หน.พลังธรรมใหม่ มองปัญหาสภาล่มติดต่อกัน เพราะรัฐบาล-ฝ่ายค้านเล่นการเมืองมากไป จี้ทบทวนตัวเองไม่ให้ ปชช.เสื่อมศรัทธา ชี้ถ้าตั้ง กมธ.ศึกษา ม.44 ก็อย่าทำแบบ กมธ.ป.ป.ช. ขอพรรคร่วมอย่าใช้สภาต่อรองตำแหน่ง
วันนี้ (29 พ.ย.) น.พ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงปัญหาสภาล่ม 2 ครั้ง จากกรณีฝ่ายค้านวอล์กเอาต์เนื่องจากไม่พอใจที่ รัฐบาลเสนอญัตติให้นับคะแนนใหม่ หลังจากพ่ายแพ้ผลโหวตในการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นการเล่นเกมทางการเมืองมากเกินไปทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เป็นประโยชน์ ทำให้การทำงานของสภาต้องหยุดชะงัก จึงอยากให้ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลทบทวนบทบาทของตัวเองเสียใหม่เพื่อไม่ให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา และเบื่อหน่ายนักการเมืองมากไปกว่านี้
“ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลยอมถอยให้มีการตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบการใช้อำนาจ ตามมาตรา 44 ฝ่ายค้านก็ต้องมีคำมั่นสัญญาว่าจะใช้กรรมาธิการเพื่อการศึกษาจริงๆ ไม่ใช่นำกรรมาธิการมาเล่นเกมการเมืองแบบ กมธ.ป.ป.ช.ชุดที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน ที่มีการเชิญนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไปชี้แจงแบบไม่สมเหตุสมผล จนเกิดความวุ่นวายลุกลามกลายเป็นความขัดแย้ง” นพ.ระวีกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสการต่อรองตำแหน่งประธาน กมธ.ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสาเหตุที่ทำให้สภาล่ม 2 ครั้งติดด้วยหรือไม่ นพ.ระวีกล่าวว่า หากเป็นแบบที่ว่ามา พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคมีการต่อรองจริง ก็ขอให้ยุติ อย่าดึงสภาทั้งสภามาเล่นเกมการเมืองและทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปไม่ได้ เพราะการประชุมในแต่ละครั้งต้องสูญเสียงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนเป็นจำนวนเงินกว่า 3 ล้านบาท ที่ต้องจ่ายเป็นค่าเดินทางของสมาชิกทั้ง 500 คน รวมถึงค่าอาหารและการจัดประชุมในแต่ละวันด้วย เฉลี่ยแล้วมีการใช้เงินถึง 187,500 บาท ต่อการประชุมแต่ละชั่วโมง