รองโฆษก ทบ. เผย “อภิรัชต์” กำชับกองทัพภาคเตรียมมาตรการเปิดด่านชายแดนรับคนไทยกลับประเทศ 18 เม.ย. พร้อมให้หน่วยทหารนำผลผลิตทหารพันธุ์ดีช่วย ปชช. เตรียมเสนอสิทธิเพิ่มเติมให้กำลังพลสายแพทย์ที่ทุ่มเทสถานการณ์โควิด-19
วันนี้ (16 เม.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศ โดยมีการรายงานการเตรียมความพร้อมของกองกำลังชายแดนของกองทัพบก ในการปฏิบัติงาน ณ พื้นที่ด่านตรวจ
ด่านคัดกรองการเข้า-ออกประเทศทางบก รองรับมาตรการที่ทางรัฐบาลจะอนุญาตให้มีการเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรของคนสัญชาติไทยจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านจุดผ่านแดนถาวร ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. 63 เป็นต้นไป ซึ่ง ผบ.ทบ. ได้กำชับให้กองทัพภาคได้ประสานงานกับแต่ละจังหวัด ด่านตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การดูแลและอำนวยความสะดวกประชาชนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ครอบคลุมทั้งด้านกฎหมายและสาธารณสุข ตามขั้นตอนที่ได้กำหนดไว้ อาทิ การตรวจสอบประวัติ การคัดกรองโรค การเคลื่อนย้าย และการนำเข้าสู่กระบวนการสังเกตอาการและสถานที่ควบคุม โดยให้ทุกกองทัพภาคปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน ครอบคลุมไปถึงการเพิ่มความเข้มงวดป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ ทั้งนี้ในปัจจุบันกองกำลังชายแดนของกองทัพบกได้จัดชุดคัดกรองสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ณ จุดผ่านแดนทางบก จำนวน 15 จุดทั่วประเทศ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ ผบ.ทบ. ได้กล่าวถึงศักยภาพด้านการแพทย์ของกองทัพบกในการสนับสนุนรัฐบาล และดูแลประชาชน และกำลังทหารในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะบุคลากรทางด้านการแพทย์ของกรมแพทย์ทหารบก ที่สามารถบริหารจัดการตามแนวทางของศูนย์โควิด-19 รัฐบาล ทั้งด้านการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลและการดูแลสถานที่ควบคุมแห่งรัฐทั้ง 3 แห่ง ที่กองทัพบกรับผิดชอบ รวมถึงการเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนามได้เป็นอย่างดี โดยระบุว่า กองทัพบกจะได้เสนอขอให้กระทรวงกลาโหมและรัฐบาลพิจารณาการดูแลสิทธิกำลังพลและสวัสดิการเพิ่มเติมให้กับบุคคลากรทางการแพทย์เหล่านี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และความก้าวหน้าในวิชาชีพ อย่างไรก็ตาม การเตรียมกำลังบุคลากรทางด้านการแพทย์ ยังคงมีความจำเป็น ผู้บัญชาการทหารบกสั่งการให้มีการจัดประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติให้กับกำลังพลเหล่าแพทย์ที่ไม่ได้ปฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาล ที่กองทัพบกได้จัดทำบัญชีรายชื่อไว้แล้ว ให้พร้อมเป็นกำลังเสริมและช่วยแบ่งเบาภาระของบุคคลากรสายแพทย์ที่เป็นกำลังหลัก
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าในการดูแลสถานที่ควบคุมแห่งรัฐที่กองทัพบกได้รับมอบหมายให้จัดตั้งทั้ง 3 แห่ง คือ โรงแรมเดอะภัทรา, โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กทม. และ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ชลบุรี นั้น ขณะนี้ทั้ง 2 สถานที่แรก มีผู้เข้ารับการสังเกตอาการจำนวน 496 คน ส่วนที่ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ชลบุรี ได้มีการเตรียมสถานที่และซักซ้อมการปฏิบัติพร้อมที่จะรับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศชุดแรก (มัลดีฟส์) เข้าพักพิงในบ่ายวันนี้ (16 เม.ย.) จำนวน 82 คน โดยมีชุดคัดกรองและรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลค่ายนวมินทราชินี และ ชุดรักษาความปลอดภัยจากมณฑลทหารบกที่ 14 รับผิดชอบ
”ผบ.ทบ. ยังได้ชื่นชมหน่วยทหารที่ใช้ศักยภาพและนำยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่ออกมาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในหลายลักษณะ อาทิ การนำรถครัวสนามประกอบอาหารปรุงสดแจกจ่ายให้ประชาชน โดยมีภาคส่วนต่างๆ ร่วมให้การสนับสนุน, การประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนจัดทำถุงยังชีพไปมอบให้ประชาชน และที่สำคัญคือ ขอให้หน่วยทหารได้น้อมนำแนวทางพระราชทานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการนำพืชผักและผลิตผลจากโครงการทหารพันธุ์ดีที่หน่วยดำเนินการอยู่ออกจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาย่อมเยา เป็นการแสดงความมีน้ำใจ แบ่งปันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ขอให้หน่วยทหารช่วยดูแลประชาชน ป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่ม รวมถึงขอให้กำลังใจทุกคนให้อดทนเคร่งครัดปฏิบัติตนตามมาตรการลดการติดเชื้อของภาครัฐ เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาสู่สภาวะปกติโดยเร็ว” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว