กต.มั่นใจมาตรการปิดเมืองอู่ฮั่น เหตุสำเร็จตอนโรคซาร์ส เผยจีนดูแลคนไทยเต็มที่

รมว.กต. เผยควรมั่นใจมาตรการปิดเมืองอู่ฮั่น เพราะเคยทำสำเร็จตอนเกิดโรคซาร์ส ระบุจีนรับปากดูแลคนไทยเต็มที่ ยังไม่มีชาติใดนำเครื่องรับคนกลับได้ ประสานอยู่มีความพร้อม และดูแลชาวจีนที่ยังกลับไม่ได้

วันนี้ (28ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเตรียมการรับมือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ว่า ตนเห็นว่ามาตรการปิดการเข้าออกเมืองอู่ฮั่น ของประเทศจีน ก็เป็นเรื่องที่เคยทำในสมัยก่อน ตอนที่เกิดโรคซาร์ส ซึ่งการไม่ให้ใครเข้าออกประเทศ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะฉะนั้นมาตรการที่เกิดขึ้นในขณะนี้เราควรให้ความร่วมมือ และความมั่นใจ เพราะเคยทำสำเร็จมาแล้ว ก็จะสำเร็จอีกในครั้งนี้ แต่คงต้องใช้เวลา ส่วนภาพบางภาพที่เห็นว่าเป็นเมืองร้าง มันไม่ใช่ภาพใหม่ เพราะในช่วงปี 2546 มันก็มีสภาพแบบนี้ แม้กระทั่งในกรุงปักกิ่ง ที่เป็นเมืองหลวง ณ สถานทูตก็ไม่มีคน สำหรับคนไทยในเมืองอู่ฮั่น ขณะนี้ทางการจีนรับปากว่าจะช่วยดูแลอย่างดี ซึ่งสถานทูตก็ได้ประสานเรื่องความต้องการทั้งอาหารการกินช่วยเสริมนอกเหนือจากสิ่งที่หาได้ในพื้นที่ โดยกลุ่มที่ติดต่อทางโซเชี่ยล ซึ่งไม่ใช่แอพพลิเคชั่นไลน์ แต่เป็นวีแชท ก็จะเป็นจุดประสานที่ดีที่สุด โดยแพทย์จากเมืองไทยก็จะเข้าไปอยู่ในวีแชท เพื่อถามตอบด้านสาธารณสุขที่จำเป็นต่อเรื่องสุขอนามัยของคนไทยในอู่ฮั่น

นายดอน กล่าวอีกว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีประเทศใดสามารถนำเครื่องบินไปรับคนของตัวเองกลับมาได้ โดยยังอยู่ระหว่างการประสานกับทางการจีนอยู่ และที่ผ่านมาก็เป็นเพียงแค่ข่าว ซึ่งประเทศใดที่ให้ความร่วมมือกับจีน ก็จะไม่เกิดประเด็นเหล่านี้มากนัก และบางประเทศก็ไม่จำเป็นต้องไปผลักดันเอาคนกลับ เพราะถือว่าให้ความร่วมมือกับจีน เหมือนที่ไทยกำลังทำอยู่ ทำด้วยความเชื่อมั่น เพราะเขาเคยจัดการปัญหาแบบนี้มาก่อน ทั้งนี้ นายกฯ ก็เข้าใจว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลา ตราบใดที่คนไทยปลอดภัย และได้รับการดูแล ก็ถือเป็นเป้าหมายสูงสุด เราไม่ต้องไปแข่งกับใคร แต่เรามีความสนใจ ซึ่งคนของเราต้องปลอดภัย และระหว่างที่ยังไม่ได้กลับก็ต้องไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนที่อยู่ในไทย จะส่งกลับอย่างไร นายดอน กล่าวว่า คนจีนที่อยู่เมืองไทย ที่ต้องการกลับ แต่บังเอิญที่บ้านเขาถูกปิดล้อม เหมือนกรณีอู่ฮั่น เขาก็เข้าใจสถานะดี ซึ่งก็ไม่ได้ไปกดดันว่าต้องการผลักดันออกไป หรือผิดกฎหมาย ซึ่งต้องมาดูเพราะเป็นเหตุเฉพาะกิจ ที่เป็นความจำเป็น และได้ติดต่อกับสถานทูตจีน ว่าอย่างไรไทยก็ดูแลคนจีนเหมือนกับที่เราดูแลคนไทยในบ้านเมืองอื่นๆ กรณีที่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม หากจะต้องเดินทางไปรับคนไทยกลับ ก็ไม่มีปัญหา ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมง ไม่ได้ไกล ยืนยันว่ามีความพร้อม