xs
xsm
sm
md
lg

พปชร.ลุยราชบุรี เปิดเวทีประชาธิปไตยไทยอิ่ม ไม่ต้องแก้กินได้เลย “มาดามเดียร์” มั่นใจหลังงบปี 63 ผ่าน ทุกนโยบายเดินหน้าเร็ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พปชร.เดินหน้าเปิด “เวทีประชาธิปไตยไทยอิ่ม ไม่ต้องแก้ กินได้เลย” ครั้งที่ 3 จ.ราชบุรี ชาวบ้านสุดปลื้มขณะนี้นโยบายรัฐบาลออกดอกออกผลให้เห็น โดยเฉพาะมาตรการช่วยเกษตรกรที่เงินลงไปถึงมือแล้ว ด้าน “มาดามเดียร์” มั่นใจหลังงบปี 63 ผ่าน ทุกนโยบายจะเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. เวลา 16.00 น. ที่ลานวัดโกรกสิงขร อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นำโดย ดร.ชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผช.รมว.กระทรวงการคลัง น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยตัวแทนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. และตัวแทนชุมชน เปิดเวทีประชาธิปไตยไทยอิ่ม ไม่ต้องแก้ก็กินได้ เป็นเวทีที่ 3 ต่อจากเวทีแรกที่ จ.นครราชสีมา และเวทีที่ 2 จ.กำแพงเพชร เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับฟังปัญหาปากท้องจากชาวบ้านโกรกสิงขร เพื่อนำมาสะท้อนกับรัฐบาลให้ดูแลแก้ไข

นายชาญกฤชกล่าวว่า ขณะนี้นโยบายต่างๆ ของรัฐบาลกำลังออกดอกออกผลที่จะดูแลประชาชนทุกกลุ่มของสังคมให้เกิดความเท่าเทียม โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่รัฐบาลมีมาตรการดูแลออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในนั้นคือการขยายมาตรการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไปอีก 1 ปี ทั้งค่าน้ำ 100 บาท/เดือน, ค่าไฟ 230 บาท/เดือน และลดภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 2% สำหรับการใช้จ่ายผ่านบัตร เริ่ม 1 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป ขณะเดียวกันรัฐบาลกำลังจะเปิดให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเฟสสองเร็วๆ นี้อีกด้วย

นอกจากนั้น กระทรวงการคลังยังได้ออกมาตรการชิมช้อปใช้ เพื่อกระตุ้นการจับจ่าย และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นที่ถูกใจของประชาชนเป็นอย่างมาก และกำลังจะมีเฟสสองออกมาเร็วๆ นี้เช่นกัน

ส่วนมาตรการช่วยเหลือชาวเกษตรกร รัฐบาลได้ออกมาตรการไปแล้ว เช่น จ่ายเงินอุดหนุนปลูกข้าวนาปี เพื่อลดต้นทุนการผลิตไร่ละ 500 บาท โอนเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงแล้ว 1.77 ล้านครัวเรือน เป็นเงินกว่า 10,976 ล้านบาท จากเป้าหมาย 4.31 ล้านครัวเรือน วงเงินกว่า 24,000 ล้านบาท / ประกันรายได้ข้าว 5 ชนิด ในปีการผลิต 2562/63 รอบที่ 1 ประกอบด้วย ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มอื่นๆ รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือในโอกาสต่อๆ ไป ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่พูดเสมอว่า “รัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

ด้าน ส.อ.ชัยวัฒน์ หาญธนะสุกิจ ผู้ช่วยผู้อำนายการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดราชบุรี บอกกล่าวกับชาวบ้านว่า ขณะนี้ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลแล้ว 4 โครงการที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกร ประกอบด้วย (1. เงินอุดหนุนต้นทุนการผลิตชาวนา 500 บาทต่อไร่ (2. ประกันรายได้ข้าว ปีการผลิต 2562/63 รอบที่ 1 (3. ประกันรายได้ปาล์ม และ (4. เงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อย ทั้ง 4 โครงการเงินได้ถึงมือพี่น้องชาวเกษตรกรแล้ว

ด้าน น.ส.วทันยากล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้แม้รัฐบาลจะยังไม่มีเงินมากนักในการดำเนินนโยบายตามที่พรรคพลังประชารัฐหาเสียงไว้ แต่หลายนโยบายได้เริ่มปรากฏออกมาเป็นรูปธรรมแล้ว และเชื่อว่าหากร่างงบประมาณปี 63 กว่า 3.2 ล้านล้านบาท ผ่านการเห็นชอบและมีผลบังคับใช้ประมาณเดือนมกราคม ปี 2563 จะทำให้รัฐบาลมีเงินมาใช้จ่ายในการผลักดันนโยบายให้ขับเคลื่อนไปได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่า จะเดินหน้าดูแลประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี และจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2562 พล.อ.ประยุทธ์จะลงพื้นที่พบปะประชาชน จ.กาญจนบุรี และราชบุรี พร้อมกับประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) เพื่อรับฟังปัญหาของชาวบ้านด้วยตัวเองอีกด้วย

ขณะที่ น.ส.ปารีณากล่าวเสริมว่า ขอให้พี่น้องชาวราชบุรีมีความมั่นใจรัฐบาลที่จะมุ่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน ซึ่งขณะนี้นโยบายต่างๆ ได้ลงไปถึงมือชาวบ้านแล้วหลายโครงการ ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงพิสูจน์ได้ว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องทำได้โดยไม่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ส่วนตัวแทนชาวบ้านที่มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิด ยืนยันว่ารู้สึกพอใจกับมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่สามารถนำเงินดังกล่าวมาจุนเจือครอบครัวได้จริงแม้จะมีคนส่วนหนึ่งมองว่าเป็นเงินเพียงน้อยนิดก็ตาม เพราะเงินส่วนนี้ถูกนำมาต่อยอดในการประกอบอาชีพอื่นๆ เพื่อหารายได้อีกทาง

ขณะชาวบ้านที่เป็นกลุ่มเกษตรกร ยืนยันเช่นกันว่าขณะนี้ได้รับเงินช่วยเหลือจากนโยบายของรัฐบาลแล้ว ทั้งชาวนา ชาวไร่ และขอขอบคุณรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐที่จัดเวทีรับฟังปัญหาของประชาชน พร้อมกับมีมามาตรการช่วยเหลือที่เข้าถึงมือชาวบ้านได้จริง





กำลังโหลดความคิดเห็น