“พิเชษฐ” อ้างมติพรรคเล็ก 7 ต่อ 4 หนุน “มงคลกิตติ์” นั่ง รมต. ประกาศพร้อมยุบรวม “พลังประชารัฐ” หากเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย แถลงว่า กลุ่มพรรคเล็กไม่เคยเรียกร้องให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ถ้ามีการปรับ ครม.ก็ควรใช้โอกาสนี้ขอให้พิจารณาพรรคเล็กเข้าไปร่วมทำงานในฐานะที่พรรคทั้งหมด 11 พรรคได้ร่วมตั้งรัฐบาล โดยใช้ตัวแทนพรรคเล็กเป็นรัฐมนตรีเพื่อดูแลพรรคเล็กให้นโยบายของแต่ละพรรคได้รับการขับเคลื่อน
“ในฐานะที่ผมมีความอาวุโสสูงสุดใน 11 พรรคได้หารือกันว่า 1 ปีที่ผ่านมาเราไม่มีรัฐมนตรีจากพรรค 11 พรรคเลย หากมีการปรับก็ควรใช้โอกาสนี้เพื่อให้มีส่วนร่วมการบริหารประเทศ ผมยอมรับว่าผมไปทาบทามทุกคน มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย สาเหตุที่ทำไมต้องเป็นคุณมงคลกิตติ์ ผมดูแล้วเด็กคนนี้น่าจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ การจะทำให้เกิดการยอมรับคุณมงคลกิตติ์ก็ต้องคุยกับพรรคเล็ก และดูผลงานในสภาและการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาประเทศ เท่าที่อยู่ด้วยกันมา 1 ปีที่เป็นฝ่ายค้านอิสระ ผมได้มีโอกาสในการแนะนำว่าจะวางตัวอย่างไร ผมคิดว่าคุณมงคลกิตติ์เปลี่ยนนิสัยค่อนข้างมาก” นายพิเชษฐกล่าว
นายพิเชษฐกล่าวว่า ขณะนี้ใน 11 พรรคมีอย่างน้อย 7 พรรคให้การสนับสนุนนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในทางการเมืองต้องอยู่ด้วยการเจรจาและลายลักษณ์อักษร ถ้าตนเองไม่มีอะไรอยู่ในมือคงไม่กล้าออกมาแถลง อย่าให้ต้องประจานไปมากกว่านี้ อยากให้เป็นเรื่องภายในของพรรคการเมืองทั้ง 11 พรรค แต่เมื่อเป็นประเด็นออกมาทำให้ตนเองต้องออกมาชี้แจง ขณะนี้ประชาชนยอมรับนายมงคลกิตติ์ทั้งผลงานและการวางตัว คนจะมาบริหารประเทศต้องทันกับเหตุการณ์ ผมเป็นเองไม่ได้เพราะผมไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ NEW NORMAL ถึงที่สุดแล้วการปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับนายกฯ
นายพิเชษฐกล่าวว่า สำหรับพรรคการเมืองขนาดเล็กที่เห็นด้วยจำนวน 7 พรรค ประกอบด้วย 1. พรรคประชาธรรมไทย 2. พรรคไทยศรีวิไลย์ 3. พรรคไทรักธรรม 4. พรรคพลังชาติไทย 5. พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 6. พรรคพลังไทยรักไทย และ 7. พรรคประชานิยม
“ประชาธิปไตยขึ้นอยู่กับเสียงข้างมาก 7 พรรคเห็นด้วย 4 พรรคไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร แต่เราขอโอกาสให้พรรคเล็กเข้าไปมีโอกาสการบริหารประเทศ ถึงที่สุดแล้วไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็ไม่เป็นไรและยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลตามเดิม เพราะเป็นอำนาจของนายกฯ” นายพิเชษฐกล่าว
เมื่อถามว่า ถ้ามีโอกาสจะไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายพิเชษฐกล่าว่า อะไรที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและช่วยให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ตนเองก็พร้อม และตนเองเคยบอกรองนายกฯ ว่าอะไรที่ขับเคลื่อนไปได้ก็ต้องพิจารณา แต่ตอนนี้ยังเป็นพรรคการเมืองเล็กอยู่