xs
xsm
sm
md
lg

“วิษณุ” ย้ำไม่ได้ขอเงินเศรษฐี ระบุผ่อนปรน กม.-ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยู่ที่นายกฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ ยัน จม.ถึงเศรษฐี ไม่ได้ขอเงิน สลค.ร่าง ระดมความคิดได้ ไม่ชัวร์ผ่อนปรน กม.อยู่ที่นายกฯ ปัดติดขัดงบช่วยโควิด-19 ยังไม่คุยขยาย พ.ร.ก.-เปิดห้าง แย้มต่อไปประกาศต้องเหมือนกันทั่วไทย ชี้อย่าใช้อารมณ์ปัญหาลักลั่นของหน่วยงาน

วันนี้ (20 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงจดหมายเปิดผนึกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะทำถึง 20 มหาเศรษฐีในไทยว่า ยืนยันว่าจดหมายดังกล่าวไม่ใช่การขอเงิน จดหมายดังกล่าวทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ร่าง ตนไม่ได้ร่างเอง ส่วนจะเอาให้ตนดูก่อนหรือไม่นั้น โดยปกติก็ควรจะเป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้มีการบังคับอะไร ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องนำเข้า ครม.เพราะเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับ ครม. เว้นแต่นายกฯ ต้องการจะนำมาหารือใน ครม.ก็แล้วแต่ ซึ่งในที่ประชุมประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) วันนี้ไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม มีสื่อเอาไปลงข่าวกันว่าตนบอกว่ามีเศรษฐี 20 ราย ส่วนตัวตนไม่เคยพูดถึงจำนวนตัวเลขเลย และก็รู้ว่าไม่ใช่ 20 ราย

ผู้สื่อข่าวถามว่าในทางกฎหมาย การช่วยเหลือประเทศชาติด้วยการระดมความคิดเช่นนี้สามารถทำได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า สามารถทำได้หมดทุกอย่าง เงินก็ได้ สิ่งของก็ได้ โครงการก็ได้ หรือการแนะนำก็ได้ ขณะนี้เขาก็ทำกันอยู่ ก็ขอให้รอดูรายละเอียดกันซึ่งตนไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ ดีไม่ดีอาจจะวันนี้ก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าในที่ประชุมวันนี้มีการหารือถึงการผ่อนปรนกฎหมายอะไรในวันศุกร์นี้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะข้อมูลทั้งหมดทุกคนรายงานมาที่นายกฯ ซึ่งท่านจะนำไปตัดสินใจเองเนื่องจากท่านต้องชั่งน้ำหนักหลายอย่าง และไม่จำเป็นต้องนำเข้า ครม. ขึ้นอยู่กับนายกฯ เลย เพราะทุกคนให้ข้อมูลไปแล้ว

“การออกมาตรการต่างๆ ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี แต่นายกฯ อาจนำมาหารือในที่ประชุม ครม.ก็ได้ หรืออาจจะเรียกผู้เกี่ยวข้องบางรายมาหารือก็ได้ ไม่เช่นนั้นจะเรียกว่าสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ”

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวว่ามีความติดขัดในเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณเงินช่วยโควิด 30 ล้านบาทของสำนักนายกที่เปิดรับบริจาคที่จะต้องมีการแก้ไขระเบียบเพื่อนำเงินออกมาใช้ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีการแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น มีแก้แต่เรื่องอื่น ไม่มีเรื่องนี้

เมื่อถามว่าในที่ประชุมวันนี้มีการหารือถึงการขยาย พ.ร.ก.หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี ทั้งนี้หากจะมีการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกฯจะต้องนำเข้าที่ประชุม ครม.ก่อนวันที่ 30 เม.ย.ที่จะครบกำหนด และหากจะเป็นกรณีฉุกเฉิน เร่งด่วน มาตรา 5 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ระบุให้นายกฯ สามารถประกาศไปก่อนโดยไม่ต้องเข้า ครม.ก็ได้ จากนั้นค่อยรีบนำเข้า ครม.ภายหลัง เพราะถ้าไม่ทันก็ต้องทำเช่นนี้ ซึ่งสามารถบอกกันก่อนได้ ไม่ต้องจู่โจม ที่เขาเขียนว่าประกาศก่อนแล้วค่อยไปขอนั้นเขาหมายถึงกรณีก่อการร้าย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการห้ามขายสุรา ที่ครบกำหนดวันนี้จะมีการขยายต่อหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของ กทม.ที่จะพิจารณา แต่รัฐบาลตั้งใจว่าต่อไปหากจะต้องขยายก็ควรจะปรับให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศเพราะขณะนี้แต่ละจังหวัดคำสั่งไม่เหมือนกันก็เลยอาจจะยุ่ง อย่างการประกาศเคอร์ฟิว รัฐบาลประกาศห้าม 22.00- 04.00 น. แต่ทาง กทม.ประกาศ 22.00-05.00 น. เพราะ กทม.ประกาศก่อนที่รัฐบาลประกาศ แต่หากมีการทบทวนเรื่องการขยายเวลาการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะขยายกี่วันก็แล้วแต่ ก็ต้องตัดให้เข้ามาสู่ระบบเดียวกันให้หมดเพื่อเลิกก็จะได้เลิกเหมือนกัน ผ่อนก็ผ่อนคล้ายกัน

เมื่อถามว่ามีการพูดกันถึงปัญหาความลักลั่นของหน่วยงานอย่างการขนส่งที่ จ.ตรังหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า มีพูดถึง ได้ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผบ.สส.ไปช่วยดูด้านนี้ เพราะในความเป็นจริงการขนส่งสินค้าสามารถทำในระหว่างเคอร์ฟิวได้อยู่แล้ว แต่บังเอิญกรณีนี้มีซ้อนกัน 3 ประเด็นจึงทำให้เจ้าหน้าที่ลำบากใจ คือ 1. เป็นการขนส่งในเวลาเคอร์ฟิว 2. ข้ามจังหวัด และ 3.ไม่ใช่สินค้าที่เราเข้าใจกัน หรือยกเว้นกรณีอย่างนี้นายกฯ ได้สั่งการแล้วว่า ควรจะมีการผ่อนผันผ่อนคลาย หรือให้เขาช่วยจัดระเบียบปรับให้เข้าหลักเกณฑ์

ทั้งนี้ โดยหลักแล้วรัฐบาลเอื้อและส่งเสริมให้ทำแบบนี้ เพียงแต่ว่าควรให้เป็นระเบียบแบบแผน ไม่เช่นนั้นจะเกิดการแอบอ้างกันขึ้น คือเอาอะไรขนส่งไปก็ได้ ดังนั้น ข้อสั่งการในวันนี้คือพยายามไปคลี่คลายให้ดี อย่าใช้อารมณ์กัน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีห้างสรรพสินค้าส่งหนังสือถึงผู้ประกอบการให้เตรียมตัวจะเปิดในวันที่ 1 พ.ค.นี้ จะต้องมีการออกระเบียบอะไรหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีการพูดถึงเรื่องการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินเลย มีแต่ทุกคนรายงานสถานการณ์ที่ผ่านมาให้นายกฯ ฟัง ทั้งเรื่องของหน้ากากอนามัย หรือคนที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว หรือรายงานผู้ติดเชื้อ ฯลฯ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่นายกฯ และอยู่ที่นายกฯ จะตัดสินใจอย่างไร หรืออาจจะเอาเข้า ครม.หรืออาจจะเรียกบางกลุ่มมาก็ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น