ส.ส.กทม.พปชร.ยันเปลี่ยนประธาน กมธ.ป.ป.ช.ได้ ไล่ “เสรีพิศุทธ์” ศึกษาข้อบังคับให้ดี ชี้นำปมส่วนตัวมาใช้ พร้อมชำแหละความไม่เหมาะสม 6 ข้อ ทั้งปกปิดข้อมูล พฤติกรรมส่วนตัว สร้างความอึดอัดแม้กระทั่งซีกฝ่ายค้าน
วันนี้ (14 พ.ย.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) ออกมาระบุว่า ไม่สามารถปลดจากประธานคณะกรรมาธิการได้ว่า คณะกรรมาธิการสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ หากเห็นว่าประธานมีความไม่เหมาะสมก็สามารถโหวตเปลี่ยนแปลงได้ อยากให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปศึกษาข้อบังคับให้ดี
“ขณะนี้การทำงานของคณะกรรมาธิการฯ มีการนำประเด็นส่วนตัวมาใช้ในคณะกรรมาธิการ ทำให้ไม่สามารถทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้เต็มที่ ทำให้เสียโอกาส และในการเป็นประธานก็มีความไม่เหมาะสมในหลายประเด็น” นายสิระกล่าว และว่า ความไม่เหมาะสมของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เท่าที่ได้สัมผัสในการเข้าประชุมคณะกรรมาธิการเพียงครั้งเดียว คือ 1. ปกปิดข้อมูล กรณีตัวแทนนายกรัฐมนตรีนำข้อมูลมาชี้แจง กรรมาธิการฯ ขอดูข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา แต่ไม่ได้ดู 2. พฤติกรรมไม่เหมาะสม กรณีชี้หน้าคณะกรรมาธิการในที่ประชุม ถามกลับไปว่าถ้าประธานโดนชี้หน้าบ้างจะรู้สึกอย่างไร
3. ไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้แสดงความคิดเห็นตามอำนาจหน้าที่ 4. แถลงข่าวประจานกรรมาธิการฯ ในขณะกรรมาธิการไม่อยู่ด้วย 5. ใช้วาจาไม่เหมาะสมกับคณะกรรมาธิการ 6. ไม่ให้เกียรติคณะกรรมาธิการ
“พฤติกรรมที่กล่าวมาสร้างความอึดอัดให้แก่คณะกรรมาธิการฯ แม้จะซีกฝ่ายค้านก็ตาม ส่วนใหญ่จึงเห็นด้วยให้มีการเปลี่ยนแปลงตัวประธาน” นายสิระกล่าว และว่าหากตำแหน่งประธานเป็นของพรรคเสรีรวมไทยก็ส่งคนใหม่มาเป็น แต่หากไม่มีใครก็พร้อมที่จะเป็นเอง