“บิ๊กตู่” เปิด BTS สายเขียวส่วนต่อขยายถึง ม.เกษตรศาสตร์ เป็นของขวัญปีใหม่คนกรุง ขอบ้านเมืองสงบ โวเชื่อมโครงข่ายคมนาคมผลงานรัฐบาล 5 ปี เตือนระหว่างการดำเนินการต้องระวังความปลอดภัย
วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริเวณสถานีห้าแยกลาดพร้าว เขตจตุจักร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) เป็นประธานในพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถโครการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 4 สถานี จากสถานีห้าแยกลาดพร้าว สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. คณะผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้บริหารบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ผู้บริหารบริษัท ระบบขนส่งมวลชน-กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC) และผู้ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและร่วมในพิธีเปิด โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหารโดยสารรถไฟฟ้าจากสถานีห้าแยกลาดพร้าวไปยังสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก่อนจะเปิดให้ประชาชนใช้บริการอย่างเป็นทางการ โดยไม่เก็บค่าบริการ ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 2 มกราคม 2563
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเชียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ คูคต เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานในการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านระบบขนส่งมวลชนทางรางตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ของรัฐบาลซึ่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการก่อสร้างเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเพพมหานครและปริมณฑลโดยได้เริ่มก่อสร้างในปี 2558 ส่วนกรุงเพพมหานครดำเนินงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้า และเดินรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ตามมติของคณะกรรมการจัดการระบบจราจรทางบกเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2558 เรื่องการมอบหมายให้กรุงเทพมหานคร เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่งสมุทรปราการ และ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่คูคต ปัจจุบันการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จเกือบร้อยละ 100 จำนวน 4 สถานี ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 24 (N10) สถานีรัชโยธิน (N11) สถานีเสนานิคม (N12) และสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (N13) อยู่ระหว่างการทดสอบระบบรถไฟฟ้าและเก็บรายละเอียดเพียงเล็กน้อย ปัจจุบันสามารถเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เพิ่มเติมจำนวน 4 สถานี (สถานีห้าแยกลาดพร้าว-สถานีมหาวิทยาลัยกษตรศาสตร์)
สำหรับรูปแบบการเดินรถ แบ่งระยะเวลาการให้บริการเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเวลาเร่งด่วน เช้าและเย็น ตั้งแต่เวลา 07.00-09.00 น. และตั้งแต่เวลา 16.30-20.00 น. สำหรับช่วงเวลาเร่งด่วน จะให้บริการเดินรถตั้งแต่สถานีเคหะสมุทรปราการ (E23) ไปตามเส้นทางสายสุขุมวิทจนถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (N13) แล้วกลับรถวิ่งให้บริการในเส้นทางเดิมไปจนถึงเคหะสมุทรปราการ (E23) ซึ่งจะวิ่งสลับแบบ 1 ต่อ 1 กับขบวนรถไฟฟ้าที่วิ่งให้บริการในเส้นทางสถานีหมอชิต (N) ถึงสถานีสำโรง (E15) ส่วนนอกเวลาเร่งด่วน และวันหยุด (เสาร์-อาทิตย์) จะให้บริการตั้งแต่สถานีเคหะสมุทรปราการ (E23) ไปตามเส้นทางสายสุขุมวิท จนถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (N3) แล้วกลับรถวิ่งให้บริการในเส้นทางเดิมไปจนถึงเคหะสมุทรปราการ (E23) คาดว่ามีผู้ใช้บริการอยู่ที่ 100,000 เที่ยวคนต่อวันเนื่องจากเป็นเส้นทางที่อยู่ใกล้กับสถานที่ราชการ สถานศึกษา ศูนย์การค้าและย่านที่พักอาศัยหนาแน่น และหากเปิดเดินรถเต็มระบบจากสถานีหมอชิตถึงสนานีปลายทางคูคต ในช่วงปลายปี 2563 คาดว่าจะมีผู้โดยสารมากกว่า 200,000 เที่ยวคนต่อวัน
สำหรับระยะทางช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เป็นทางยกระดับตลอดเส้นทาง รวมระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร (กม.) โดยมีจุดเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ เช่น จุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล หรือรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที (MRT) สายสีน้ำเงิน ที่สถานีห้าแยกลาดพร้าว และจุดเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า โครงการรถไฟฟ้าสีเขียวถือเป็นโครงการสำคัญ ที่พัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่ง และจะต้องเร่งดำเนินการอีก 11 สถานีที่เหลือตามกรอบเวลากำหนด ภายในปี 2563 ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกประชาชน และสามารถเพิ่มขีดการแข่งขันให้แก่ประเทศ และจะพัฒนาต่อไปเพื่อให้เกิดโอกาสในด้านต่างๆ ในเมืองใหญ่ รวมถึงในต่างจังหวัดหลายพื้นที่ที่กำลังเริ่มเกิดขึ้น ด้วยความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน หากเราทำสำเร็จไปเรื่อยๆ จะช่วยบรรเทาปัญหาจราจร และระหว่างดำเนินการก่อสร้างขอให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ทั้งผู้ที่ก่อสร้าง แรงงาน และผู้ที่สัญจรไปมาจะต้องปลอดภัย โดยเฉพาะการจัดการปัญหาเรื่องฝุ่นละอองและเศษวัสดุก่อสร้างที่อาจมีผลกระทบ ซึ่งตนได้ให้นโยบายไปแล้วว่าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างส่วนใหญ่จะต้องใช้ภายในประเทศของเรา เพื่อเป็นการสร้างธุรกิจให้เกิดขึ้นภายในประเทศของเราได้ในอนาคต เราต้องพึ่งพาตนเองด้วย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบันกำลังเร่งสานต่อในเรื่องเหล่านี้ ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนจะทำอย่างไรให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น มากกว่าจะไปสร้างปัญหาต่างๆ ที่ทำให้ทุกอย่างล่าช้า และโครงการรถไฟฟ้าดังกล่าว ได้เปิดให้บริการทันในช่วงปีใหม่นี้ และในช่วงปีใหม่นี้ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข อยากให้บ้านเมืองสงบสุข สิ่งใดก็ตามที่จะทำให้มันแย่ลง เราต้องไปดูที่ต้นตอว่าเกิดจากใคร หรือเกิดจากอะไรที่ไหน ต้องช่วยกันแก้และทำความเข้าใจเพื่อลดอุปสรรค มันทำให้ทั้งหมดถ้าคนไทยร่วมมือกันทุกภาคส่วนในการเดินหน้าประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยช่วงปีใหม่ หวังว่าการเปิดรถไฟฟ้าในวันนี้จะช่วยบรรเทาและอำนวยความสะดวกประชาชนได้มากพอสมควร ต้องขอบคุณความร่วมมือในภาคเอกชนและภาคธุรกิจต่างๆ ต้องช่วยกันขับเคลื่อนประเทศชาติในเวลานี้ ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากโลกดิจิทัลที่กำลังเข้ามา จึงต้องทำเครือข่ายด้านคมนาคมเชื่อมโยงกันให้ได้
“นี่คือผลงาน 5 ปีที่ผ่านมาและจะดำเนินการต่อไป หากเราไม่ร่วมมือกัน ทุกอย่างไม่มีทางสำเร็จได้ โอกาสและศักยภาพต่างๆ ที่มีอยู่จะกลายเป็นวิกฤตในทันที คิดว่าทุกคนคงไม่อยากได้ ดังนั้น เราต้องแก้ปัญหาเก่าไปด้วย และเดินหน้าแก้ปัญหาใหม่ที่กำลังเผชิญหน้าในอนาคต จะต้องไม่มีความเสี่ยงในเรื่องเหล่านี้อีกต่อไป ต้องวางแผนให้รัดกุม รอบคอบในระยะยาว และทำต่อเนื่อง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เมื่อเช้าตนไปได้เปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 62 ที่มีทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหารเข้ามาศึกษา ตนพูดกับเขาเรื่องความมั่นคง ที่เป็นความมั่นคงในองค์รวม ซึ่งรัฐ เอกชน ประชาชน พลเรือนทั้งตำรวจ และทหารจะต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน