“องอาจ” ห่วงแรงงานนอกระบบรับผลกระทบโควิด-19 ชง 3 มาตรการต่อรัฐบาลช่วยเหลือเยียวยา ขอรัฐบาลช่วยอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมยกระดับทักษะรายงานให้สอดคล้องกับอนาคต
วันนี้ (23 เม.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ว่ากลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างรุนแรงมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง คือ แรงงานกลุ่มเปราะบาง ซึ่งมักจะทำงานในเศรษฐกิจนอกระบบได้ค่าจ้างเป็นรายวันหรือเป็นครั้งคราว เป็นงานที่ใช้ทักษะไม่ซับซ้อน ไม่ต้องใช้พื้นฐานการศึกษาที่สูง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากตามชุมชนแออัด ยิ่งถ้าเป็นผู้พิการก็จะมีความยากลำบากมากยิ่งขึ้น เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 จนนำมาสู่การล็อกดาวน์ แรงงานกลุ่มเปราะบางที่ทำงานนอกระบบกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบทันทีเพราะมีชีวิตแบบหาเช้ากินค่ำ เมื่อนายจ้างไม่สามารถจ้างงานได้ คนกลุ่มนี้จะไม่มีรายได้ทันที ไม่มีเงินเก็บมากพอจะอยู่ได้จนกว่าโควิด-19 จะคลี่คลายและไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมจึงไม่ได้รับการคุ้มครอง
นายองอาจกล่าวว่า ทุกวันนี้กลุ่มคนเหล่านี้ลำบากมากขึ้น ตราบใดที่ไม่มีการจ้างงานแต่ที่ยังมีอาหารพอประทังชีวิตไปได้ก็มาจากการช่วยเหลือกันเองในชุมชน การได้รับบริจาคถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง ข้าวกล่องจากผู้ใจบุญ แต่การบริจาคต่างๆ ก็ไม่ได้ทั่วถึงและไม่ได้ต่อเนื่องแรงงานกลุ่มเปราะบาง แรงงานนอกระบบกลุ่มนี้ เข้าไม่ถึงการเยียวยา 5,000 บาทต่อเดือนของรัฐบาลด้วยหลายสาเหตุ รัฐบาลจึงควรเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง ดังนี้
1. แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จัดหาข้าวสาร อาหารแห้งให้พอประทังชีวิตได้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยใช้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้านอยู่แล้วเป็นกลไกในการประสานความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ 2. รัฐบาลควรใช้วิกฤตครั้งนี้ วางแผนจัดระบบแรงงานนอกระบบให้เป็นหมวดหมู่ ใช้เทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้รู้ว่าใครทำงานอะไรที่ไหนอย่างไร เพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงทีกรณีที่เกิดวิกฤตและวางแผนพัฒนาการใช้แรงงานนอกระบบให้มีคุณภาพที่ดีกว่าเดิม และ 3. ส่งเสริมยกระดับทักษะรายงานกลุ่มนี้ให้สูงขึ้น สร้างทักษะใหม่ที่สอดคล้องกับงานในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไป หลังวิกฤตโควิด-19 เพราะถ้าไม่มีการยกระดับทักษะในระยะยาว อาจมีการใช้แรงงานข้ามชาติเข้ามาทดแทนได้ ซึ่งจะกระทบต่อแรงงานกลุ่มเปราะบาง แรงงานนอกระบบที่เป็นคนไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จึงขอฝากให้รัฐบาล ต้องเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเยียวยาให้คนกลุ่มนี้ มีชีวิตอยู่ได้ไม่อดตาย และเร่งวางแผนแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบเพื่อให้พบแสงสว่างในชีวิตหลังวิกฤตโควิด-19 อย่างมั่นคงขึ้นกว่าเดิม