“กรณ์” มาเหนือ วอนแสดงออกกับคนจีนอย่างมีคุณธรรม นึกถึงใจเขาใจเรา โดยเฉพาะผ่านโซเชียล ที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ในนาทีที่คนจีนต้องการกำลังใจ สุดเท่กับคำคม “มิตรยามยาก มีคุณค่ามหาศาล”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij ของนายกรณ์ จาติกวณิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์หัวข้อ “#มิตรยามยาก จีน-ไทย 🇨🇳🇹🇭”
โดยระบุว่า “ผมเห็นข่าวกระแสการรังเกียจชาวจีนในบางประเทศแล้วรู้สึกเห็นใจชาวจีนจริงๆ และถึงแม้อารมณ์นี้อาจจะมีบ้างในบ้านเรา แต่โดยรวมคนไทย รวมถึงรัฐบาลไทย ยังมีสติและทัศนคติที่เป็นบวกต่อความเดือดร้อนของพี่น้องคนจีนเป็นอย่างดี
เราต้องมีมาตรการที่เหมาะสมในการป้องกันคนไทย เราเป็นประเทศที่ต้อนรับคนจีนมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ดังนั้นการเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ที่ยังอาจจะเลวร้ายลงเป็นเรื่องจำเป็น
แต่อารมณ์ในการแสดงออกและมิตรภาพที่เรายื่นให้คนจีนที่มาเยือนเรา รวมไปถึงการแสดงออกที่มีคุณธรรมผ่านโซเชียล เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนในช่วงที่คนจีนกำลังมีความกดดันอย่างมาก
การเป็นมิตรยามยาก เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามหาศาล ลองนึกเขานึกเรา แล้วแสดงออกแบบที่เราคงอยากให้ผู้อื่นแสดงออกกับเราหากสถานการณ์กลับกัน
ผมขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนที่อยู่แถวหน้าในการดูแลคนจีน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ หมอ พยาบาล แท็กซี่ และผู้ให้บริการทุกประเภทตามห้างร้าน ร้านอาหาร หรือโรงแรม การวางตัวของท่านจะมีความหมายมากต่อความรู้สึกของเขา และต่อความรู้สึกที่ชาวจีนจะมีต่อคนไทยและประเทศไทยในอนาคตต่อไป
เช่นเดียวกับ วันนี้(3 ก.พ.63)เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) ก็โพสต์หัวข้อ “จากพิษณุโลกถึงอู๋ฮั่น”
ระบุว่า “ในนามของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก และประชาชนคนไทย ขอส่งความห่วงใยและกำลังใจ ไปยังพี่น้องประชาชนชาวอู่ฮั่น พี่น้องประชาชนชาวจีน
ขอให้มีพลังใจในการฟันฝ่าวิกฤตการณ์ครั้งนี้ และขอให้วิกฤติครั้งนี้ กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ให้กำลังใจนะครับ อดทนนะครับ.....สู้สู้ครับ
#ให้กำลังใจชาวอู่ฮั่น
#ให้กำลังใจชาวจีน
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น ยังพบว่า โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่ว จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่คลิปภาพ ซึ่งชาวขอนแก่นได้พร้อมใจกันจัดทำขึ้นเพื่อส่งกำลังใจให้กับชาวจีน โดยเฉพาะกับชาวอู่ฮั่น ที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
โดยคลิปภาพดังกล่าว มีความยาว 50 วินาที ที่กล่าวถึงการให้กำลังใจกับประชาชนคนจีน รวมทั้งการอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ปกป้องและคุ้มภัยให้กับผู้ประสบภัยได้แคล้วคลาดปลอดภัย รวมไปถึงการรวมตัวกันของคนไทยและนักศึกษาจีนที่อยู่ในเขต จ.ขอนแก่น ที่เข้ารับการฝึกงานที่โรงแรมโฆษะ ได้ร่วมกันกล่าวคำว่า “อู่ฮั่น เจียโหยว” หรืออู่ฮั่นสู้ๆ เพื่อแสดงถึงความรักและการให้กำลังใจซึ่งกันและกันในสถานการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้นายชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหารโรงแรมโฆษะ ขอนแก่น กล่าวว่า ความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีนนั้นมีมาอย่างยาวนานในด้านต่างๆอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะที่ จ.ขอนแกน ที่รัฐบาลจีนได้ตัดสินใจตั้งสถานกงสุลใหญ่ขึ้น เพื่อประสานความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยระยะเริ่มแรกได้ใช้สถานที่ของโรงแรมโฆษะเป็นสถานที่พักและสถานกงสุลใหญ่จีน ชั่วคราว
ดังนั้นการประสานการทำงานในด้านต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างจังหวัดกับรัฐบาลจีนนั้น มีอย่างเหนียวแน่น ทั้งในเรื่องของการศึกษา การค้า การลงทุน ด้านศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยวหรือแม้กระทั่งด้านการสาธารณสุข
ดังนั้นในฐานะบ้านพี่เมืองน้อง เมื่อจีนกำลังเผชิญกับภัยที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนา โรงแรมโฆษะ และชาวขอนแก่น ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมส่งกำลังใจด้วยการอัดคลิปภาพดังกล่าวให้กำลังใจ ทั้งภาษาไทยและภาษาจีน โดยมีการแปลข้อความเป็น 2 ภาษา เพื่อที่จะส่งกำลังใจผ่านโซเชียลมีเดียในช่องทางต่างๆ...(ไทยโพสต์ออนไลน์ /3 ก.พ.63)
ไม่เพียงเท่านั้น ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้นำ ผู้บริหารเมืองพัทยา สมาชิกสภาเมืองพัทยา ข้าราชการ ตัวแทนภาคเอกชน และประชาชนชาวพัทยา มาร่วมแสดงพลังร่วมเปล่งเสียงด้วยข้อความที่ว่า พวกเราเป็นตัวแทนพี่น้องชาวพัทยา ให้พี่น้องชาวจีนผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปได้ พวกเราชาวพัทยาเป็นกำลังใจให้ พวกเราจะสู้ไปด้วยกันพร้อมเปล่งเสียงเป็นภาษาจีนว่า จงกั๋ว จา โหยว” ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า ประเทศจีน สู้สู้ เพื่อเป็นกำลังให้ประเทศจีน...(สยามรัฐออนไลน์ / 3 ก.พ.63)
รวมทั้ง วันนี้(3 ก.พ.63) เช่นกัน นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานแถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 พร้อมนพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี
นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งถึงการปฎิบัติภารกิจช่วยคนไทยในอู่ฮั่น วันที่ 4 ก.พ.63 ว่า
ขณะนี้พร้อมทุกอย่างแล้ว โดยผอ.สถาบันบำราศนราดูร เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งจะเดินทางไปพร้อมกับทีมแพทย์ เวชภัณฑ์ ทั้งนี้ มีความห่วงใยคนไทย 161 คน แม้จะมีการรายงานข้อมูลสุขภาพทุกคนสบายดี ไม่ป่วย เพราะมีการควบคุมจำกัดพื้นที่ และไม่ได้รับเชื้อ แต่ที่ห่วงคือเมื่อกลับถึงไทย คนเหล่านี้จะยิ่งมีความเครียด และต้องถูกควบคุมตัวตามมาตรฐานป้องกันโรค อีก 14 วัน อาจมีความเครียดเพราะยังไม่ได้กลับบ้าน ก็จำเป็นต้องหาสถานที่ให้เขาได้ผ่อนคลายลดความเครียดลง เตรียมทีมจิตแพทย์ไว้ให้คำปรึกษาคลายเครียด พร้อมเตรียมให้กิจกรรมสร้างความบันเทิงให้กลุ่มคนเหล่านี้ผ่านวิกฤตไปได้
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ในการไปช่วยเหลือคนไทยครั้งนี้ นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณสูงสุด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี ได้พระราชทานสิ่งของไปช่วยเหลือชาวจีน เป็นอุปกรณ์การแพทย์ เวชภัณฑ์ต่างๆใช้ในการควบคุมโรค ทั้งหน้ากากอนามัยถุงมือ ชุดกาวน์ เพื่อไปแก้ไขปัญหาการระบาดติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์สายใหม่ 2019 ซึ่งจะนำไปพร้อมกับเที่ยวบินที่จะบินไปรับคนไทยที่อู่ฮั่นด้วย...
กระนั้น ด้านพรรคฝ่ายค้าน ก็ยังคงนำเอาความเดือดร้อน ของทั้งคนไทยและคนจีน มาเล่นการเมืองไม่หยุดหย่อน
โดยวันนี้(3 ก.พ.63) นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาล คสช.เรื่อยมาจนถึง รัฐบาลสืบทอดอำนาจ ในปัจจุบันของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาลดำเนินนโยบายเอื้อประโยชน์ให้สาธารณรัฐประชาชนจีนหลายกรณี และมีความสัมพันธ์แนบแน่นในหลายๆ มิติ
เช่น การให้ใช้ High Speed Train ของจีน บริษัทจีนออกแบบคุมงาน โครงการ High Speed Train ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย โดยปิดโอกาสมหามิตรประเทศอื่น เช่น USA. Japan EU ทั้งที่มีข้อเท็จจริงว่า ไทยอาจจะได้ประโยชน์ ทางเศรษฐกิจมากกว่า หรือการลงทุนในโครงการ EEC ที่เปิดโอกาสให้คนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน และนำคนต่างด้าวมาอยู่ รวมตลอดจนการซื้อเรือดำน้ำที่ผ่านมาและที่จะเกิดขึ้นอึก ล้วนเอื้อประโยชน์ให้นักธุรกิจ หรือนักลงทุนจีนทั้งสิ้น ประหนึ่งเป็นความสัมพันธ์พิเศษในทุกๆด้าน
"แต่ในความพิเศษดังกล่าวนั้น ทำไมรัฐบาลไทยนำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่สามารถขอร้องต่อรัฐบาลจีนแบบพิเศษเพื่อเอาคนไทยในอู่ฮั่นกลับมาให้ได้สักที โดยรัฐบาลจะมีข้ออ้างสารพัดว่า ติดขัดเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่บอกว่าจะไปวันนั้นวันนี้ก็เลื่อน และยังไม่มีข้อสรุป
รัฐมนตรีบางท่านบอกจะไปด้วยตนเอง มาวันนี้บอกไม่ไปแล้ว รัฐบาลไม่นึกถึง หัวอกหัวใจ คนไทยต่างแดนและญาติพี่น้องของเขาในยามวิกฤตหรืออย่างไร หากพวกเขาเป็นลูกหลานหรือญาติพี่น้องท่าน จะเป็นแบบนี้หรือไม่เชื่อว่าเครื่องบินทหารคงขนคนไทยชุดนี้กลับมาแล้ว ขอถามไปยังรัฐบาลว่า แล้วอย่างนี้เราจะมีนายกไว้ทำอะไร มีรัฐบาลไว้เพื่ออะไร ซึ่งตนเชื่อว่าขณะนี้ประชาชนเบื่อรัฐบาล และสงสารคนไทยในอู่ฮั่นมากแล้ว"
เหลือเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยจะแสดงออกทางการเมืองแบบไม่ฟังเหตุผลได้ถึงเพียงนี้ เพราะการช่วยเหลือคนไทย ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาลจีน อยู่เหนืออำนาจรัฐบาลไทย ยิ่งในสถานการณ์ที่จะต้องควบคุมการระบาดของโรค อย่างที่ทั่วโลกยอมรับเหตุผลนี้ไปแล้ว และตั้งหน้าตั้งตาโหนกระแสท่าเดียว
ไม่เอาแบบอย่าง “กรณ์” ที่โพสต์ออกมาแต่ละคำพูด เต็มไปด้วยวุฒิภาวะทางการเมือง มีเหตุมีผล และสื่อไปในทางสร้างสรรค์เป็นอย่างยิ่ง เหนืออื่นใด มีความเป็น “มนุษย์” คือ เห็นใจเขาใจเรา ซึ่งก็คือ เพื่อนมนุษย์อย่างน้อย ที่ไม่สักแต่ว่า เรียกร้องให้ปิดกั้นคนจีนเข้าประเทศ ปฏิเสธให้บริการคนจีน เรียกร้องให้กดดันรัฐบาลจีนช่วยเราก่อนใครเพื่อน แบบพวกเล่นเกมการเมือง ที่พูดแบบไม่รับผิดชอบ เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ โดยไม่คำนึงถึงอนาคตหลังจากโรคนี้สงบลง
ที่สุดของที่สุดก็คือ คำพูดที่ว่า “มิตรยามยาก มีคุณค่ามหาศาล”