ปลัดสาธารณสุข แจงคัดกรองผู้ป่วย 100% ต้องมีใบรับรองแพทย์ วีซ่าสถานทูต ผ่านเทอร์โมสแกน ให้ จนท.ประกบคนมาจากประเทศเสี่ยง ไม่ทำตามเจอโทษคุก-ปรับ
วันนี้ (11 มี.ค.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การคัดกรองผู้ป่วย หรือกลุ่มเสี่ยงเราจะมีการสกรีนตั้งแต่ต่างประเทศว่าต้องมีใบรับรองแพทย์ และมีวีซ่าตามระบบจากสถานทูต เพื่อเป็นการประเมินเบื้องต้น และเมื่อมาถึงสนามบินไทยจะมีการคัดกรองเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ มีเทอร์โมสแกนทุกจุด ขณะที่นักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเมื่อได้รับการตรวจแล้วพบว่ามีไข้ ทั้งไข้หวัดปกติ หรือไข้หวัดอื่นๆ จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษจนหายดี แต่หากตรวจแล้วไม่มีไข้จะได้รับการดูแลตั้งแต่สนามบิน และจัดรถส่งจนถึงสถานที่ควบคุมโดยรัฐในจังหวัดนั้นๆ หรือกรณีกักตัวอยู่ที่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะให้คำแนะนำการปฏิบัติตัว เช่น การแยกห้องอยู่ การกินอาหาร ห้ามสุงสิงกับใคร ห้ามออกจากบ้านตัวเอง โดยจะให้ญาติพี่น้องดูแล
อีกส่วนที่ร่วมดูแล คือ เจ้าพนักงานที่ได้รับการแต่งตั้ง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แพทย์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหาร อีกทั้งได้รับการสนับสนุนแอปพลิเคชันติดตามจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เหล่านี้คือกลุ่มบุคคลที่ร่วมให้คำแนะนำในการปฎิบัติตัว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นกลุ่มบุคคลที่ให้การดูแลเป็นเจ้าพนักงาน หากผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำจะมีโทษทางอาญาคือจำคุก 1 ปี และปรับ 1 แสน ตามอำนาจของอธิบดีกรมควบคุมโรค ที่สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้