ไทยจ่อร่วมประเดิม “กองทุนอาเซียน COVID-19 ASEAN Response Fund” เน้นจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ในกลุ่มอาเซียน สนับสนุนการศึกษาวิจัย คิดค้นยาและวัคซีน พร้อมรับรองปฏิญญาอาเซียนร่วม 2 ฉบับ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา “จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้”
วันนี้ (12 เม.ย.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ในวันที่ 14 เม.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษ และการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ ว่าด้วยโควิด-19 ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล โดยจะมีการรับรองปฏิญญาร่วม 2 ฉบับ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) ในการป้องกันและกำจัดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดที่คุกคามชีวิตของผู้คน และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ทั้งนี้ ภายหลังเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน ครั้งที่ 25 ได้ประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอาเซียน โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามในฐานะประธานอาเซียน ปี 2563 เป็นประธาน และมีรัฐมนตรีต่างประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10ประเทศ และเลขาธิการอาเซียนเข้าร่วมด้วย
ที่ประชุมได้ยืนยันเจตจำนงร่วมกันที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในภูมิภาค และได้หารือเกี่ยวกับมาตรการและแนวทางความร่วมมือเพื่อบริหารจัดการสถานการณ์และบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นในวงกว้าง โดยมุ่งเน้นความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ การเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารสาธารณะที่ถูกต้องอย่างทันท่วงทีและการต่อต้านข่าวปลอม การรักษาบูรณาการทางเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค โดยเฉพาะสินค้าและบริการที่จำเป็น รวมทั้งการเสริมสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนและภาคีภายนอกของอาเซียน
ในการนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบต่อข้อเสนอของคณะทำงานภายใต้คณะมนตรีประสานงานอาเซียนว่าด้วยภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ซึ่งประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
(1) การเสริมสร้างขีดความสามารถในการจำกัดและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการจัดตั้งกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 (COVID-19 ASEAN Response Fund) ที่เสนอโดยไทย ซึ่งจะใช้จัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ และสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อคิดค้นยาและวัคซีน
(2) การให้ความช่วยเหลือต่อพลเมืองของอาเซียน ทั้งที่อาศัยอยู่ในประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศที่สาม
(3) การบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการจัดทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ้นสุดลง เพื่อให้ประชาคมอาเซียนสามารถกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
เวทีดังกล่าว ช่วงเช้าจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และช่วงบ่ายจะเป็นการประชุมร่วมระหว่างผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาบวกสาม.