แกนนำพปชร. แจง ซักฟอกไม่ได้จัดองครักษ์ แต่มีการจัดเวรในห้องประชุม ผิดข้อบังคับเจอประท้วง รับคุยพรรคร่วมแล้วพร้อมร่วมมือ เชื่อในความเป็นเอกภาพ
วันนี้ (4ก.พ.) เวลา 09.22 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมรับมือฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้เตรียมองครักษ์พิทักษ์ผู้ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากส.ส.เห็นว่าไม่การอภิปรายไม่เข้าข้อบังคับก็มีสิทธิที่จะลุกขึ้นประท้วงได้ แต่การทำงานทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้านรัฐบาล ต้องเน้นความแม่นย้ำข้อบังคับจะมาประท้วงแบบไม่ถูกต้องคงไม่เหมาะ
เมื่อถามว่าทราบว่ามีการเตรียมองครักษ์ไว้ประมาณ 20 คนคอยช่วยผู้ถูกอภิปราย นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า โดยประมาณก็จะจัดเตรียมไว้เท่านี้ แต่อย่าเรียกว่าองครักษ์เลย เป็นการจัดเวรมากกว่า เพราะทุกคนก็ต้องคอยอยู่ในห้องประชุม เพื่อดูว่ามีใครทำผิดข้อบังคับหรือไม่ แต่ถ้าทุกคนออกไปกันหมดโดยไม่มีใครรับผิดชอบคงไม่ได้ และเวรที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงเวรที่ทำหน้าที่ปกป้อง แต่เป็นเวรที่ต้องเข้ารับฟังในห้องประชุมบ้าง เน้นแบบนั้นมากกว่า
เมื่อถามต่อว่าได้มีการประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลและหรือไม่ว่าจะเตรียมพร้อมอย่างไร นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ประสานเรียบร้อยแล้ว คุยกันแล้วกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเล็กแล้ว แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นการอภิปรายที่อาจจะมีเฉพาะรัฐมนตรีพรรคพปชร.แต่เรามีนายกฯคนเดียวกัน เป็นรัฐบาลร่วมกัน ฉะนั้นการทำงานร่วมกันในเชิงสนับสนุนข้อมูลช่วยเหลือกันเป็นการสนับสนุนข้อมูลและกำลังใจ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลได้พูดคุยกันแล้ว พร้อมที่จะร่วมมือกันอย่างเต็มที่
เมื่อถามย้ำว่าห่วงหรือไม่การลงคะแนนของพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่เป็นเอกภาพ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า การลงคะแนนถือเป็นเอกสิทธิของส.ส.จะลงหรือไม่ลงคะแนน หรือจะงดออกเสียง แต่เราเชื่อในความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะแกนนำพรรค หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคต้องแสดงน้ำใจ เมื่อทำงานร่วมกันมาจะต้องเป็นเอกภาพ เรายังเชื่อเช่นนั้น ส่วนที่มองว่าพรรคประชาธิปัตย์มักมีปัญหาในการลงคะแนนนั้น กรณีนี้ต้องไปถามหัวหน้าพรรคและเลขาฯพรรคประชาธิปัตย์ แต่เราเข้าใจว่าพูดคุยกันแล้ว ก็ถือว่าเป็นหน้าที่ที่ท่านจะต้องไปดูแลและพูดคุยภายในพรรค