เลขาฯองค์การพิทักษ์รธน. ชี้การรณรงค์ต้านยุบอนค. ต้องอยู่ในกรอบของกม. ไม่กดดันก้าวล่วงละเมิดอำนาจศาล น้อมรับคำวินิจฉัย มองลงชื่อเพจChange แค่สร้างกระแส มีทั้งหนุนและคัดค้าน ควรฟังเท่าเทียมสองฝ่าย
งันนี้ (17ก.พ.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงการรณรงค์และลงชื่อต้อต้านการยุบพรรคอนาคตใหม่ ว่า ในเมื่อเราอยู่ในประเทศที่ยึดถือระบบนิติรัฐเป็นที่ตั้ง เมื่อเรายอมรับกฎหมายให้เป็นหลักในการปกครองประเทศ การจะมารณรงค์ไม่ให้ยุบพรรคการเมือง หรือไม่ให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ใครจะมารณรงค์กดดันศาลอย่างไรก็แล้วแต่ ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่ถ้ารณรงค์แล้วไปก้าวล่วงละเมิดอำนาจศาล ตนก็อาจไม่ยอมได้ แต่ก็เป็นสิทธิ์ที่จะรณรงค์ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่มีใครกันแกล้งใครทั้งสิ้น
“ผมก็คิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยตามกรอบของกฎหมายที่มีอยู่ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรวันที่ 21 ก.พ.ต้องมาลุ้นกันว่าเป็นอย่างไร ผมคิดว่าทุกคน เมื่อศาลวินิจฉัยออกมาแล้ว ก็ควรจะต้องน้อมรับคำวินิจฉัย เพราะถือว่าเรายอมรับในหลักนิติรัฐ คือประเทศที่ปกครองด้วยระบบกฎหมาย”
ส่วนการลงชื่อในเพจ Change นายศรีสุวรรณ เห็นว่าจะมีการลงชื่อกี่คนไม่สำคัญ เพราะไม่สามารถนำไปใช้เทียบเคียงหรือไปยื่น เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ เป็นเพียงแต่การสร้างกระแสในระบบสังคมโซเชียล แต่ที่สำคัญเรื่องนี้ หากมีความผิดจริงเราก็ต้องน้อมรับในคำวินิจฉัย
“เรื่องนี้มีทั้งสองฝ่าย ทั้งคนสนับสนุนและคนคัดค้าน เพราะหลังจากมีคนไปตั้งประเด็นในเว็บ Change แล้ว ในช่วง 1-2 วันนี้ ก็มีคนไปตั้งเว็บสนับสนุนให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งก็มีทั้งสองฝ่าย เป็นเรื่องปกติในสังคมไทย ดังนั้นประชาชนก็ควรรับฟังอย่างเท่าเทียมกันทั้งสองฝ่าย”