โฆษก กมธ.พาณิชย์ เผยการควบคุมราคาสินค้ายังไม่เต็มประสิทธิภาพ พบแกร็บเพิ่มค่าส่ง 35% รอดูการแก้ไขรัฐบาล 1-2 วัน ก่อนนัดหารือ ชี้มาตรการล็อกดาวน์เพิ่งเริ่ม
วันนี้ (27 มี.ค.) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการและโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงประเด็นปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะไข่ไก่มีราคาแพงซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ได้หารือกับนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะประธาน กมธ.ต่อการเตรียมส่งข้อเสนอไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะขอรอดูท่าทีและการแก้ไขสถานการณ์ของรัฐบาลอีก 1-2 วันก่อนจะนัดประชุมเพื่อหารือ เนื่องจากปัจจุบันพบว่านอกจากภาวะไข่ไก่แพง ยังพบการบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น บริการส่งและส่งอาหาร ผ่านแอปพลิเคชันแกร็บมีราคาเพิ่มสูงขึ้นถึง 35 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การควบคุมราคาสินค้าอื่นๆ ให้เป็นไปตามราคาควบคุมหรือไม่สูงเกินจริงนั้นยังพบว่าทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ทาง กมธ.เคยมีข้อเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ใช้มาตรการเชิงรุก โดยให้เจ้าหน้าที่พาณิชย์เข้าตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายหากพบผู้ค้าที่จำหน่ายสินค้าเกินราคาและกักตุนสินค้า
นายอัครเดชยังกล่าวถึงสถิติของผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ล่าสุดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นซึ่งหลายฝ่ายมองว่ามาตรการล็อกดาวน์ประเทศอาจใช้ไม่ได้ผล ว่ามาตรการของรัฐบาลที่ประกาศเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นการประเมินผลความสำเร็จต้องรอเวลาพิจารณาประมาณ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม หากมาตรการดังกล่าวไม่ได้ผลจริง เชื่อว่ารัฐบาลจะพิจารณาเพิ่มมาตรการ แต่เชื่อว่าจะไม่ถึงขั้นปิดสถานที่ เช่น ส่วนของห้างสรรพสินค้า โซนร้านขายอาหาร หรือซูเปอร์มาร์เกต เพิ่มเติม เพราะหากพิจารณาปิดเพิ่มอาจกระทบต่อประชาชนมากยิ่งขึ้นได้
