นายกฯ เรียก ผบ.ทสส.-ผบ.ตร.หารือวงเล็ก ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานตั้งด่านเกือบ 1,000 จุดทั่วประเทศ กำชับให้ผู้บังคับบัญชาดูแลกำลังเพราะสถานการณ์แพร่ระบาดอาจยืดเยื้อ สั่งเข้มด่านธรรมชาติชายแดนใต้ หลังคนไทยในมาเลย์-อินโดฯ เตรียมทยอยเดินทางกลับ
วันนี้ (17 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฎิบัติหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยช่วงเช้า นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำภาคเอกชนเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อมอบเครื่องดื่มแบรนด์ซุปไก่สกัดสำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมี พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร่วมรับมอบส่งต่อกำลังพล โดยนายกฯ ขอบคุณภาคเอกชนที่ช่วยกันดูแลเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีร่วมหารือวงเล็กกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประเมินสถานการณ์การดูแลความเรียบร้อย ตลอดช่วงเวลาที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายนนี้ และภาพรวมการบังคับใช้กฎหมายหลังประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกจากเคหสถานไปเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อนำมาพิจารณาผ่อนปรนบางมาตรการต่อไป
โดยนายกฯ กำชับให้ผู้บังคับบัญชาดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด เพราะต้องควบคุมการแพร่ระบาด เพราะสถานการณ์อาจจะยืดเยื้อ พร้อมกันนี้ได้สอบถามเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลที่มีการตั้งด่านตรวจเกือบ 1,000 จุดทั่วประเทศ โดยเฉพาะด่านชายแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีช่องทางธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังประเมินคนไทยที่มาเลเซีย อินโดนีเซีย เดินทางกลับในช่วง 1-2 วันนี้ ในการเตรียมความพร้อมพื้นที่กักตัวรองรับซึ่งจะมีคนไทยทยอยเดินทางเข้ามาใน 5 ด้านจังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะที่มีภาคเอกชน หน่วยางานต่างๆ ทยอยบริจาคสิ่งของช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือ ส่วนเงินบริจาคสมทบกองทุนสู้โควิด-19 ของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีนั้นกำลังอยู่ระหว่างแก้ไขระเบียบบางอย่างเพื่อนำเงินมาใช้
ส่วนการเยียวยาพระสงฆ์บางวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 นั้น ล่าสุดยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุม ครม. รอสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติสรุปมาก่อน แต่เบื้องต้นการดูแลพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ นั้น วัดใหญ่ดูแลวัดเล็กกันเอง วัดใหญ่ที่มีศักยภาพก็ได้ทำโรงทานเพื่อช่วยเหลือประชาชนซึ่งขณะนี้มีเกือบ 200 วัดที่ได้เปิดโรงทาน
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า วันเดียวกันนี้ เวลา 11.30 น. นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้บันทึกเทปเพื่อออกอากาศผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ (ทรท.) ซึ่งเป็นการรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของ ศบค.ให้ประชาชนรับทราบ โดยไม่มีการประกาศเพิ่มเติม หรือประกาศผ่อนปรนมาตรการที่เข้มงวดแต่อย่างใด โดยจะเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบทั่วกันวันนี้ในเวลาประมาณ 18.00 น.