นายกฯ ร่วมงานวันเด็กที่ทำเนียบฯ บอกเด็กทุกคนต้องมีสมาธิกับการเรียน เข้าใจที่มาที่ไปของแต่ละเรื่อง ป้องกันความขัดแย้ง ต้องมีความรักสามัคคีเดินหน้าไปด้วยกัน สร้างสังคมแห่งความรักความอบอุ่น ทำหน้าที่พลเมืองของชาติ ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
วันนี้ (11 ม.ค.) มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติที่ทำเนียบรัฐบาล บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก บรรดาผู้ปกครองทยอยนำบุตรหลานมารอเข้าคิวเพื่อเข้ามายังบริเวณภายในทำเนียบรัฐบาล และตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล คณะจัดงานวันเด็กสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เปิดให้เด็กเข้าไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ซึ่งในปีนี้มีเด็กให้ความสนใจมาต่อแถวเพื่อนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตั้งแต่เวลา 07.00 น.
ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ โดยทันทีที่มาถึงได้กินไปยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อพบปะเด็กและเยาวชนที่ทำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ เด็กจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความซื่อสัตย์หรือเด็กกตัญญู และเด็กพิเศษหรือเด็กด้อยโอกาส จำนวน 20 คน ที่ร่วมนั่งเก้าอี้นายกฯ พร้อมร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ลงมายังตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพบปะถ่ายรูปร่วมกับเด็กและเยาวชนที่ร่วมกิจกรรมต่างๆ พร้อมกล่าวเปิดงานวันเด็กแห่งชาติตอนหนึ่งว่า เมื่อสักครู่ได้พบปะกับเด็กที่มีความรู้ความสามารถในห้องทำงาน บางส่วนได้นั่งเก้าอี้นายกฯ สรุปว่าเรามีนายกฯ ใหม่แน่นอนในวันหน้าเพราะนั่งโต๊ะนายกฯ กันทุกคน หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าแต่ละคนจะเรียนหนังสือ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างไร กิจกรรมวันนี้เพื่อให้ทุกคนมีความสุข สมัยตนเป็นเด็กกิจกรรมมีไม่มากเท่าทุกวันนี้ ดังนั้น เมื่อมีกิจกรรมมากขึ้นทุกคนจึงต้องรู้จักการจัดเวลาให้เป็น มีสมาธิกับการเรียนและการทำการบ้าน และทุกคนต้องเรียนรู้ว่าอะไรมีที่มาที่ไปอย่างไร ของแต่ละเรื่อง มิเช่นนั้นจะมีการพูดกันไปกันมา โดยไม่เข้าใจสาระสำคัญที่แท้จริง มันจะทำให้เกิดความขัดแย้ง เรามุ่งหมายที่จะให้เด็กทุกคนได้รับการพัฒนาในทุกมิติ
นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลนั้นจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในทุกเรื่อง เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงโอกาส แล้วสิ่งที่ตนพูดไป ก็อยากให้พ่อแม่ได้เข้าใจด้วย หากเด็กไม่เข้าใจพ่อแม่จะได้สอนต่อ ที่ตนพูดทั้งหมดคือการพูดด้วยเหตุด้วยผล ไม่ได้ต่อว่าใครทั้งสิ้น ถ้าทุกคนเข้าใจทั้งหมด เราต้องเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน เพราะถ้ามันขัดแย้งไปไม่ได้สักอย่าง ความรักสามัคคีเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้โลกปลอดภัย เราก็จะเข้มแข็ง ประเทศก็จะเข้มแข็ง ความมั่นคงยั่งยืนก็จะตามมา ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ความขัดแย้งต้องแก้ไข ต้องพูดคุยหาทางออก ไม่ใช่ไปหาทางออกด้วยวิธีอื่นที่มันไม่เหมาะสม
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศิลปวัฒนธรรมมายาวนาน คนไทยเป็นคนที่โรแมนติก ค่อนข้างมีอารมณ์ค่อนข้างเร็ว ทั้งอารมณ์รัก ชอบ เกลียด การเล่นกีฬา เล่นดนตรีจะทำให้ทุกคนมีสมาธิมากยิ่งขึ้น ทำให้สังคมสงบสุขมากยิ่งขึ้น ก็จะไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีความรุนแรงในสังคม เมื่อเราเป็นคนในชาติ ทั้งพ่อแม่ลูกหลาน นี่คือสิ่งที่ทำให้สังคมเดินหน้า ถ้าเราขัดแย้งไม่มีคุณภาพประเทศชาติยังไงก็ไปไม่ได้ ไม่ว่าเราจะเตรียมการอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าตนจะเป็น ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็เหมือนกันหมด เพราะต่างคนต่างมีปัญหากันทั้งหมด ขอย้ำว่าระเบียบวินัยสำคัญที่สุด ระเบียบวินัยในตัวเอง ระเบียบวินัยภายในบ้าน ในโรงเรียน และในสังคม จะนำไปสู่เรื่องของกฎหมายซึ่งมีทั้งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูก หลายอย่างเกี่ยวข้องกับประชาชน ทุกคนต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้ กฎหมายมีให้คนกลุ่มหนึ่ง ไม่ให้กระทบกับคนอีกกลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้อง และเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงกฎหมาย และพลังแห่งความรัก ความสามัคคี เป็นที่หนึ่งที่จะนำพาประเทศชาติ วันนี้ให้พ้นจากปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ของโลกใบนี้ ซึ่งเราทำได้ทั้งนั้น เราสามารถรองรับสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยความตั้งใจของเรา ไม่มีใครช่วยท่านได้ถ้าไม่เริ่มด้วยตัวเอง อยากฝากว่าให้เป็นสังคมแห่งความรัก ความอบอุ่น ความสามัคคี ทำหน้าที่พลเมืองของชาติ ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยังยืนให้ให้กับประเทศชาติและบ้านเมือง