xs
xsm
sm
md
lg

ทบ.ลุยล้างสิ่งปนเปื้อนขจัดโควิด-19 คืนนี้ต่อ 16 จุด กทม. ขอไม่จอดรถ-วางสิ่งของ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกกองทัพบก (แฟ้มภาพ)
รองโฆษก ทบ.เผยเดินหน้าปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อน ขจัดการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ใน กทม. ล่าสุดคืนนี้ลงอีก 16 พื้นที่ ทั้งตลาดสด ย่านการค้า มหาวิทยาลัย ท่ารถ ขอประชาชนไม่จอดรถ-วางสิ่งของตามเส้นทาง

วันนี้ (19 มี.ค.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่กองทัพบกได้เริ่มปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนขจัดการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ใน กทม. สนับสนุนมาตรการป้องกันไวรัส COVID-19 ของรัฐบาล ช่วง 01-05 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ใน 11 พื้นที่ ได้แก่ ถ.หน้าพระลานพระบรมมหาราชวัง, ถ.เยาวราช, แยกราชประสงค์, ถ.สีลม, เดอะมอลล์ท่าพระ, เดอะมอลล์บางกะปิ, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, 5 แยกลาดพร้าว, BTS หมอชิต และ ถ.อิสรภาพ โดยใช้กำลังพล 487 นาย โดยใช้รถยนต์บรรทุกสารฆ่าเชื้อ และรถน้ำ จำนวน 53 คัน ร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กทม. ด้วยการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบนถนน ทางเท้า เสริมด้วยการการเช็ดน้ำยาตามพื้นที่ใกล้เคียง ผลการปฏิบัติ ในคืนที่ผ่านมาสามารถล้างสิ่งปนเปื้อนบนถนนและพื้นที่ข้างเคียงได้ระยะทางรวม 32 กิโลเมตร โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นย่านการค้าและสถานที่ท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งนี้ ปฏิบัติการพ่นล้างฆ่าเชื้อเพื่อความสะอาดของ กทม.ยังดำเนินการต่อเนื่องระหว่าง 19-31 มีนาคม 2563

สำหรับในวันนี้ (20 มีนาคม 2563) กองทัพบก จะยังคงส่งทีมปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อน ออกปฏิบัติงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ใน 16 พื้นที่ โดยกองทัพภาคที่ 1, หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก และกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก โดยจะดำเนินการต่อจากเมื่อวานในจุดที่ได้ล้างสิ่งปนเปื้อนไปแล้วครอบคลุมพื้นที่สำคัญ เช่น ตลาดสด, ย่านการค้า, สถานีรถไฟฟ้า, มหาวิทยาลัย เป็นต้น ซึ่งยังคงใช้สารฆ่าเชื้อสารเบนซาโคเนียมคลอไรด์ (BKC) และแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบกได้กำหนดดังเดิม ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนเคลื่อนย้ายสิ่งของ และรถยนต์ หรือไม่นำรถยนต์มาจอดกีดขวาง บนถนนในห้วงเวลา 01-05 น.ตามเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน

อย่างไรก็ตาม การล้างสิ่งปนเปื้อนที่กำลังดำเนินการในขณะนี้ ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนในโซเชียลมีเดียที่แสดงความคิดเห็นว่าการทำพื้นที่ให้สะอาดสามารถช่วยลดความวิตกกังวลของประชาชนในสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ได้ และยังสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาพื้นที่ของตนเองเพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค สอดคล้องกับมาตรการทางสาธารณสุข และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น