“วิรัช” แถลง วิปรัฐบาล-ฝ่ายค้าน เคาะมติให้พิจารณา พ.ร.ก.รวดเดียว 4 ฉบับ ตั้งแต่ 27 พ.ค.- 31 พ.ค. เสร็จก่อน 2 ทุ่มทุกวัน ให้เวลาอภิปรายเต็มข้อ 24 ชม.
วันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงผลการประชุมร่วมกับวิปฝ่ายค้าน ว่า ในการประชุมครั้งนี้มี นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาคนที่ 1 และ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมฟังด้วย โดยที่ประชุมมีมติให้รวม พ.ร.ก.3 ฉบับ พิจารณาไปพร้อมกัน โดยเริ่มพิจารณาวันที่ 27 พ.ค. เวลา 09.30 น. เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ1 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 10.30 น. จะเสนอหลักการและเหตุผลของ พ.ร.ก. ทั้ง 3 ฉบับ ได้แก่ 1. พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 2. พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 และ 3. พระราชกำหนดการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 โดยระยะเวลาที่กำหนดให้สมาชิกอภิปรายจะสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค. และลงมติก่อนเวลา 15.00 น. ของวันที่ 31 พ.ค.จากนั้นเป็นการพิจารณา พ.ร.ก.ฉบับที่ 4 พระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 โดยให้เสร็จก่อนเวลา 20.00 น.ในวันดังกล่าว ส่วน พ.ร.บ.โอนงบจะพิจารณาในสัปดาห์ถัดไป แต่จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาเต็มสภาหรือไม่ในวันนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน
นายวิรัช กล่าวต่อว่า การอภิปรายในทุกวันจะต้องเสร็จก่อนเวลา 20.00 น. เพื่อให้ทุกคนได้กลับบ้านทันเวลาเคอร์ฟิว 23.00 น. ทั้งนี้ สัดส่วนเวลาการอภิปรายทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านจะได้ฝ่ายละ 20-24 ชั่วโมง โดยสัดส่วนของ ครม.จะอยู่ในเวลาของรัฐบาล ส่วนเรื่องการประท้วงทางมีเกิดขึ้นจะหักเวลาของฝ่ายนั้นๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและในแต่ละวันจะตรวจสอบเวลาทั้งหมด เพราะเกรงเกิดปัญหาระหว่างการอภิปราย ส่วนวิปรัฐบาลจะนัดหารือกันวันที่ 26 พ.ค.เวลา 10.00 น.
ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่รวมพิจารณา พ.ร.ก.3 ฉบับทั้งที่ก่อนหน้าที่ฝ่ายค้านได้คัดค้าน นายวิรัช กล่าวว่า เนื่องจากเห็นว่า พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันสามารถพูดครอบคลุมไปได้ มิเช่นนั้น จะทำให้สมาชิกต้องอภิปรายทุกฉบับ แม้จะรวมอภิปรายแต่เวลาลงมติก็จะแยกกัน ซึ่งฝ่ายค้านก็เห็นด้วย