“มงคลกิตติ์” ลงพื้นที่ช่วย “ปริมปรางค์” หาเสียงเลือกตั้งซ่อมนครปฐม ขึ้นรถแห่รอบสามพราน-จัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ตลาดพันล้าน ยกย่อง ส.ส.อนาคตใหม่ โหวตสวนมติพรรคผ่าน พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ ย้ำ ส.ส.มีเอกสิทธิ์ มติพรรคครอบงำไม่ได้ ถ้าอึดอัดให้มากับพรรคไทยศิวิไลย์ ทำงานเพื่อประชาชนอย่างอิสระ พร้อมปกป้อง
วานนี้ (21 ต.ค.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่เลือกตั้งซ่อม เขต 5 จ.นครปฐม ว่าตนได้นำทีมพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย พล.ท.อัศวิน รัชฏานนท์, น.ส.ภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรค, นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ เลขาธิการพรรค นายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย-นายศยุน ชัยปัญญา รองเลขาธิการพรรค, นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค, นายอภิรักษ์ อินดี รองโฆษกพรรค, ดร.อนวรรช ศรีคำเงิน-นางสาวอริญรดา สาระชัย กรรมการบริหารพรรค และ ทีมงานหาเสียง พา น.ส.ปริมปรางค์ แสงสว่าง (เฟิร์น) ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม เขต 5 ลงพื้นที่หาเสียง พร้อมเปิดเวทีใหญ่ปราศัยช่วงโค้งสุดท้าย เพื่อขอคะแนนจากพี่น้องชาวสามพราน
นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ตนได้พา น.ส.ปริมปรางค์ แสงสว่าง ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม เขต 5 ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่จริงๆ อายุแค่เพียง 26 ปี ลงพื้นที่แห่รอบเมืองสามพราน โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ตลาดวัดไร่ขิง สุดท้ายเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ตลาดพันล้าน อ.สามพราน จ.นครปฐม เวลา 17.00 น. โดยบรรยากาศระหว่างเดินลงพื้นที่ ได้มีประชาชนจำนวนมากมาชื่นชมในการทำหน้าที่ ส.ส.ขอจับมือแน่นๆ พร้อมมาเซลฟี ชอบการเป็นฝ่ายค้านอิสระ ทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจัง ที่ไม่สนใจเรื่องผลประโยชน์ โดยตนได้พูดคุยกับพี่น้องชาวสามพราน ว่า ขอให้เลือกลูกหลานชาวสามพรานเอาไว้ใช้งาน เกิดโตในสามพราน พรรคเราไม่ซื้อเสียง แต่พรรคเราใจถึง
“พรรคเราไม่ไร้สาระ ไม่มัวมาแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 1 ทำบ้านเมืองแตกแยก วุ่นวาย หรือมีเจตนาพิเศษ ถ้าจะแก้ก็แก้บางมาตราที่มีปัญหาเกี่ยวกับพี่น้องประชาชนโดยตรง ไม่แก้เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบรัฐ พรรคเราเน้นแก้ปัญหาประชาชนที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ไม่ว่าจะปราบโกง ปฏิรูประบบราชการให้เป็นที่พึ่งของประชาชน ปกป้องประชาชนที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐรังแก โดยการยกเลิกรายได้ส่วนแบ่งค่าปรับจราจร ค่าปรับก็ลดลงครึ่งนึงพร้อมเพิ่มงบให้โรงพัก 1,492 โรงพัก เพื่อไปใช้จ่ายชดเชยในส่วนที่เคยเบิกไม่ได้ เบิกไม่ครบก็จะทำให้การตั้งด่านลดลงไปโดยพฤตินัย แนวทางการลดค่าครองชีพลงโดยลดภาษีน้ำมันให้เหลือลิตรละ 19 บาท การไม่เก็บภาษีน้ำมันทุกประเภทปีละ 3.5 แสนล้านบาท โดยหารายได้มาชดเชยโดยการออกกฎหมายเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (กาสิโน-สวนสนุก) เปิดสัก 5 ภูมิภาคๆ ละ 2 แห่ง นำรายได้เข้าประเทศเพิ่มอีกไม่น้อยกว่าปีละ 8 แสนล้านบาท หักภาษีเข้ารัฐไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านบาท ใช้ลีกวนยูโมเดล ก็ปัจจุบันประเทศเรามีบ่อนผิดกฎหมายไม่น้อยกว่า 250 แห่งในประเทศ ตามชายแดนไทย-เพื่อนบ้าน ไม่น้อยกว่า 10 บ่อน รายได้จ่ายส่วยให้ ตำรวจ-ทหาร-เจ้าหน้าที่ปกครอง เป็นกลุ่มๆ แทนเงินไม่เข้ารัฐเลย
นายมงคลกิตติ์ยังกล่าวถึงประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายปี พ.ศ. 2563 วาระแรก ว่า ตนเองในฐานะฝ่ายค้านอิสระ ได้เสนอแนวทางการประหยัดงบประมาณโดยการผันรายจ่ายที่อาจจะเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นในส่วนการงบจัดซื้ออาวุธ รวมทั้งงบซ่อมแซมอาวุธของทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ โดยการตัดนายหน้าตัวแทนค้า ซ่อมอาวุธออกไป น่าจะทำให้สามารถลดงบประมาณดังกล่าวไป แล้วไปเพิ่มในส่วนของสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อยที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนรวมทั้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ อีกทั้งไปเพิ่มค่ารายหัวนักเรียนค่าหนังสือเรียนฟรีในระดับชั้นอนุบาล 1-3 จำนวน 2 ล้านคน เดิมเคยได้ 200 บาท/คน/ปี อาจจะเพิ่มเป็น 400 บาท/คน/ปี จะทำให้ได้หนังสือครบ 8 สาระ เพิ่มหนังสือภาคภาษาอังกฤษด้วย และยังสามารถฝันงบไปซื้อเครื่องบินทำฝนหลวงที่ยังขาดอีก 3 ลำ พร้อมซ่อม 13 ลำ เพื่อช่วยทำฝนเทียมช่วงฝนขาดช่วง ก็จะช่วยพี่น้องเกษตรกรได้มากพอสมควร
นายมงคลกิตติ์กล่าวถึงการลงมติพิจารณา พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ฯ นั้น ตนเห็นด้วยพร้อมเห็นชอบไปแล้วพร้อมกับเพื่อน ส.ส.กว่า 374 ราย เพราะตนในฐานะข้าราชการประเภทสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก็เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีหน้าที่ต้องปกป้อง ดูแลองค์พระมหากษัตริย์ให้มีความปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ตนขอชื่นชมเพื่อน ส.ส.เพื่อไทย ที่ออกเสียงรับ พ.ร.ก.ดังกล่าวอย่างไม่อิดออด และ เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางส่วนจากพรรคอนาคตใหม่ ที่เห็นชอบ แต่ก็ต้องขัดกับมติพรรค
“ผมเห็นว่า ส.ส.อนาคตใหม่ บางส่วนทำถูกต้องแล้ว เพราะพวกท่านเป็นผู้แทนราษฎรของประชาชน ไม่ใช่ต้องทำตามมติพรรคทุกครั้งไป ซึ่งจะขัดต่อเจตนารมณ์ตามรัฐธรรมนูญที่ ส.ส.มีเอกสิทธิ์ในการตัดสินใจในการโหวตห้ามผู้ใด มติพรรค มติวิปครอบงำ แต่ถ้าเพื่อน ส.ส.อนาคตใหม่ มีความอึดอัดไม่มีเสรีภาพ ก็มาอยู่กับพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านอิสระได้ มีเสรีภาพสามารถทำงานให้ประชาชนได้อย่างอิสระ ผมพร้อมปกป้อง” นายมงคลกิตติ์กล่าว
