xs
xsm
sm
md
lg

“เกียรติ” ติง กก.กลั่นกรองเงินกู้ ขัดหลักธรรมาภิบาล แนะ 3 กฎเหล็กฝ่าวิกฤต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เกียรติ สิทธีอมร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
ส.ส.ปชป. อภิปรายกังวลมาก พ.ร.ก.เงินกู้ แถมชี้ กก.กลั่นกรองขัดหลักธรรมาภิบาล ซัด ก.คลัง ไม่กล้าคาดการณ์เศรษฐกิจไทย หลังเอกชน-ไอเอ็มเอฟ ระบุ ติดลบร้อยละ 7-8 พร้อมเสนอ 3 กฎเหล็กผ่าวิกฤตป้องกันรัฐโลกสวย

วันนี้ (28 พ.ค.) นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า เราเป็นห่วง พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาทกู้เยอะแต่รายละเอียดน้อย ตนกังวลมาก เพราะไม่มีรายละเอียดแหล่งที่มาเงินกู้ 1 ล้านล้านใน พ.ร.ก. เงินกู้ ในมาตรา 3 บอกว่าระบุให้ชัด แต่เมื่อวันที่ 27 พค. รัฐบาลยังไม่ระบุชัดจะกู้วิธีไหน ทั้งนี้ การคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2020 จะเห็นว่า สำนักของไทยคิดบวกเกินไป ภาคเอกชนบอกว่าติดลบ ร้อยละ 8-11 ไอเอ็มเอฟบอกว่าติดลบใกล้ร้อยละ 7 แต่ที่ฉงน คือ กระทรวงการคลัง ท่านแจ้งหน้าตาเฉยเลยว่าจะงดแถลงจนกว่าไทยจะเข้าสู่สภาวะปกติ อยากถามว่า อีก 2 ปี หรือ ถ้าไม่ปกติอีก 2 ปี ท่านจะหยุดทำงาน

ขณะที่การคาดการณ์ซื้อขายสินค้าทั่วโลก ติดลบประมาณร้อยละ 20 และคาดหวังนักท่องเที่ยวจีน จะยังไม่กลับมา ถ้าจะทำให้ทุกอย่างตรงเป้า ต้องปรับคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ใน พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ระบุว่า จะใช้แนวทางสากล อยากบอกว่าคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฟื้นฟู กับเยียวยาเป็นคนละคนกัน ความชำนาญไม่เหมือนกัน การไปดูฟื้นฟูอยากให้มีกรรมการกลั่นกรองฯ กลุ่มฟื้นฟูโดยเฉพาะ เข้าไปมีส่วนร่วม ไม่ใช่รัฐบาลเป็นคุณพ่อรู้ดี เพราะเรามีธุรกิจ 3 กลุ่มที่ดูแลไม่เหมือนกัน โดยมีการจ้างงานประชาชนหลายสิบล้านคน

“คิดดูแนวทางฟื้นฟู ใน พ.ร.ก.1 ล้านล้านบาท เสนอโดยคณะกรรมการกลั่นกรอง คือ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และพิจารณาโดยสภาพัฒน์ และกระทรวงการคลัง ขณะที่คนทำรายงานความก้าวหน้า ก็คือ สภาพัฒน์ อย่างนี้หลักธรรมาภิบาลผมว่าไม่ใช่”

นายเกียรติ กล่าวว่า ในส่วน พ.ร.ก. ช่วย SME 5 แสนล้าน ไปไม่ถึงบุคคลเป้าหมาย โดยการจ่ายเงินผ่านธนาคารออมสิน และให้เฉพาะลูกค้าชั้นดี ทั้งที่เขาไม่ต้องการสินเชื่อ โดย พ.ร.ก.ฉบับนี้ ไม่มีการคัดกรอง ให้ธนาคารเลือกเอง ตนไปสอบถามผู้จัดการสาขาธนาคาร ได้รับว่า เงินไม่ถึงธนาคารสาขา เพราะสำนักงานใหญ่ธนาคารจัดการเองทั้งหมด ถือว่าน่าเป็นห่วง จึงต้องมีกรรมการกลั่นกรองฯเพิ่มขึ้น มิเช่นนั้น จะพลาดเป้าหมด

นอกจากนี้ ยังขอให้ปรับการตรวจสอบ พูดว่าโปร่งใสเฉยๆ ไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับการจัดการ การเปิดเผยข้อมูลแบบเรียลไทม์จำเป็น รวมทั้งการเอาเงินทั้งหมดไปใช้ตรงกับเป้ามีความจำเป็นจริงๆ และสุดท้ายขอเสนอให้ใช้กฎเหล็ก 3 ข้อผ่านวิกฤต คือ 1. แก้วิกฤตต้องคิดลบ พร้อมสยบทุกปัญหา 2 .กระสุนมีจำกัด ทุกนัดต้องเข้าเป้า และ คอร์รัปชันต้องป้องกันไม่ใช่ลั่นว่าไม่มี


กำลังโหลดความคิดเห็น