นายกฯ ห่วงใยผู้ประสบวาตภัย 6 จังหวัดภาคเหนือ กำชับเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลืออย่างเต็มที่
วันนี้ (1 ม.ค.63) ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับรายงานจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เกี่ยวกับพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 6 จังหวัดภาคเหนือ รวม 20 อำเภอ 50 ตำบล 202 ชุมชน/หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 6,782 หลัง พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 12,365 ไร่
โดยประกอบไปด้วย จ.เชียงราย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอพาน และอำเภอแม่สรวย รวม 17 ตำบล 80 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 3,354 หลัง
จ.แม่ฮ่องสอน เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอปางมะผ้า รวม 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 37 หลัง
จ.ลำปาง เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำปาง อำเภองาว อำเภอแม่เมาะ อำเภอวังเหนือ และอำเภอเมืองปาน รวม 5 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 282 หลัง
จ.เชียงใหม่ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอยหล่อ อำเภอสันป่าตอง และอำเภอแม่วาง รวม 13 ตำบล 73 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 2,564 หลัง พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 11,754 ไร่
จ.แพร่ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสอง อำเภอร้องกวาง อำเภอลอง และอำเภอหนองม่วงไข่ รวม 11 ตำบล 34 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 520 หลัง พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 611 ไร่ เสาไฟฟ้าหักโค่น 40 ต้น และ จ.ลำพูน เกิดวาตภัยในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลต้นธง อำเภอเมืองลำพูน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 25 หลัง
นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ ปภ.ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหาย แจกจ่าย เครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือน รวมถึงให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยทาง ปภ. ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจประเมินและจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือ ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือ