"บิ๊กแดง" ไม่ทิ้งลาย โชว์ความฟิตร่วมทดสอบร่างกาย ACFT ตามแบบหน่วยรบ สหรัฐฯ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการปฏิบัติการเชิงยุทธวิธี-ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ชู พลอาสา เป็นการก้าวหน้าในการรับราชการ
วันนี้ (20ธ.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. ที่สนามกีฬากรมยุทธ์ ภายในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก กรมยุทธศึกษาทหารบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมการทดสอบสมรรถภาพร่างกายผู้บังคับหน่วยระดับกองพันทั่วประเทศครั้งที่ 1 ประจำปี 2563 จำนวน 330 นาย ก จากนั้นเป็นการทดสอบภาษาอังกฤษทั้งแบบข้อเขียนและการสนทนา นอกจากนี้ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.)ยังได้จัดสาธิตการทดสอบร่างกายแบบ Army Combat Fitness Test (ACFT) ซึ่งเป็นการทดสอบร่างกายทางยุทธวิธีแบบใหม่ของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปีนี้ทหารรบพิเศษของไทยได้จัดทีมเข้าร่วมแข่งขัน ACFT เป็นครั้งแรก กับอีก 9 ทีมจากทหาร3 ชาติ คือ สหรัฐฯ แคนนาดา และ ไทย ทั้งนี้การแข่งขันดังกล่าวจัดขึ้นในวันสถาปนากรมรบพิเศษของกองทัพบกสหรัฐฯ ภายใต้ชื่องานแข่งขัน “Menton ball” เพื่อรำลึกถึงหน่วยทหารที่ปฏิบัติภารกิจครั้งสำคัญในช่วงสงคราม โดยบางสถานีทหารรบพิเศษของไทยได้คะแนน 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม การสาธิตฯ ที่สนามกรมยุทธ์ครั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ ให้ผู้บังคับกองพันของหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วของ 3 กองทัพภาค ได้เข้าร่วมสาธิตด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อภิรัชต์ ยังได้ร่วมทดสอบในทุกสถานี ไล่ตั้งแต่ สถานีที่ 1 ท่างอเข่าครึ่งนั่งยกบาร์น้ำหนักขึ้น 3 ครั้ง หรือท่า Maximum deadlift สถานีที่ 2 ท่าย่อตัวทุ่มน้ำหนักขนาด 10 ปอนด์ข้ามศีรษะไปข้างหลัง หรือ ท่าStanding power throwt สถานีที่ 3 ท่าดันพื้นและมือแล้วกางแขนภายในเวลา 2 นาที หรือ Hand Relase Push-up สถานีที่ 4 วิ่งไปกลับพร้อมลากและยกของในระยะ 250 เมตร Spring ,Drag,Carry และสถานีที่ 5 ท่าดึงข้อแบบยกเข่าแตะศอก หรือ ท่า Leg Tuck ซึ่งพล.อ.อภิรัชต์ สามารถผ่านเกณฑ์ 70 เปอร์เซ็นต์ ในสถานีที่ 3 และ สามารถดึงข้อยกเข่าในสถานีที่ 5 ได้ 5 ครั้ง
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการทดสอบสมรรถภาพร่างกายประจำปีของผู้บังคับกองพันกองทัพบก ซึ่งเรายังคงใช้การทดสอบเกณฑ์มาตรฐานในการทดสอบสมรรถภาพร่างกายเหมือนเดิมในท่าลักษณะเดิมทุกประการ ส่วนการทดสอบร่างกายที่วันนี้ได้มีการสาธิตให้เห็นเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับหน่วยกำลังรบ ตั้งแต่ผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับหมวด ผู้บังคับกองร้อย ซึ่งท่าต่างๆ ได้นำมาจากการคิดค้นของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ประเทศอื่นก็มีการคิดค้นท่าฝึกต่างๆเนื่องจากให้ความสำคัญกับกำลังพลที่จะต้องออกไปปฏิบัติภารกิจ เพราะในการฝึกจะต้องมีการแบกเป้สนาม การแบกอาวุธ บางครั้งได้รับบาดเจ็บก็ต้องแบกเพื่อนร่วมงาน จึงมีความสำคัญที่จะต้องสร้างกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆในทุกท่า โดยตนได้ให้ นสศ และ กรมยุทธศึกษาไปดูว่า จะปรับนำมาทดสอบสมรรถภาพร่างกายอย่างไรให้เหมาะสมกับทหารไทย และ มีช่วงอายุที่ต่างกัน เพราะการทดสอบแบบนี้ในสหรัฐฯ ร่างกายของคนตะวันตก มวลกระดูก โครงสร้างใหญ่กว่าเรา การฝึกเพื่อนำไปใช้ในการทดสอบ หรือแข่งขันนั้นเราจึงต้องให้เหมาะสมและปลอดภัย
“ผมได้ลองทดสอบมีความรู้สึกว่าจะเกษียณฯแล้ว และอายุใกล้จะ 60 ปี ก็แก่ไปเยอะ สู้แรงของผู้พันและผู้การไม่ได้ แต่ทุกท่าทำให้เรามองเห็นว่าหากเราจะต้องลากอะไรสักอย่างหนึ่ง เช่นเพื่อนร่วมงานหรือยุทโธปกรณ์ในสนามรบในภูมิประเทศต่างๆก็ต้องใช้ท่าลาก ส่วนการโยนลูกตุ้มก็เป็นการเตรียมการของกล้ามเนื้อ แม้แต่การวิ่งเฉียงๆหรือวิ่งสลับเร็วล้วนแล้วแต่เป็นการเพิ่มสมรรถภาพร่างกาย เราจะเห็นว่าไม่ใช่แค่ทหาร แต่พลเรือนในต่างประเทศก็ให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมที่สนับสนุนการวิ่งในภูมิประเทศเพื่อแข่งขันกัน หากวิ่งในเชิงสร้างสรรค์แข่งกันเหมือนกับต่างประเทศระหว่างทหาร และข้าราชการพลเรือนถือเป็นการทดสอบการแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ อย่าลืมว่าถ้าคนในชาติแข็งแรง เยาวชนแข็งแรง มาเล่นกีฬามากขึ้นก็จะห่างไกลยาเสพติดหรือสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ได้” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ จะได้ให้โอวาทกับ ทีมทหารรบพิเศษที่ไปแข่งขันกับหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ โดยระบุว่า ได้คุยกับ ผบ.นสศ. และ ผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษ ว่าควรจะสนับสนุนกีฬาทหาร เพราะนอกจากความเป็นทีมเวิร์คแล้ว ยังทำให้ร่างกายมีความพร้อมในการรบ โดยเฉพาะ นศส.ต้องทำงานตรากตรำอยู่ในป่า ในทุกภูมิประเทศด้วย ประสบการณ์จากการฝึกทดสอบที่เดินทางไปครั้งนี้ ต้องมีการถ่ายทอดให้กำลังพลของเรา ไม่ว่าจะเป็นทหารราบ ทหารม้า โดยเฉพาะผู้บังคับหน่วยของ เพื่อนำไปขยายผลต่อไป ปีหน้าคงจะมีการส่งไปทดสอบอีก เพราะทีมของไทยได้รับการชมเชยจากหน่วยรบพิเศษของสหรัฐ ฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่ได้ให้โอวาทกับชุดรบพิเศษที่ไปแข่งขันทดสอบ พล.อ.อภิรัชต์ ได้สอบถามว่าแต่ละคนอยู่หน่วยใด และ ชั้นยศอะไร โดยมีนายสิบที่มาจากกองหนุน หรือ พลอาสาอยู่หลายคน ซึ่งพล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า นี่คือ Career Path หรือ ความก้าวหน้าในการรับราชการ ซึ่งสามารถเติบโตเป็นนายทหารได้ ซึ่งเป็นระบบที่มีอยู่ในกองทัพบกของเรา
