"ประยุทธ์" ร่วมกับ "นายกฯญี่ปุ่น" เป็นประธานการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นครั้งที่ 11 ยันไทยพร้อมร่วมมือมิตรประเทศเพื่อให้ลุ่มน้ำโขงเป็นอนุภูมิภาคที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
วันนี้ (4 พฤศจิกายน 2562) เวลา 20.30 น. ณ ห้อง Sapphire 202 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นครั้งที่ 11 ร่วมกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ภายหลังเสร็จสิ้น ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นครั้งที่ 11 และแสดงความยินดีในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมกันทบทวนความคืบหน้าของการดำเนินโครงการความร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2018 รวมทั้งร่วมกันหารือแนวทางในการขับเคลื่อนความร่วมมือในอนาคต และประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศ เพื่อให้ลุ่มน้ำโขงเป็นอนุภูมิภาคที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่ปี 2019 ได้ถูกกำหนดให้เป็น “ปีแห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น 2019” (Mekong - Japan Exchange Year 2019) เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปี ของกรอบความร่วมมือ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา อนุภูมิภาคมีพัฒนาการเชิงบวกต่าง ๆ เกิดขึ้น เป็นผลมาจากความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในอุตสาหกรรมเป้าหมายและอุตสาหกรรมใหม่ ๆ การยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมายและ EEC ของไทย ซึ่งพัฒนาการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า กรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นเป็นกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคที่ทันสมัยที่สุด
โดยจากการที่ญี่ปุ่นเข้ามาเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของ ACMECS ( ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง : Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy) นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพและความเชี่ยวชาญของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จะสามารถช่วยขับเคลื่อนโครงการภายใต้แผนแม่บท ACMECS ให้ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีขอบคุณนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ร่วมเป็นประธานการประชุมครั้งนี้ พร้อมชื่นชมญี่ปุ่นที่แสดงความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับประเทศลุ่มน้ำโขงในการส่งเสริมความเชื่อมโยงในทุกมิติ