xs
xsm
sm
md
lg

ชำแหละ “อนาคตใหม่” พ่ายเลือกตั้งอย่างหมดรูปที่สามพราน สองคู่หู “ธนาธร-ปิยบุตร” ผยองเกินเหตุ สุดท้ายเลยเสร็จการเมืองเก่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ข่าวปนคน คนปนข่าว


** ชำแหละ “อนาคตใหม่” พ่ายเลือกตั้งอย่างหมดรูปที่สามพราน สองคู่หู “ธนาธร-ปิยบุตร” ผยองเกินเหตุ สุดท้ายเลยเสร็จ “การเมืองเก่า” ที่ไม่ต้องพึ่งโซเชียลฯ แต่ใช้วิธีปูพรมเคาะประตูบ้าน

จบไปแล้วสำหรับการเลือกตั้งซ่อม ที่เขต 5 จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยชัยชนะตกเป็นของ “เสี่ยเตี้ย” เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครจากพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ได้ไป 37,675 คะแนน ทิ้งห่าง “เฮียป๋วย” ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร สามี “เจ๊อุ๊” จุมพิตา จันทรขจร อดีต ส.ส.เขตนี้ จากพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ได้ไป 28,216 คะแนน ส่วนผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ “ส.จ.สุรชัย” สุรชัย อนุตธโต 18,425 คะแนนตามมาเป็นอันดับ 3

นับเป็นการทวงคืนศักดิ์ศรีของ “บ้านใหญ่” ตระกูลสะสมทรัพย์ กลับคืนมาได้ หลังจากการเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค. 62 ที่ บ้านใหญ่เกือบสูญพันธุ์... เพราะในครั้งนั้น “พรรคอนาคตใหม่” ได้สร้างปรากฏการณ์ “ล้มช้าง” ที่เมืองเจดีย์ใหญ่ โดยคว้า 2 ที่นั่ง จาก 5 ที่นั่งไปอย่างเหลือเชื่อ... และเกือบได้อีก 1 เก้าอี้ ที่เขต 1 ซึ่งสูสี ถึงขนาดต้องนับคะแนนกันใหม่ ปรากฏว่าผู้สมัครของอนาคตใหม่พ่าย “เสธ.แก้ว” พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร จากพรรคประชาธิปัตย์ ไปเพียง 4 คะแนนเท่านั้น ... ส่วนที่ เขต 5 “เจ๊อุ๊” จุมพิตา จันทรขจร จากอนาคตใหม่ ที่ได้ 34,164 คะแนน โค่นผู้สมัครบิ๊กเนมจากพรรคประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ รวมไปถึง “เสี่ยเตี้ย” พี่ใหญ่ของตระกูลสะสมทรัพย์ ลงได้อย่างราบคาบถึงขนาดที่ “เสี่ยเตี้ย” ได้แค่ 12,279 คะแนน หลุดไปอยู่อันดับ 4 เลยทีเดียว...

เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงแค่ 7 เดือน ทำไมคะแนนถึงกลับตาลปัตรไปได้เพียงนี้...
เผดิมชัย สะสมทรัพย์
หลัง กกต.ปิดหีบ เริ่มนับคะแนนไปได้เพียงครึ่งทาง “เสี่ยจ้อน” อลงกรณ์ พลบุตร ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งของประชาธิปัตย์ ก็ออกมาแถลงข่าวยอม “ยกธงขาว” เพราะถูกทิ้งห่าง ...ต่อมาเมื่อนับคะแนนใกล้เสร็จ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ก็แถลงข่าวยอมรับความพ่ายแพ้ และแสดงความยินดีกับผู้ชนะ คือ “เสี่ยเตี้ย” เผดิมชัย ... แม้จะยอมรับในผลที่ออกมา แต่ก็ไม่ลืมแทรก “ข้อแก้ต่าง” ของความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ว่า เป็นเพราะ กกต.จัด “เลือกตั้งวันพุธไม่ใช่วันอาทิตย์” ทำให้ฐานคะแนนสำคัญของ “ค่ายสีส้ม” อย่างคนรุ่นใหม่ กลุ่มผู้ใช้แรงงาน ไม่สามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้งได้ แม้จะเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ แต่ผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.สามพราน หรือใกล้เคียงหลายแห่งไม่ได้หยุดงาน ...

...เรื่องเลือกตั้งวันพุธทำให้แพ้นี้ จะมองว่าเป็นข้ออ้างที่แถข้างๆคูๆ ก็ว่าได้ เพราะถ้าดูจากตัวเลขที่ “เสี่ยเตี้ย” ทำได้ 37,675 คะแนนในครั้งนี้ เมื่อไปเทียบกับเมื่อครั้ง “เจ๊อุ๊” ของพรรคอนาคตใหม่ เมื่อครั้งเลือกตั้ง 24 มี.ค. ที่เลือกตั้งวันอาทิตย์ ฐานเสียงของพรรค มาใช้สิทธิกันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ก็ทำได้แค่ 34,164 คะแนน... ซึ่งก็แพ้อยู่ดี อีกทั้งจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ ครั้งที่แล้วกับครั้งนี้ ก็ต่างกันเพียงประมาณ 5% เท่านั้น...

ย้อนไปดูบรรยากาศในช่วงหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง พลพรรคอนาคตใหม่ ดูจะมั่นอกมั่นใจในกระแสฟีเวอร์ของพรรคและตัว “เสี่ยเอก” ธนาธร ที่เป็นหัวหน้าพรรค มีการระดม แกนนำ ส.ส.คนดังของพรรค และทีมงานลงพื้นที่กันอย่างแข็งขัน คึกคัก ไม่ว่าจะเป็น “ธนาธร” หัวหน้าพรรค “ปิยบุตร” เลขาฯ พรรค “สาวช่อ” พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค รวมทั้ง “เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.ดาวสภา ผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนมาเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดา “ติ่ง” ของ “พ่อฟ้า”
ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร
พร้อมๆ กับโหมประโคมมอตโต้ประมาณว่า เลือกตั้งซ่อมที่เขตสามพรานครั้งนี้ จะเป็น โดมิโน เปลี่ยนขั้วรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำได้ หรือเปรียบเสมือน มติไม่ไว้วางใจรัฐบาล “ลุงตู่” จากนอกสภาฯ ...

แต่คนสามพรานที่รู้ทัน เขาก็มองว่า เป็นเพียงวาทกรรม ตีกิน สร้างกระแสไม่เอารัฐบาล บลัฟทีมลุงตู่เท่านั้น... เพราะ ส.ส.เพียง 1 ที่นั่ง ไม่อาจเป็นโดมิโนเปลี่ยนขั้วรัฐบาลได้ ... เพราะถึงอนาคตใหม่จะชนะ ก็เท่าทุน เป็นเพียงแค่รักษาที่นั่งเดิมไว้ได้ ไม่ใช่ชัยชนะที่พลิกฟ้า คว่ำแผนดิน ที่จะไปล้มรัฐบาลได้ ...

คราวนี้ถ้าไปมอง “กลุ่มเสื้อแดง” ที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่เป็นฝ่ายค้านร่วมกัน ว่าจะมาช่วยส่งสัญญาณเทคะแนนให้หรือไม่ ก็ปรากฏว่า มีเรื่องขบเหลี่ยมแบบคาใจกันอยู่ ตั้งแต่เมื่อครั้งเลือกตั้งซ่อมที่ เขต 8 จ.เชียงใหม่ ที่คนของพรรคเพื่อไทย โดน “ใบส้ม” ลงสมัครไม่ได้ จนต้องเทคะแนนให้ อนาคตใหม่ ส่งให้ “ศรีนวล คำลือ” สร้างสถิติได้เป็น ส.ส.ที่ได้คะแนนมากที่สุดในการเลือกตั้งปี 62 แล้วพรรคอนาคตใหม่ เอาไปปั่นกระแสสร้างคะแนนนิยมให้ตัวเอง โดยไม่ให้เครดิต “ค่ายเพื่อไทย” เลยแม้แต่น้อย ...
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
การเลือกตั้งซ่อมที่สามพรานครั้งนี้ ค่ายสีแดง จึงออกอาการสับเกียร์ว่าง ไม่คิดช่วยค่ายสีส้ม...แถมคนดังของค่ายสีแดง อย่าง “เสี่ยหนุ่ม” วัน อยู่บำรุง ส.ส.บางบอน กทม. คน “ใจถึงพึ่งได้” ยังออกมาประกาศสนับสนุน “เสี่ยเตี้ย” อย่างออกหน้าออกตา เพราะ 2 ครอบครัวรู้จักมักคุ้นกันมายาวนาน

ยิ่งช่วงเวลาสำคัญก่อนถึงวันหย่อนบัตร “เสี่ยเอก” ธนาธร ยังเล่นบท “เหยียบหัวแม้ว” กลางศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหวังให้ตัวเองรอดจากคดีถือหุ้นสื่อฯ ยิ่งทำให้อารมณ์ของค่ายสีแดงถึงกับปรี๊ดแตก! แล้วอย่างยังจะไปหวังอะไรว่าจะมีการส่งสัญญาณ มาช่วยเทคะแนนให้ ...มีแต่จะคอยเหยียบซ้ำถ้าพ่ายแพ้...

อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ ก็คือ การเสนอ ร่าง พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพล และงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหมไปเป็นหน่วยงานบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 ที่ คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอมายังสภาผู้แทนราษฎร ที่ถูกมองว่าเป็นประเด็นละเอียดอ่อน แต่ “ปิยบุตร” ก็ใช้สิทธิ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ อภิปรายในสภาฯ แสดงความไม่เห็นด้วยในแง่มุมกฎหมาย เนื่องจากมองว่าไม่เข้า “เหตุจำเป็นเร่งด่วน” ที่รัฐบาลต้องตรากฎหมายเป็น พ.ร.ก. และอาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรค 2 ที่ ระบุว่า การตราตามวรรค 1 ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อ ครม.เห็นว่าเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ก่อนที่ที่ประชุมสภาฯ จะลงมติเสียงข้างมาก 374 ต่อ 70 คะแนน เห็นชอบ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว ซึ่ง 70 เสียง ที่ลงมติไม่เห็นด้วยนั้นก็เป็น ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด... แม้อาจเข้าใจได้ว่าเป็นการแสดงความไม่เห็นด้วยในแง่มุมของกฎหมาย แต่ในเชิง “สัญลักษณ์” นั้นก็มี “เครื่องหมายคำถาม” ตามมาด้วยเช่นกัน เมื่อขมวดรวมกับ “จุดยืนเดิมๆ” ของคนอนาคตใหม่แล้วก็ทำให้คนสามพรานต้องคิดว่าควรจะสนับสนุนคนของพรรคอนาคตใหม่ ต่อไปหรือไม่ ...
ปิยบุตร แสงกนกกุล
คราวนี้ถ้าหันมามองทางกลยุทธ์ของบ้านใหญ่ สะสมทรัพย์ ในการเลือกตั้งครั้งนี้กันบ้าง ... หลังจากพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวดเมื่อคราวที่แล้ว ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน ก็มีโอกาสได้ ล้างตา เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาอย่างนี้ มีหรือจะปล่อยให้เก้าอี้ ส.ส.หลุดมือไปได้... จึงต้องระดมสรรพกำลังกันเต็มอัตราศึก ...ถึงในทางข่าว กระแสอาจจะดูเงียบๆ ไม่มีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ ไม่มีแม้กระทั่งโซเชียลฯ ... แต่ในระดับพื้นที่แล้ว “เสี่ยเตี้ย” พร้อมทีมงาน ออกเดินเคาะประตูบ้าน แบบปูพรมเต็มพื้นที่ เพื่อ “กู้ศักดิ์ศรี” คืนมาให้ได้ ...

หลังทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ “หนูนา” กัญจนา ศิลปอาชา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยังให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ทางแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้มาช่วยลงพื้นที่หาเสียงนั้น ก็เพราะ “ช่วงที่ผ่านมา ทางพรรคถามท่านเผดิมชัย มาตลอดว่าจะให้มาช่วยเดินหาเสียงหรือปราศรัยไหม แต่ท่านก็มีวิธีการแบบของท่าน โดยการเดินเคาะประตูบ้านทุกบ้าน”

เช่นเดียวกับ “เผดิมชัย” ที่กล่าวด้วยความปลื้มปริ่ม น้ำตาคลอ ถึงยุทธวิธีการหาเสียงว่า “ยุทธวิธีของผมคือ เข้าพบประชาชนเป็นกลุ่มย่อย ผ่านการเคาะประตูบ้าน โดยยึดคอนเซ็ปต์ว่า ทุกคนที่อยู่นครปฐมคือครอบครัวเดียวกัน คือครอบครัวนครปฐม ไม่ว่าจะมาจากภูมิภาคไหน ทุกคนอยู่ร่มใบเดียวกับผม ร่มที่จะกันแดด ร่มที่จะกันฝน ผมใช้ยุทธศาสตร์นี้ ทุกหมู่บ้าน และพูดคุยเพื่อความสบายใจไม่ให้เกิดความแตกแยก และสร้างความอบอุ่นให้กับ จ.นครปฐม”...

... เรียกได้ว่า เจอความเขี้ยวลากดิน ประสบการณ์อันโชกโชนของ “การเมืองเก่า” ที่ผ่านสนามเลือกตั้งมาอย่างยาวนาน ก็ทำเอา “การเมือง (ที่ว่า) ใหม่” ของพรรคอนาคตใหม่ ถึงกับจบเห่ได้เหมือนกัน




กำลังโหลดความคิดเห็น