“ประยุทธ์” เปิดทำเนียบฯ ต้อนรับเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ชื่นชมความสัมพันธ์ไทยอินโดนีเซียที่ราบรื่นใกล้ชิด และชื่นชมการจัดการโควิด-19 ของไทย
วันนี้ (18 มิ.ย.) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอะฮ์มัด รุซดี (H.E. Mr. Ahmad Rusdi) เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรียินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียมีความใกล้ชิดระหว่างกัน และยินดีที่ครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีนี้ เชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศต่างพร้อมที่จะมุ่งสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ ที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริม และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ในช่วงตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ดำรงตำแหน่งในประเทศไทย และขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยพร้อมทำงานร่วมกับเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ คนใหม่ อย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ ชื่นชมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่ราบรื่นมาอย่างยาวนาน และขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความร่วมมือ และสนับสนุนการทำงานของอินโดนีเซียเสมอมา ประทับใจที่ได้ดำรงตำแหน่งในประเทศไทย และมีโอกาสได้เข้าร่วมในพิธีการสำคัญของประเทศไทย นอกจากนี้ อินโดนีเซียพร้อมสนับสนุนความร่วมมือด้านการทหาร และความมั่นคงกับประเทศไทย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่การค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับอินโดนีเซียมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ฝ่ายอินโดนีเซียพิจารณาผ่อนปรนมาตรการควบคุมการนำเข้าพืชสวนของไทย เพื่อจะเป็นอีกโอกาสในการเพิ่มพูนมูลค่าทางการค้ายิ่งขึ้น รวมทั้งยินดีกับความคืบหน้าในการจัดทำร่างแถลงการณ์ร่วมด้านการประมงระหว่างกันเพื่อแก้ไขปัญหา IUU ที่ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญ ทั้งนี้ ด้านการศึกษา นายกรัฐมนตรีขอบคุณอินโดนีเซียที่ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักศึกษาชาวไทยไปศึกษาต่อที่อินโดนีเซียในสาขาต่างๆ โดยนักศึกษาไทยจะได้เรียนรู้การดำเนินชีวิตของมุสลิมสายกลางที่อินโดนีเซียเป็นต้นแบบด้วย
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ร่วมกัน โดยเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ ชื่นชมนายกรัฐมนตรีในการควบคุมการแพร่ระบาดในไทยได้เป็นอย่างดี เป็นที่ยอมรับ อินโดนีเซียพร้อมเรียนรู้จากประสบการณ์ มาตรการ และการดำเนินการของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอบคุณอินโดนีเซียที่ให้สนับสนุนภารกิจช่วยเหลือคนไทยในประเทศอินโดนีเซียให้เดินทางกลับมาประเทศไทย และยินดีร่วมมือกับอินโดนีเซียในด้านสาธารณสุข และการควบคุมโรค พร้อมเชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะฟื้นตัวกลับมาอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้น