พปชร.รับเตรียมปรับโครงสร้างกก.บห.-เลขาฯ เพื่อประสิทธิภาพ ไม่ยึดติดบุคคล

รมว.พลังงาน แจง ประชุมใหญ่พปชร.เตรียมปรับโครงสร้างกก,บห.-เลขาฯ เพื่อให้พรรคเป็นสถาบันการเมือง ดำเนินกิจกรรมในระยะยาว ลั่นบุคคลเป็นเรื่องรองไม่ยึดติด "อุตตม" ระบุปรับให้มีประสิทธิภาพขึ้น

วันนี้ (16ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวการเตรียมปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และเลขานุการพรรคพปชร.ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ว่า การประชุมใหญ่คงจะมีการเสนอปรับโครงสร้างเพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการเปลี่ยนไปจากเดิมเมื่อครั้งที่จัดตั้งพรรคขึ้น ซึ่งจะมีการปรับในบางส่วน เช่น คณะกรรมการบริหารพรรค คณะทำงานยุทธศาสตร์ภาค เพื่อให้พรรคเป็นสถาบันทางการเมือง สามารถดำเนินกิจกรรมในระยะยาวต่อไป ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คงต้องรอในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ เพราะจะมีการหารือในหลายด้าน อย่างไรก็ตาม สำหรับบุคคลที่จะไปอยู่ในคณะกรรมการบริหารนั้น อยู่ระหว่างพูดคุยกันว่าจะมีใครบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคพปชร. นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้เป็นกรอบใหญ่คือ ทำอย่างไรจะทำให้พรรคสามารถขับเคลื่อนเป็นสถาบันทางการเมืองต่อไป เมื่อถามว่าโดยหลักแล้วกรรมการชุดเดิมควรจะลาออกทั้งชุดก่อนที่จะตั้งใหม่หรือไม่ หรือสามรถปรับเปลี่ยนเฉพาะตัวบุคคลได้ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่ ซึ่งจะอยู่ในวาระการประชุม

เมื่อถามอีกว่ามองว่าในเวลานี้ถึงเวลาที่ควรจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคแล้วหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติเมื่อมี ส.ส.แล้ว ก็ต้องปรับกลไกของโครงสร้างบริหาร เพื่อให้สอดรับกับพรรค ซึ่งโครงสร้างปัจจุบัน เกิดขึ้นเมื่อครั้งจัดตั้งพรรค แต่วันนี้พรรคขนาดใหญ่ขึ้น มีส.ส.ทุกพื้นที่ก็ต้องปรับให้เหมาะสมตาม

ผู้สื่อข่าวถามว่ายินดีหรือไม่ หากที่ประชุมใหญ่มีมติปรับให้พ้นตำแหน่งเลขาธิการพรรค นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เรื่องตัวบุคคลเป็นเรื่องรอง เรื่องสำคัญคือจะทำอย่างไร จะทำให้พรรคเราเข้มแข็ง อย่าไปยึดติดเรื่องตัวบุคคล ซึ่งมาทีหลัง เรื่องของนโยบายและแนวทางดำเนินงานเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มองว่าเป็นเรื่องปกติ เราต้องพูดคุยเพื่อหาการทำงานที่เหมาะสม ซึ่งเป็นปกติของพรรคอยู่แล้ว

“ผมไม่อยากเห็นการให้ความสำคัญเรื่องตัวบุคคล เพราะถ้าพรรคจะเป็นสถาบันต่อไป จะต้องให้ความสำคัญเรื่องระบบ อย่าไปคิดมากเลย อนาคตยังไม่มาถึง อย่าเพิ่งถาม” นายสนธิรัตน์ กล่าว

ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า วันที่ 21 ธ.ค. ถือเป็นการหารือกัน แต่โดยหลักหากมีการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค ก็เพื่อให้การทำงานของพรรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะเราเป็นพรรคใหม่ ดังนั้น การปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงเป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามว่า ในตำแหน่งสำคัญ เช่น หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค จะต้องมีการปรับด้วยหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เป็นเรื่องในพรรคที่จะต้องคุยกัน