“สัณหพจน์” ชี้งบแผนงาน สธ. 4.5 หมื่นล้านไม่น่าพอ ฝากดูแลนักรบโควิดท้องถิ่น เพิ่มสวัสดิการตรวจสุขภาพประจำปี มั่นใจเงินกู้ 1 ล้านล้าน มีสำรองไว้ส่วนหนึ่งเผื่อมีการระบาดรอบสอง หวั่นงบฟื้นฟู 4 แสนล้านดัน ศก.ไม่เปรี้ยง ควรอัดงบ ศก.ฐานรากเพิ่มเติม
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ อภิปราย พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงินรวม 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของการกำหนดแผนงานเพื่อการแพทย์และสาธารณสุข 4.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีข้อสังเกตว่ายังไม่เพียงพอ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขบอกว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณปกติเข้าไปด้วย และจะมีงบประมาณช่วยเหลืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.), แพทย์ประจำตำบล, กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับ ทั้งนี้ อยากให้มีการเพิ่มสวัสดิการตรวจสุขภาพประจำปีด้วย
ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยให้แก่ภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 6 แสนล้านบาท นายสัณหพจน์กล่าวว่า มีการใช้เพียง 2.4 แสนล้านบาท ยังเหลืออีกประมาณ 3.6 แสนล้านบาทที่ยังไม่ได้ใช้ ซึ่งรัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คงจะมีการเยียวยาต่อไปให้ทั่วถึง ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้น มองว่างบประมาณที่กู้มารัฐบาลไม่ได้เอามาใช้ทั้งหมด แต่สำรองไว้เผื่อมีการระบาดรอบที่ 2 แต่ถ้าไม่เกิดขึ้นก็ไม่จำเป็นต้องกู้เงินถึง 1 ล้านล้านบาท แต่หากงบประมาณไม่เพียงพอ ก็ยังมีงบการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมอีก 4 แสนล้านบาท ที่สามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งต้องกู้ภายในวันที่ 30 ก.ย. 63
ส่วนที่กังวลว่าจะเป็นการตีเช็คเปล่านั้น นายสัณหพจน์กล่าวว่า มีการตั้งคณะกรรมการมาเพื่อกลั่นกรองและติดตาม เพื่อนำงบประมาณมาใช้อย่างเป็นธรรมและโปร่งใสอยู่แล้ว ขณะที่การเยียวยาประชาชนเกษตรกรและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจะมีความต่อเนื่องไปถึงเดือนกันยายน และมีความต่อเนื่องถึงปีงบประมาณ 2564 และย้ำว่ารัฐบาลต้องการดูแลสุขภาพและชีวิตของประชาชนเป็นอันดับแรก บริหารจัดการกับวิกฤตได้ดีจนเป็นที่ประจักษ์ในสายตานานาชาติ และเป็นประเทศที่น่าลงทุนอันดับต้นๆ มีการสาธารณสุขดีติดอันดับโลกขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรป มีทิศทางผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จึงขอให้เข้าใจว่าการรักษาชีวิตและสุขภาพแปรผกผันกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
“รัฐบาลจะนำพาประเทศไทยให้ชนะได้และจะฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยงบประมาณ 4 แสนล้านบาท แต่ยังถือว่าเป็นงบประมาณที่ยังไม่มากพอ ควรจะมีงบประมาณสร้างเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนเพิ่มเติม ขณะที่หนี้สาธารณะร้อยละ 57 ก็ยังอยู่ภายใต้เพดานหนี้สาธารณะ” นายสัณหพจน์ระบุ
