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณา เพราะการปรับ ครม. อำนาจอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ส่วนกระแสข่าวว่า รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์บางส่วนจะถูกปรับออกนั้น นายจุรินทร์บอกด้วยว่า การพิจารณารัฐมนตรีของพรรค ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับ ส.ส.ของพรรค ที่จะพิจารณาร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณา เพราะทุกอย่างจะต้องเริ่มนับหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีก่อน และไม่ทราบว่าข่าวเรื่องการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลออกมาจากทางไหน โดยขณะนี้รัฐมนตรีของพรรคทุกคนทราบภารกิจดี เพราะเป็นตัวแทนที่พรรคส่งไปปฏิบัติหน้าที่ในคณะรัฐมนตรี ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ทุกคนก็ต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่มีการประเมินการทำงานของรัฐมนตรีของพรรค แต่รัฐมนตรีของพรรคทุกคนทราบภารกิจดีอยู่แล้วว่าต้องทุ่มเทกำลังความสามารถและเวลาให้กับการทำงานเต็มที่ เพราะผลงานที่ปรากฎในคณะรัฐมนตรีก็จะส่งผลต่อพรรคด้วย และหากรัฐมนตรีทำหน้าที่แล้วไม่มีผลงานก็จะกระทบต่อพรรคด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นทุกคนต้องรู้ภารกิจและหน้าที่ที่ต้องทำ เพราะถ้าทำให้รัฐบาลมีผลงาน พรรคก็มีผลงานด้วยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล
ส่วนหลักเกณฑ์การพิจารณาหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น นายจุรินทร์ย้ำว่า ยังไม่มีสัญญาณอะไรจากนายกรัฐมนตรี จึงยังไม่อยากพูดอะไรออกไปก่อน ทุกอย่างต้องนับหนึ่งจากนายกฯ เพราะเดี๋ยวจะเป็นประเด็นโดยไม่จำเป็น ส่วนภายในพรรคก็มีกฎระเบียบอยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร แต่ขอยังไม่เปิดเผย เพราะจะทำให้สัญญานสับสนและจะเป็นปัญหามากกว่าจะทำให้ทุกอย่างไปได้ด้วยความราบรื่นเรียบร้อย