xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงตู่” บุกเซอร์ไพรส์รับข้อเสนอสภานักเรียน รับตกเป็นเหยื่อเฟกนิวส์ ลุงมาเป็นนายกฯ แค่ชั่วคราวเดี๋ยวก็ไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องอเนกประสงค์ อาคารหอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สร้างเซอร์ไพรส์ดอดเยี่ยมและรับฟังข้อเสนอและการประกาศเจตนารมณ์ตามข้อคิดเห็นของสภานักเรียนที่มีตัวแทนนักเรียนจากทั่วประเทศ มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ร่วมกิจกรรม โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้ปรากฏตัว นักเรียนได้แสดงความดีใจ บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความตื่นเต้น จากนั้นนักเรียนได้มีการประกาศเจตนารมณ์ 4 ข้อร่วมกัน คือ 1. การส่งเสริมให้นักเรียนเลิกใช้ถุงพลาสติก 2. การส่งเสริมจิตอาสาเพื่อสร้างสังคมแห่งความสุข 3. การส่งเสริมให้เด็กไทยรู้ทันก่อนแบ่งปันข่าวปลอม (Fake News) และ 4. การส่งเสริมแนวทางป้องกันจากการถูกข่มเหง (Bully)

ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า รู้สึกตัวเองหนุ่มขึ้นเพราะอยู่ท่ามกลางเด็กๆ นักเรียน ทุกคนเป็นกำลังสำคัญพัฒนาประเทศไปข้างหน้า เป็นพลังสำคัญและเป็นพลังบริสุทธิ์ ตนขอยินดีกับสภานักเรียนที่พัฒนามาอย่างยอดเยี่ยม ในฐานะนายกฯ มีความพอใจอย่างยิ่ง ถือว่าเรามารวมพลังสร้างชาติเราเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้องตามหลักสากลด้วย แต่เรามีชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมายาวนาน โดยวันนี้เรากำลังเริ่มกันแบบที่นักเรียนร่วมกันอ่านแถลงการณ์ทั้ง 4 ข้อ ซึ่งตรงกับนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ทุกอย่างที่เราจะแก้ไขทั้ง 4 ข้อ ข้อแรก การเลิกใช้ถุงพลาสติก รัฐบาลพยายามเรื่องนี้อย่างยิ่งยวดมาตั้งแต่ปี 2560 ที่ค่อยๆ สร้างการรับรู้จนประกาศในปีนี้ แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร ทุกอย่างต้องเริ่มจากจุดเล็กๆ จุดประกายเริ่มจากจิตใจที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมแก้ปัญหา ขณะที่เรื่องจิตอาสาก็ต้องไม่ใช่ทำแค่ครั้งเดียว แต่ทำได้ทุกวันและขอให้ชวนเพื่อนๆ กลุ่มเดียวกันมาร่วมด้วย การทำความดีทำได้ทุกวัน และขอให้บันทักความดีไว้ว่าทำอะไรบ้าง และอะไรที่เป็นความสุขก็บันทึกเป็นความทรงจำ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องเฟกนิวส์พูดได้ตรงใจ เพราะตอนนี้แพร่หลายทั่วไป สิ่งสำคัญภูมิต้านทานการเรียนรู้คิดเป็นกระบวนการ บางข่าวไม่ได้เขียนว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่เขียนบิดเบือนให้คนคล้อยตามเป็นสเตป ของคนทำที่ไม่หวังดี แบบนี้อันตราย ซึ่งมีทั้งคนไม่หวังดี เจตนาและไม่รู้เท่าทัน แต่คนก็เชื่อไปแล้ว

“ที่หลายๆ คนรู้จักลุงก็เห็นจากเฟกนิวส์มาเยอะ มีทุกวัน มีเยอะกว่าคนอื่น ดังนั้นไปไหนไม่มีใครไม่รู้จักลุง แต่ที่จริงลุงใจดีไม่ใช่คนขี้โมโห บางครั้งทำงานก็ต้องจริงจังหน่อย อย่าเอาแค่รูปลุงที่มาพูด 10 วัน 20 วันแล้วมาตัดเป็นตอนๆ ให้คนเกลียดลุง เขาก็ทำได้ ซึ่งลุงไม่ใช่แบบนั้น วันนี้ไม่ได้มาพูดให้ทุกคนไม่มีความสุข ลุงก็อยากมีความสุขและอยากให้สังคมมีความสุข แต่เฟกนิวส์ทำให้สังคมไม่สงบเรียบร้อย การบริหารบ้านเมืองก็ยิ่งลำบาก อะไรผิดหรือถูกมีกลไกอยู่แล้ว อย่าไปเชื่อมาก ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนหนังสือต้องมีกระบวนการคิดวิเคราะห์” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกคนคืออนาคตของประเทศ และอย่าลืมความสุขในวัยของตัวเองและอย่าเครียด เพราะเป็นวัยที่สดใส วันหน้าที่ลุงและอาๆ ทำก็ทำเพื่อพวกเรา ลุงไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว หวังคนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของประเทศ ไม่ว่าประเทศไหนก็ตามที่เจริญจะต้องมีสองอย่างด้วยกัน คือ การบริหารพัฒนาประเทศ และทรัพยากรมนุษย์ ถ้าทุกอย่างดีแต่คนไม่มีคุณภาพก็อยู่ไม่ได้ เราจะเป็นตัวกระตุ้นสังคม โดยเริ่มจากครอบครัวตัวเองจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ปัญหาสิ่งแวดล้อมแก้ได้ เพราะส่วนใหญ่เกิดจากคน เกิดจากธรรมชาติน้อยมาก แต่เกิดจากมนุษย์ทั้งสิ้น จึงมีหลายเรื่องที่ต้องระมัดระวัง และต้องติดตามการทำงานของรัฐบาล อยากรู้เรื่องอะไรก็เปิดเว็บดู ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ และไทยคู่ฟ้า ถ้าไม่อ่านข้อมูลแล้วคิดเองมันก็จะเฟกนิวส์ จากนั้นนายกฯ พร้อมกับทำท่าเฟกนิวส์ และกล่าวว่า เมื่ออ่านแล้วก็จะต้องใคร่ครวญคิดวิเคราะห์

นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่มากี่ร้อยปี กี่รัชกาลแล้วกว่าจะเป็นประชาธิปไตย วันนี้เรามีฐานรากที่ดีมาแล้ว ถ้าใครทำให้หลักชัย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อ่อนแอลง และแตกความสามัคคี ประเทศไทยจะไปไม่ได้ น่าภาคภูมิใจประเทศไทยไม่เคยเป็นอณานิคมของใคร เราจะมาทำให้แตกแยกกันทำไม

“ลุงเข้ามาก็เพื่อมาดูแลพวกเราเป็นการชั่วคราว ก็ต้องมีวันจากไปอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ต้องอยู่ในประเทศไทยด้วยกัน และวันหน้าเด็กๆ เหล่านี้ต้องมาดูแลลุง อาๆ โดยสรุปรับไว้ 4 ข้อที่เสนอมาและขอเป็นกำลังใจให้สภาฯ ทำหน้าที่ตามบทบาทเพื่อความก้าวหน้า และขอบคุณภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สนับสนุน ต้องการอะไรก็บอกมา งบประมาณมีก็ขอไป ไม่พอก็ขอมา จะได้ช่วยกันขับเคลื่อนไปพร้อมกับคนไทยทั้งชาติ กับกระทรวงศึกษาฯ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีได้ร่วมจับมือร้องเพลงและถ่ายรูปร่วมกับสภานักเรียน และฝากฝังประเทศชาติให้แก่เด็กๆ ก่อนที่จะขอตัวไปประชุม ก.ตร.












กำลังโหลดความคิดเห็น