มาอีกคน “กาณฑ์ อยากเลือกตั้ง” ปรี๊ดใส่ นพ.ทวีศิลป์ “เชลียร์ลุงตู่” บ้าอำนาจ ถามแรง หมอหรือเทวดาถึงแตะไม่ได้ “อัษฎางค์” เอือมระอาพวกเหยียดหยามชาติไม่อายฝรั่ง “ว.วินิจฉัยกุล” ร่ายกลอนเป็นกำลังใจ “หมอทวีศิลป์” คือทองแท้
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (14 เม.ย. 63) เฟซบุ๊ก Karn Sasiphat Pongpraphapan นายกาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์ข้อความระบุว่า
“คุณทวีศิลป์ เป็นหมอหรือเป็นเทวดาคะ? แตะไม่ได้เลย ติ่งต้องดิ้นพล่านๆ แก้ตัวแทนหมอให้ก็ไม่ถูก 555 ฉงฉานนนนน”
หลังจากวานนี้ นายกาณฑ์โพสต์วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ว่า
“เป็นโฆษก ก็ทำหน้าที่โฆษก เป็นแต่โฆษกแต่ดันทำหน้าที่พ่อทั้งแผ่นดิน เขาเรียกว่าทำเกินหน้าที่
- อวยนายกรัฐมนตรีก่อนแถลงทุกครั้ง ทั้งๆ ที่ก็ไม่ใช่หน้าที่โฆษก ศบค.
- โฆษก ศบค.ควรจะชี้แจงเฉพาะเรื่องสาธารณสุข การแพทย์ สุขภาพประชาชนเท่านั้น
- คุณหมอไม่มีหน้าที่สั่งสอนประชาชน ชี้นิ้วให้ประชาชนทำอันนี้ ไม่ทำอันนี้ คุณเป็นจิตแพทย์ธรรมดา ไม่ใช่แม้แต่ผู้บริหารประเทศ หรือกระทั่งตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง
- เป็นหมออย่าคิดว่าฉลาดไปซะทุกเรื่อง เพราะหมออย่างคุณหมอทวีศิลป์เองก็โง่ในเรื่องที่ควรฉลาด และจะฉลาดในเรื่องโง่ๆ คอยพูดจาแดกดันประชาชนอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นเศรษฐกิจปากท้อง ผักสวนครัวรั้วกินได้ แม้กระทั่งวันนี้
- ทักษะการสื่อสารแก่ประชาชนให้ดูน่ารักน่าชม ควรเอาหมอท่านอื่นที่มีคุณสมบัติตรงงาน และคิดว่าประเทศไทยมี ที่ไม่ใช่คุณหมอที่บ้าอำนาจ เช่น นายทวีศิลป์
ฝากไว้แค่นี้นะคะ #จุ้ฟๆ”
อีกโพสต์ดูเหมือนเป็นคนละเรื่อง แต่ก็เป้าหมายไม่ต่างกัน โดยเฟซบุ๊ก “อัษฎางค์ ยมนาค” ของนายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์หัวข้อ “คนชังชาติ มีจริงหรือไม่? ไทยเจ๋งจริงหรือแค่หลอกตา?”
โดยระบุว่า “ยกตัวอย่างแค่เรื่องโควิด-19 เรื่องเดียวนะ
“คนไทยจำนวนมาก” พูดกันว่า และเชื่อว่าที่ไทยมียอดผู้ติดเชื้อต่ำมาก เมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ รวมทั้งตอนเริ่มต้นเคยอยู่อันดับ 2 รองจากจีน แล้วหลุดจากอันดับ 2 ลงมาอย่างต่อเนื่อง เพราะ...
เพราะรัฐบาลไทยแกล้งไม่ตรวจประชาชนให้ทั่วถึง เพื่อทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อมีจำนวนน้อย
ตัดฉากไปที่ “ต่างชาติมองไทย” ว่ายังไง?
ต่างชาติยกย่องว่า รัฐบาลไทยจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประชาชนมีความตระหนักและให้ความร่วมมือค่อนข้างดีมาก ภาพประกอบที่นำมาโพสต์นี้ ได้มาจากสื่อญี่ปุ่น Nikkei Asia Review
อีกหนึ่งตัวอย่างคือ ผมอยู่ที่ออสเตรเลีย ประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้ากว่าไทยไม่รู้กี่เท่าในทุกด้าน แต่ไม่มีภาพแบบนี้เลย ภาพที่คนเกือบ 100% ใส่หน้ากาก, การเว้นระยะห่าง, การต่อแถวแบบที่ยืนห่างกัน ทั้งๆ ที่รัฐบาลออสซี่ก็มีทั้งคำแนะนำ และกฎข้อบังคับ แต่ออสเตรเลียยังดีกว่าอเมริกา และยุโรปเยอะ นั้นคือข้อเท็จจริงที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตในเมืองไทยน้อยกว่าชาติฝรั่งทั้งหลายมากมายมหาศาลอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งมันคือผลของการทำงานหนักของรัฐบาล ทีมงานสาธารณสุข รวมไปถึงความตระหนักและการให้ความร่วมมือของประชาชนคนไทย มันคือผลของการทำงานหนักของภาครัฐ และความตระหนักในการให้ความร่วมมือของภาคประชาชน ถ้ารัฐละเลยที่จะตรวจหาผู้ติดเชื้อจริง แล้วเรามียอดผู้ติดเชื้อมากกว่าตัวเลขที่รัฐบาลประกาศจริง ยังไงมันจะแสดงผลออกมาอยู่ดี เพราะถ้ามีผู้ติดเชื้อเพ่นพ่านอยู่ทั่วประเทศ ผู้ป่วยในประเทศเราต้องล้นโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิตจะกองเป็นภูเขาเลากา
แต่สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาชาวไทยและชาวโลก คือ เรามีตัวเลขผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตน้อยมาก เมื่อเทียบกับชาติอื่น และตัวเลขนั้น กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง
หยุดใส่ร้าย ประเทศชาติ รัฐบาล ที่สำคัญตัวท่านเองซึ่งเป็นหนึ่งในประชากรของประเทศ แต่จงภูมิใจในการทำงานหนักของภาครัฐ และความรวมมือกันของภาคประชาชน
ปรบมือให้กับคนไทยทุกคน
ไม่ใช่ เหยียดหยามตัวเอง ด้วยการเหยียดหยามชาติของตัวเอง”
และโพสต์สุดท้ายเป็นเฟซบุ๊กของ “ว.วินิจฉัยกุล” หรือ คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ นักเขียนชื่อดัง เขียนกลอนให้กำลังใจ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.ว่า
“ทองแท้ไม่กลัวภัยจากไฟร้อน
แค่ไฟขอนไม้สุมรุมกระหน่ำ
ยิ่งแรงยิ่งหล่อหลอมล้อมทองคำ
ให้งามล้ำเป็นแท่งทองของชาติไทย”
ถ้าใครติดตามกระแสข่าว ที่ควบคู่มากับยอดผู้ป่วยใหม่ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้จะขึ้น-ลงบ้างก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ จะเห็นว่าโซเชียลฯ ในฝ่าย “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” มีการจับผิดคำพูดของ “หมอทวีศิลป์” แล้วนำมาขยายผลโจมตี โดยทำกันเป็นขบวนการ
คือแล้วแต่ใครจะหยิบยกเอาข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ จากคำพูด ต่างกันบ้าง ซ้ำกันไปมาบ้าง แล้วลงความเห็นว่า “หมอเชลียร์” ลุงตู่ บ้าอำนาจ อยากเข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจ สารพัดที่จะด่าว่าให้เสียหาย
ที่เป็นเช่นนี้น่าวิเคราะห์ว่า ประการแรก การทำหน้าที่ของ “หมอทวีศิลป์” เข้าตากรรมการ หรือประชาชน เพราะมีการอธิบายเกี่ยวกับโรคโควิด-19 แต่ละวันได้เข้าใจง่าย ทำให้ประชาชนติดตามอย่างต่อเนื่อง และเห็นความคืบหน้าการทำงานของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข พูดง่ายๆ รัฐบาลได้เครดิต หรือคะแนนนิยมขึ้นมาอย่างเป็นกอบเป็นกำ
ประการที่ 2 “หมอทวีศิลป์” คือแขนขาที่แข็งแรง ของ “ลุงตู่” การกำจัด “หมอทวีศิลป์” ได้ จะทำให้ “ลุงตู่” ไม่มีมือไม้ที่มีฝีมือ แล้วพวกเขาก็สามารถที่จะคาดหวังหายนะที่จะเกิดขึ้นได้ ฯลฯ อื่นๆ อีกมากมาย
แต่เอาแค่สองประเด็นก็เกินพอแล้วที่จะทำให้คนบางฝ่ายดิ้นพล่าน..แต่ที่น่าเห็นใจก็คือ “หมอทวีศิลป์” ดันมาอยู่ถูกที่ถูกเวลา ที่เขากำลังรอดูหายนะของ “ลุงตู่” โดยที่ไม่สนใจชีวิตใคร น่าเศร้าใจมั้ยล่ะ กับคนไทยบางจำพวกที่ไม่เคยแยกแยะอะไรเลย ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี คนไทยส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจดีแล้ว