วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) แถลงผลประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 1/2563 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่าที่ประชุมมีการพิจาณาเห็นชอบโครงการพัฒนาแหล่งเก็บน้ำห้วยกรอกเคียน จ.ฉะเชิงเทรา ของกรมชลประทาน ที่มีความจุประมาณ 19 ล้านลูกบาศก์เมตร หากสร้างเสร็จประชาชนจะมีน้ำใช้ในพื้นที่ประมาณ 11,000 ไร่ และสามารถมีน้ำสำหรับผลักดันน้ำเค็มมากว่า 1 ล้านลบ.ม.ต่อปี และมีการจัดสรรน้ำเพื่ออุตสาหกรรมในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ โครงการนี้อยู่ในขั้นตอนการจ่ายชดเชย ในพื้นที่ทั้งหมดกว่า 6 พันไร่ของ ส.ป.ก. โดยทั้งกรมชลประทาน ส.ป.ก. และจังหวัดต้องร่วมกันจ่ายค่าชดเชยในการเคลื่อนย้าย จ่ายอาสินทดแทนให้ประชาชนในพื้นที่ รวมทั้ง ส.ป.ก.ต้องจัดสรรที่ดินให้เพื่อหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องทำให้โปร่งใสเนื่องจากค่าก่อสร้างมีราคาประมาณ 680 ล้านบาท แต่ค่าชดเชยที่ดินนั้นมากกว่า 1 พันล้านบาทขึ้นไป
นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการพิจาณาขยายเขตประปาในจังหวัดเพชรบูรณ์ และสมุทรสาคร ที่เป็นไปตามแผนแม่บทน้ำ โดยทั้งสองโครงการมีวงเงินมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ โครงการที่มีการพิจารณาในวันนี้จะนำเข้าหารืออีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการน้ำแห่งชาติ ในวันที่ 20 มีนาคม 63
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีโครงการสำคัญมากกว่า 456 โครงการ ใน 66 พื้นที่ทั้งหมดของประเทศ โดยจะต้องให้มีการทบทวนใหม่ เนื่องจากโครงการเหล่านี้ จะต้องมีการทำแผนแม่บทเยอะมาก หลายหน่วยจึงต้องกลับมาทบทวนใหม่ เพื่อกำหนดทิศทางในการขับเคลื่อนแผนแม่บทน้ำแห่งชาติในช่วง 5 ต่อไป
“พล.อ.ประวิตรมอบนโยบายว่าให้ทุกหน่วยงานพยายามลดขั้นตอน ให้เร่งรัดการขอใช้พื้นที่โดยเร็ว ให้เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนต้องเร่งรัดให้ได้ เพื่อให้โครงการขับเคลื่อนไปตามแผนแม่บทน้ำแห่งชาติ”