ข่าวปนคน คนปนข่าว
** วันพิพากษา!! เส้นทางการเมือง “ธนาธร” อาจต้องจบเร็วกว่าที่คาด ตามคิวที่ศาล รธน.นัดชี้ชะตา “หุ้นสื่อวีลัคฯ” แต่ที่น่าห่วงกว่า “คดีเงินกู้” ที่อาจถูก “แทงจำหน่าย” ทิ้งทั้งพรรคเอาง่ายๆ
นับถอยหลังสู่โลกความจริง .. คิวที่ “เสี่ยเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้า และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ มีคิวเข้ารับฟังคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลฯวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของ “หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่” ต้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา
101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ .. จากกรณีถือครองหุ้นสื่อมวลชน “วี-ลัค มีเดีย” ซึ่งเข้าลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร .. ผลคำตัดสินของศาลฯ คงมีเพียง 2 ทาง คือ “รอด-ไม่รอด” ถ้า “รอด” ก็จะทำให้ “ธนาธร” ได้กลับมาทำหน้าที่เป็น “ส.ส.เต็มตัว” ซักที หลังถูกสั่งหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่มาร่วมครึ่งปี ..
ส่วนถ้า “ไม่รอด” แน่นอนว่าสถานะ “ผู้แทนฯ” ก็คงปิ๋ว ที่น่าสนใจกว่าคือ “อาฟเตอร์ช็อก” ที่ตามมาจะมีอะไรบ้าง ทั้งในแง่ส่วนตัวกับการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ที่อาจทำให้ “พ่อฟ้า” ต้อง “อนาคตหมด” ก่อนวัยอันสมควร .. ขณะที่ความเป็นไปของ “ค่ายสีส้ม” ก็น่าสนใจว่า “ลูกพี่” จะแค่ “ตายเดี่ยว” หรือจะพา “ตายหมู่” เลยเถิดไปถึงขั้น “ยุบพรรค” ตรงนี้มีการวิเคราะห์ว่าเป็นไปได้สูงทีเดียว ..
ด้วยเป็นวาระ “ชี้เป็น-ชี้ตาย” เส้นทางการเมืองของ “เฮียทอน” ความเคลื่อนไหวของเจ้าตัวดูจะเน้น “เรื่องของตัวเอง” เป็นพิเศษ ทั้งการเปิดฟลอร์แถลงชี้แจงมูลเหตุของคดียาวเหยียด ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีโอกาสชี้แจงโดยตรงกับตุลาการศาลฯแล้ว แต่เอาแต่พูดปัด “ไม่รู้ๆ จำไม่ได้” หรือ “ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน” จนแทบไม่ได้ชี้แจงอะไรเลยวันนั้น ..
หรืออีเวนต์ “อยู่ ไม่ เป็น” วันก่อน ก็เป็นแค่การโหมกระแสก่อนวันตัดสินคดีของหัวหน้าพรรคเท่านั้น โดยที่หาสาระเรื่องอื่นแทบไม่ได้ พร้อมกับงัดมุก “แก้เกี้ยว” ส่งทนายไปฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ กรณี กกต.ดำเนินการคดีหุ้นสื่อ ไม่เป็นธรรม ไล่ฟ้องตั้งแต่ “ประธานปุ๊” อิทธิพร บุญประคอง ประธาน และ กกต.อีก 6 คน ในข้อหาประพฤติมิชอบ อ้างเหตุใช้กระบวนการไต่สวนไม่ชอบก่อนส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเหตุสงสัยว่ามีการเร่งรัดคดีทำให้เกิดความเสียหาย การถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ และเกิดเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อ “ธนาธร” ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องไว้แล้ว .. บังเอิ๊ญ บังเอิญ จังหวะเดียวกัน ทางสำนักงานกกต. เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประชุมพิจารณาสํานวนการสืบสวน กรณีมีผู้กล่าวหาว่า “ธนาธร” ได้ให้พรรคกู้ยืมเงินของตนเอง ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามมาตรา 66 พ.ร.ป.ว่าด้วย พรรคการเมือง พ.ศ.2560 โดยได้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10,000,000 บาท ต่อพรรคการเมืองต่อปี ..
พร้อมระบุว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของสํานักงาน กกต. และคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคําร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ได้ดําเนินการเป็นไปตามกระบวนการ และขั้นตอนที่กฎหมายกําหนดทุกประการแล้ว มติของ กกต. พิจารณาแล้ว เห็นว่าเพื่อให้การพิจารณาในเรื่องดังกล่าวข้างต้น ปรากฏข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ ชัดเจนและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงมีมติเป็น “เอกฉันท์” ให้พรรคอนาคตใหม่ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม ..
ว่ากันว่า ข้อหานี้ฉกาจฉกรรจ์กว่าข้อหาหุ้นสื่อของ “เฮียเอก” เยอะ เพราะหากมีการชี้ว่าเงินกู้ที่ “เสี่ยใหญ่ไทยซัมมิท” ในฐานะเจ้าของพรรค ให้ยืม “เงินทุน” แก่พรรคในการทำศึกเลือกตั้งที่ผ่านมา ดีไม่ดี “แทงจำหน่าย” สิ้นสภาพทั้งพรรคได้เลย.
** "ดีเจแมน"ควง"ใบเตย" เข้าให้ปากคำดีเอสไอ ยอมรับสนิทสนม ซีอีโอ FOREX 3D แต่ไม่รู้เรื่องธุรกิจ เพราะเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย... ขณะที่ข้อมูลเบื้องลึกของดีเอสไอ พบเส้นทางเงินโกง เข้าบัญชีคนดังหลายคน คนละ 200-300 ล้าน
หลังจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ "รวบรวมผู้โดนโกง จาก FOREX 3D เปิดประเด็นโพสต์ภาพ และเรื่องราวของ "ดีเจแมน" พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา ที่ไปร่วมประชุม อยู่กับบรรดาผู้เกี่ยวข้องกับบริษัท FOREX-3D รวมถึงภาพที่เจ้าตัวนั่งอยู่บนเก้าอี้ของ "อภิรักษ์ โกฎธิ" ซีอีโอ ของบริษัทนี้ออกมา ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็มี "หมายเรียก" ดีเจแมน และ ใบเตย ไปให้ข้อมูลในฐานะพยาน...ซึ่งทั้งคู่ก็ได้ไปพบเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเมื่อวานนี้ (19 พ.ย.)
แต่ก่อนที่จะเข้าให้ปากคำต่อ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ก็ได้เข้าพบ"สมศักดิ์ เทพสุทิน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก่อน...เพราะท่านรัฐมนตรีก็ให้ความสนใจกับขบวนการ "แชร์ลูกโซ่" รายนี้เป็นอย่างมาก เพราะมีประชาชนโดนหลอก ตกเป็นผู้เสียหายในขณะนี้เกือบ 9,000 ราย ยอดเงินหมุนเวียกว่า 20,000 ล้านบาท และคาดว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท...
ในการให้ปากคำต่อ ดีเอสไอนั้น "ดีเจแมน" ยอมรับว่ารู้จักกับ "อภิรักษ์ โกฎธิ" เจ้าของบริษัท มี ดี เพย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทฯที่อยู่ในเครือข่าย FOREX-3D มาหลายปีแล้ว โดย "อภิรักษ์" เล่นบทแฟนคลับ นำพระเครื่องมาให้ระหว่างที่ตนเองจัดรายการที่สถานีวิทยุ... หลังจากนั้นในปี 2559 ก็มาชักชวนให้ร่วมลงทุนเทรดเงิน FOREX 3D จึงทดลองลงไป 1 แสนบาท เมื่อเปิดดูพอร์ตที่ลงทุน ก็เห็นว่ามีการเทรดเงินจริง และได้รับเงินปันผลจริง ก็เลยทยอยลงทุนเพิ่มจนถึง 1 ล้านบาท และได้ถูกจัดให้เป็นสมาชิกที่อยู่ในระดับ "แพลทินัม" ... แต่ก็ไม่ได้ทำตัวเป็น "ลูกข่าย" ที่ไปชวนคนนั้น คนนี้มาร่วมลงทุน เพียงแต่ได้ชวนแม่ ให้ร่วมลงทุนด้วยเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะเชื่อว่าได้รับเงินปันผลจริงๆ
ช่วง 2-3 ปีแรก ก็ได้ผลตอบแทนในลักษณะ"ดอกเบี้ย" ตกเดือนละ 7-9 หมื่นบาท ... จนต่อมาเมื่อเกิดปัญหาขึ้น ไปขอถอนเงินต้นที่ลงทุนไป ก็ไม่ได้คืน แต่ยังโชคดีที่ได้เงินปันผลมา รวมๆแล้วเกือบเท่าเงินต้น เท่ากับว่าตอนนี้ก็ขาดทุนไปนิดหน่อย...
"ดีเจแมน" ยืนยันว่าตัวเขาเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ไม่ได้ร่วมใน "ขบวนการโกง" ไม่รู้รายละเอียด เบื้องลึกเบื้องหลัง ในการทำธุรกิจที่ว่านี้ ... และไม่คิดว่าจะถูกนำชื่อเสียง ภาพลักษณ์ ไปใช้ในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะมีความน่าเชื่อถืออะไร
ส่วนที่ไปมีรูปร่วมวงประชุมกับ "อภิรักษ์" นั้น เป็นการร่วมงานในฐานะพรีเซ็นเตอร์ "ผลิตภัณฑ์ถังเช่า" แต่ไม่ได้มีการลงทุนในธุรกิจใดๆ ร่วมกับ"อภิรักษ์" ด้วยเลย ... "ดีเจแมน" ยังบอกด้วยว่า ในช่วงที่ "วงแชร์" มีปัญหา ก็มีคนโทรมาถาม และร้องไห้ขอให้ช่วย จึงได้ติดต่อกลับไปหา "อภิรักษ์" ปรากฏว่า ติดต่อไม่ได้แล้ว...
สำหรับเงินค่าสินสอด แต่ง "ใบเตย" สุธีวัน ทวีสิน 45 ล้านบาท ที่คนสงสัยกันว่าไปเอามาจากไหนนั้น ความจริงแล้วจำนวน 45 ล้านบาทนั้น ไม่ใช่เงินสด แต่เป็นทรัพย์สิน เช่น บ้าน ทองคำ เครื่องเพชร ซึ่งเงินสินสอด รวมทั้งค่าจัดงานแต่งงาน ตัวเขาเป็นคนออกเงินเองทั้งหมด ส่วนเส้นทางการเงิน ที่มาของเงิน ก็สามารถชี้แจงได้ และนำมาให้ ดีเอสไอ ได้ตรวจสอบแล้ว
ขณะที่ "ใบเตย" ไปพบดีเอสไอ ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เพราะท้องเสียจากอาหารเป็นพิษ บอกว่า ไม่คยลงทุน ไม่มีส่วนร่วมใดๆ กับ FOREX 3D เพียงแต่รู้จักกับ "อภิรักษ์" ในฐานะเพื่อน...เรื่องถูกนำภาพลักษณ์ ชื่อเสียง ไปใช้สร้างความน่าเชื่อถือเพื่อดึงดูดลูกค้านั้น "ใบเตย" บอกว่าเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกสอบมาหลายคดีแล้ว ทั้ง ยูฟัน เมจิกสกิน... เพราะความที่เป็นดารา ทำงานกับองค์กรหลากหลาย แม้จะมีต้นสังกัดช่วยพิจารณางานให้ระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกของผู้ที่ว่าจ้าง ว่าเขาทำธุรกิจในลักษณะใด และผู้ที่ทำผิดกฎหมาย ก็คงไม่เปิดเผยรายละเอียดให้รู้ จึงถูกดึงเข้ามาโยงกับขบวนการเหล่านี้...
ส่วนเงินสินสอด 45 ล้านบาทนั้น ส่วนใหญ่ไม่ใช่เงินสด แต่เป็นทรัพย์สินอื่นๆ "ใบเตย" บอกว่า งานแต่งงานของเธอ มีค่าสินสอดน้อยที่สุดในบรรดางานแต่งงานของกลุ่มดารา ด้วยซ้ำ ... และที่ลือกันว่า "อภิรักษ์" เป็นคนจัดงานให้ และยังใส่ซองให้อีก 10 ล้านบาท ก็ไม่จริง เพราะช่วงก่อนวันแต่งงาน ก็เริ่มมีผู้เสียหายไปร้องเรียนกับ ดีเอสไอแล้ว หาตัว "อภิรักษ์" ไม่เจอแล้ว... จึงเป็นไปไม่ได้ ที่จะมาจัดงานให้ ...
"ใบเตย" ครวญว่าตัวเธอก็คือผู้เสียหายคนหนึ่ง แม้จะไม่ได้ร่วมลงทุน แต่ก็ถูกนำความเป็น "ดารา" ไปใช้ จนถูกจับตามองว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการ
อีกคนที่อยู่ระหว่างรอเข้าให้ปากคำคือ "พิ้งกี้" สาวิกา ไชยเดช ซึ่งปรากฏภาพเธออยู่ร่วมงานกับ"อภิรักษ์" หลายครั้งหลายครา แถมคนในครอบครัวยังไปมีชื่อเป็น กรรมการบริหารของ บริษัท RMS familia บริษัท ที่เป็นต้นขั้ว ของ FOREX-3D อยู่ด้วย จึงได้รับ "หมายเรียก" ไปให้ปากคำในฐานะพยานด้วยเช่นกัน
แม้การ "สอบพยาน" ครั้งนี้ ในทางเปิดเผยอาจจะไม่ได้ข้อมูลในขบวนการโกงนี้มากมายนัก ... แต่ข้อมูลในทางลึกของ "ดีเอสไอ" พบว่า แชร์ FOREX-3D มีความเคลื่อนไหวทางการเงินนาน 2 ปี เส้นทางการเงินที่ได้จากการลงทุนของบรรดา "ลูกแชร์" นับหมื่นล้านบาท และยังพบว่า บางส่วนถูกกระจายไปให้คนดัง บุคคุลที่มีชื่อเสียง และมีความใกล้ชิดกับ"อภิรักษ์ " รายละ 200-300 ล้านบาท ...
คดีโกงแชร์ลูกโซ่ FOREX-3D เริ่มงวดเข้ามาทุกขณะ และเชื่อว่าในเร็ววันนี้ ดีเอสไอ จะกระชากหน้ากาก ผู้ที่เกี่ยวข้องให้สังคมได้เห็น เพราะเป็นขบวนการใหญ่ ผู้เสียหายเกือบหมื่นคน...ผู้ร่วมขบวนการโกง ก็ย่อมมีไม่ใช่น้อย