“อนุทิน” ปัดพิษเศรษฐกิจส่งผลประชาชนฆ่าตัวตาย เตือนระมัดระวังตีข่าวคิดสั้นอ้างเหตุภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หวั่นอุปทานหมู่ ยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจเร่งกระตุ้นการหมุนเวียนของเงิน ชี้งบประมาณฯ ออกล่าช้า เป็นเหตุให้การทำงานสะดุด
วันนี้ (3 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.05 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาพิษเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตประชาชน ทำให้เกิดการฆ่าตัวตายว่า อย่าเพิ่งไปกล่าวอ้างถึงประเด็นนั้นอย่างเดียว เหตุผลการทำร้ายตัวเองไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยฉับพลัน ถ้าไม่มีภาวะกระทบจิตใจอย่างรุนแรง ซึ่งเราต้องจำกัดการนำเสนอข่าวประเภทนี้ให้มากที่สุด เพราะอาจทำให้เกิดภาวะอุปทานหมู่ได้ อย่างไรก็ดี กรมสุขภาพจิตได้มีการออกหน่วยดูแลเยียวยาสภาพทางด้านจิตใจผู้ประสบปัญหาอย่างใกล้ชิด แต่ต้องฝากญาติๆ ให้ช่วยดูแลใกล้ชิด หากผู้ป่วยมีอาการซึมเศร้า หรือประสบภาวะกระทบต่อจิตใจอย่างเฉียบพลัน ต้องรีบพามาพบแพทย์ทันที
เมื่อถามว่า กรมสุขภาพจิตมีการประเมินสถานการณ์ หรือทำสถิติ สาเหตุการฆ่าตัวตายว่าเกิดจากอะไรหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มีการจัดลำดับของการเจ็บป่วย เช่น ช่วงเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม หรือภัยแล้ง ได้มีการส่งทีมเฉพาะกิจลงพื้นที่ดูแลสภาพจิตใจของผู้ได้รับความเดือดร้อน ส่วนเรื่องทางเศรษฐกิจก็เช่นกัน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งกระตุ้นการหมุนเวียนของเงินให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าช่วงสิ้นเดือน ม.ค.นี้ เมื่อ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ผ่านการพิจารณาของสภาฯ เป็นที่เรียบร้อย การใช้จ่าย หรือการลงทุนภาครัฐก็จะเกิดขึ้น
“รัฐบาลชุดนี้เข้ามาช่วงปลายปีงบประมาณพอดี การจัดสรรงบประมาณต่างๆ จึงเกิดความขรุขระ และเสียเวลาไปประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งคงว่ากันไม่ได้ เพราะเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย แต่หลังจากที่ พ.ร.บ.งบประมาณฯ ผ่านสภาฯ แล้ว คงมีการหมุนเวียนของเงินเข้ามาในระบบมากยิ่งขึ้น และต้องรีบเร่งใช้จ่ายงบประมาณให้เร็ว และคุ้มค่าที่สุด” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า งบประมาณออกช้า ส่งผลกระทบต่อกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มีผลกระทบบ้าง เพราะแทนที่เราจะไปปรับปรุงยกระดับหน่วยบริการ สร้างโรงพยาบาล หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ต้องรอ ไม่เป็นไร รอแค่อีก 2-3 เดือน แต่คงต้องไปเน้นเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง การเปิดประมูลให้คนเข้ามาทำสัญญาให้เร็วสุด