“พ.ต.อ.ศิริวัฒน์” ร้องกรมที่ดินตรวจสอบบ้าน “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” รุกแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ หากพบผิดจริงเตรียมยื่นอัยการรื้อคดีปี 2551 ใหม่
วันนี้ (7 ก.พ.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน ผ่านนายสุรวิทย์ นวลแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมที่ดิน เพื่อขอให้กรมที่ดินไปรังวัดที่ดินบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ย่านเกียกกาย ห่างจากอาคารรัฐสภาใหม่ไม่ถึง 500 เมตร ว่าบ้านหลังดังกล่าวได้รุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ โดยให้ยึดรายงานการสอบสวนที่ตนเองได้ยื่นดำเนินคดีไว้เมื่อปี 2551 ส่วนคดีดังกล่าวที่อัยการสั่งไม่ฟ้องไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเลย และการที่มายื่นดำเนินการในวันนี้เนื่องจากเป็นการสานต่อจากคดีที่เคยยื่นไว้ก่อนหน้านี้ แต่ว่าช่วงที่ผ่านมาติดคดีอื่น จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้ และเห็นว่าเมื่อกรมเจ้าท่าได้ดำเนินคดีจึงกลับมาดำเนินการต่อเพื่อให้หมดข้อสงสัยในสิ่งที่ตนเองคาใจ
“ถ้ากรมที่ดินตรวจสอบว่ามีการบุกรุก เลยแนวเขตที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น ดูจากแนวเขตตลิ่งชันของศาลาวัด ถ้าเลยแนวเขตก็ต้องดูว่าบุกรุกหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องของกรมที่ดินต้องไปตรวจสอบ ประกอบกับต้องดูภาพถ่ายทางอากาศว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้วพื้นที่เป็นอย่างไร ในสำนวนที่ผมทำไว้มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาพถ่ายทางอากาศพิจารณา แต่อัยการกับตํารวจไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้ ไปพูดถึงเรื่องก่อสร้างเป็นส่วนใหญ่”
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์พร้อมยืนยันด้วยว่า พยานหลักฐานที่ตัวเองมียืนยันได้ว่าบ้านของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ รุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างแน่นอน และส่วนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อ้างว่าแนวเขตของวัดที่ตอนนี้ถูกน้ำกัดเซาะไปเพราะวัดไม่ดูแล จึงทำให้บ้านของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เองซึ่งเป็นแนวเขตที่แท้จริงดูเหมือนว่าล้ำเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ตนไม่ทราบและขอให้ไปตรวจสอบจากแผนที่ว่าวัดสร้างก่อนหรือว่าบ้านสร้างก่อน
สำหรับการคาดหวังในการยื่นฟ้องร้องคดีนี้ต่อเนื่อง หากผลออกมาสังคมก็จะได้ประโยชน์ และส่วนตัวก็จะหายคลางแคลงใจในเรื่องนี้ แต่หากการวัดที่ดินของกรมที่ดินพบว่ามีรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาจริงก็จะเป็นหลักฐานใหม่ไปยื่นต่ออัยการเพื่อรื้อฟื้นคดีใหม่