xs
xsm
sm
md
lg

(คำต่อคำ) “สนธิ” จวกพวกค้านแบนสารพิษใช้หัวอะไรคิด - จี้ “อนุทิน” เอาจริงกัญชาเสรี ปลดล็อกแพทย์แผนไทย 4 หมื่นคนปลูกผลิตยาใช้เอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“สนธิ” ยันแบนสารพิษมีทางออกให้เกษตรกร แต่ถูกขวางจากกลุ่มผลประโยชน์ จวกพวกอยากให้ใช้ต่อ อ้างเกษตรกรจะอยู่ไม่ได้ เอาอะไรคิด ติง “เฉลิมชัย” ท่าทียังไม่ชัดเจน ไม่วิ่งชนปัญหา พร้อมเผยอิทธิพล 3 บริษัทยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ เบื้องหลังทำกัญชา-กัญชงให้ผิดกฎหมาย ก่อนขยายอิทธิพลเข้ามาในไทย แม้ปัจจุบันเปิดใช้กัญชารักษาโรคได้ แต่รัฐยังผูกขาดการรักษาจี้ “อนุทิน” ทำตามที่หาเสียง ให้แพทย์แผนไทย 4 หมื่นคนปลูกกัญชาผลิตยาใช้รักษาได้เอง เตือนพร้อมลงถนนกับผู้ป่วยที่ต้องการรักษาด้วยกัญชา



วันนี้ (11 ต.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ในรูปแบบผู้เฒ่าเล่าเรื่อง โดยในช่วงแรก นายสนธิได้กล่าวถึงการแบนสารเคมีการเกษตร 3 ชนิด ว่าแม้กรรมการ 4 ฝ่ายมีมติ 9 ต่อ 0 ให้แบนสารพิษทั้ง 3 ชนิด แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่ต้องการให้ใช้ต่อ เนื่องจากบริษัทที่นำเข้าสารเคมียังมีสต๊อกค้างอยู่เป็นล้านกิโลกรัม จึงไม่ประหลาดใจที่มีข่าวว่าเงินปลิวสะพัด และยังกล่าวหาฝ่ายที่เรียกร้องให้แบนว่าเป็นพวกโลกสวย ไม่อยู่บนความเป็นจริง ถ้าไม่มีสารพิษแล้วเกษตรกรจะอยู่ได้อย่างไร ซึ่งน่าประหลาดใจคนที่คิดอย่างนี้ เป็นความคิดที่โง่งมเหลวใหล สมัยก่อนประเทศไทยไม่เคยใช้สารพิษ เกษตรกรอยู่มานมนานได้อย่างไร ประเทศภูฏานประกาศว่าเป็นประเทศไร้สารพิษ เขาอยู่ได้อย่างไร ชุมชนชาวอโศกทุกจังหวัดไม่ใช่สารพิษเลย เขามีกำไรมากขึ้น ขายดีขึ้น มีเงินขยายกิจการบุญขึ้นมาได้อย่างไร หรือเครือข่ายเกษตรไร้สารพิษอย่างมูลนิธิข้าวขวัญอยู่มาได้อย่างไร

นายสนธิกล่าวอีกว่า การสนับสนุนเกษตรกรให้หยุดใช้สารพิษ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้สารเคมีอื่นมาทดแทน เพียงแค่สนับสนุนให้ปลูกพืชคลุมดินแล้วใช้เครื่องมือทางการเกษตร เช่น รถไถนา รถไถ เครื่องตัดหญ้า เพื่อกำจัดพวกวัชพืชต่างๆ แต่อุปกรณ์เหล่านี้เกษตรกรเข้าไม่ถึง เราจะทำอย่างไรให้เกษตรกรที่เคยใช้สารพิษเข้าถึงเครื่องมือพวกนี้เพื่อนำกำจัดวัชพืช ซึ่งคนที่ใช้สารพิษ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อเกษตรกรทั้งประเทศเพียง 5.61 หรือ 5.91 เปอร์เซ็นต์ น่าจะบริหารจัดการได้ มันมีทางออก แต่ทางออกก็ถูกขัดขวางจากฝ่ายที่ต่อต้านการแบนสารพิษ

“พวกที่มายุยงส่งเสริมบอกว่าให้เลิกคิด เลิกมองโลกสวย สารพิษยังมีความจำเป็น คุณมองตาผมแล้วคุณตอบผมให้ฟังดีๆ สิ ผมกำลังบอกว่าพวกคุณคือตัวการที่ทำลายเด็กรุ่นต่อไปของประเทศไทย อำมหิตไหม เพียงเพื่อคุณต้องการให้ฝรั่งไม่กี่เจ้าที่มาครอบงำการเกษตรเมืองไทยแต่ไหนแต่ไรมา ให้มันมีโอกาสได้ขายสารพิษของมันต่อ ทั้งๆ ที่ประเทศมันซึ่งเป็นประเทศที่คิดค้นสารพิษนี้กลับไม่ให้มันใช้ แต่ทะลึ่งมาให้พวกเราใช้ ได้ทั้งเงิน ส่วนพวกเราจะเป็นจะตายยังไง ช่างหัวมัน” นายสนธิกล่าว

นายสนธิกล่าวถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า แม้จะพยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ วันที่คณะกรรมการมีมติแบนสารพิษ 9:0 แทนที่จะมาเน้นในเรื่องยกเลิกสารพิษและจะแก้ปัญหาอย่างไร กลับไปพูดถึงเรื่องการส่งเสริมเกษตรยั่งยืน เหมือนกับกำลังพยายามพลิ้วหนีปัญหา ทั้งที่ควรต้องเดินชนปัญหา นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่ารายชื่อคณะกรรมการสารพิษที่ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ เสนอไป นายเฉลิมชัยไม่เลือก แต่กลับเลือกคนของตัวเอง หรือที่กรมวิชาการเกษตรเสนอมา ทั้งๆ ที่ น.ส.มนัญญาเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง ถ้าข้อครหานี้เป็นจริง ท่านกำลังจะสูญเสียพื้นที่ไปอีกรอบหนึ่ง แต่ถ้าไม่เป็นจริง ก็ดี

นายสนธิได้กล่าวถึง กัญชา กัญชง และกระท่อม ที่เคยมีการใช้เป็นยารักษาโรคมานาน โดยเฉพาะกัญชามีอยู่ในตำราแพทย์ไทยแผนโบราณ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ รัชกาลที่ ๖ แต่ถูกห้ามในเวลาต่อมาเพราะฝีมือฝรั่ที่มาในนามของมูลนิธิร็อกกี้ เฟลเลอร์ เจ้าของบริษัท แสตนดาร์ดออยล์ ทั้งนี้ กัญชามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมัน อย่างเช่นสแตนดาร์ดออยล์ หรือบริษัทค้าสารเคมีขนาดใหญ่มาก คือ บริษัท ดูปองต์ รวมทั้งเจ้าของเครือข่ายสื่อมวลชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็คือ วิลเลียม แรน เฮิร์สต์ สามตัวนี้เป็นตัวเปลี่ยนแปลงในเรื่องกัญชาและกัญชง

ทั้ง 3 บริษัทดังกล่าวมีความยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลต่อรัฐบาลอเมริกามาก แต่ต่อมา เฮนรี ฟอร์ด คิดค้นรถยนต์ โมเดล T ขึ้นมา ผิวรถเบาะรถยนต์ทำมาจากไฟเบอร์ของกัญชง และคั้นน้ำมันจากกัญชงมาทำเอทานอล จึงกลายเป็นศัตรูโดยปริยายกับบริษัทดูปองต์ที่ค้าสารเคมี บริษัท สแตนดาร์ดออยล์ ที่ค้าน้ำมัน และไฟเบอร์ของกัญชงก็สามารถทำกระดาษหนังสือพิมพ์ได้ด้วย จึงขัดต่อผลประโยชน์โรงงานกระดาษของนายเฮิร์สต์ที่ผลิตจากเยื่อไม้ไผ่ซึ่งต้องใช้สารซัลเฟอร์ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ ขณะไฟเบอร์กัญชงใช้ซัลเฟอร์แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ ทั้งสามเจ้าจึงไม่ต้องการให้กัญชงเกิด และผลักดันให้กัญชาและกัญชงผิดกฎหมาย

ในช่วงยุครัชกาลที่ ๕ ร็อกกี้ เฟลเลอร์ ขยายกิจการของตัวเองเข้ามาตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งเอเชียด้วย มาในนามมูลนิธิร็อกกี้ เฟลเลอร์ ให้คนในประเทศต่างๆไปเรียนที่อเมริกาแล้วปลูกฝังค่านิยมของพวกเขา กลับมาดำเนินนโยบายต่อในทิศทางที่อเมริกาต้องการ

ต่อมามูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์เข้ามาในไทย ก็เอาวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่เข้ามาในโรงพยาบาลศิริราช มีการกำจัดแพทย์แผนไทยโบราณออกไปจากระบบ ไม่ให้มีแผนกแพทย์แผนไทยโบราณ เพราะต้องการจะก้าวหน้าไปสู่โลกที่ทันสมัย แพทย์แผนโบราณจึงไม่มีงานทำ แล้วต่อมารัฐบาลก็ออกกฎหมายว่าถ้าใครรักษาโรคด้วยกัญชา ผิด จะต้องถูกดำเนินคดี แพทย์แผนไทยหลายคนก็เลยเลิก ตำราต่างๆ ที่มีมา สืบทอดมาเป็นร้อยๆ ปี เผาทิ้งเกือบหมด เหลืออยู่เพียงบางส่วน และไม่มีใครสนใจว่ากัญชาคือพืชสมุนไพรที่สำคัญที่สุดในการที่เอามาดัดแปลง เอามาต่อยอดในการรักษาโรคของคนไทยหลายๆ ต่อหลายอย่าง

นายสนธิกล่าวอีกว่า ในช่วงปี ค.ศ. 1960 อเมริกาเป็นเจ้าโลก ต้องการจะทำอะไร มีนโยบายอะไร และต้องการให้โลกทำตาม ก็จะออกนโยบายนั้นมา ในยุค ริชาร์ด นิกสัน เป็นประธานาธิบดี สงครามในเวียดนามกำลังวุ่นวาย รัฐบาลอเมริกา ออก พ.ร.บ.เกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษนอกจากจะมีเฮโรอีน ฝิ่น มอร์ฟีนแล้ว ก็ยังมีกัญชาเข้าไปด้วย เบื้องหลังก็เพราะต้องการที่จะปราบพวกฮิปปี้ที่ต่อต้านสงครามเวียดนาม เพราะพวกนี้ชอบสูบกัญชา รวมทั้งคนดำที่คิดเฮโรอีน แต่ขณะเดียวกันทหารที่ไปรบในเวียดนามก็สูบกัญชาคลายเครียดกันมาก ทำให้ประสิทธิภาพการรบลดลง ทำให้รัฐบาลสหรัฐดำเนินนโยบายต่อต้านยาเสพติดอย่างหนัก และไปกดดันสหประชาชาติ สหประชาชาติ ให้มีคณะอนุกรรมการระบุชนิดยาเสพติดและรวมกัญชาเป็นยาเสพติดเข้าไปด้วย

ประเทศไทยก็เข้าร่วมลงนามในอนุสัญญายาเสพติดของยูเอ็น ซึ่งเราได้ต้นฉบับภาษาอังกฤษมา แต่พอเรามาแปลเป็นภาษาไทย ออกพระราชบัญญัติ เราดันตัดประโยคที่สำคัญที่สุดคือ การยกเว้นให้สามารถเอากัญชาเอามาพิสูจน์ เอามาทดสอบ เอามาค้นคว้า เอามาวิจัยเพื่อการรักษาโรคได้ แต่เชื่อว่าเป็นอิทธิพลของบริษัทยา และเป็นอิทธิพลของแพทย์แผนปัจจุบันในไทยที่มีสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับบริษัทยา ทำให้ข้อความดังกล่าวถูกตัดออกไป

แต่หลังจากนั้น ตั้งแต่ปี 1960 เป็นต้นมา ฝรั่งได้ค้นคว้าเรื่องกัญชามาเป็นจำนวนมาก ขณะที่เราปิดกั้นตัวเอง ทั้งๆ ที่ต้นตระกูลเรา บรรพบุรุษเรา ล้วนแล้วแต่รู้เรื่องกัญชา หมอพื้นบ้าน หมอแพทย์แผนไทยทุกคนรู้ว่ากัญชามีประโยชน์อย่างไร สามารถจะปรุงยาสดๆ ได้ที่ทำจากกัญชา มีเทคนิค มีวิธีการ ซึ่งสืบทอดต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่พอช่วงหลังเราโดนการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดนฝรั่งเข้ามาบีบ ตลอดจนความคิดที่คับแคบของคนที่อยู่ในวงการนี้ รวมไปจนถึงหลายคนซึ่งมีผลประโยชน์กับบริษัทยา และมีผลประโยชน์กับลักษณะแพทย์แผนปัจจุบัน ก็เลยหาทางที่จะบล็อกเรื่องนี้ตลอดเวลา เราก็เลยกลายเป็นคนซึ่งอยู่ในดงทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรที่โลกทั้งโลกต้องการ แต่เราดันทำอะไรกับมันไม่ได้

ส่วนใบกระท่อมนั้นกลายเป็นยาเสพติด ทั้งๆ ที่ในโลกนี้ไม่มีการใส่ใบกระท่อมลงไปว่าเป็นยาเสพติด ใบกระท่อมเป็นพืชสมุนไพร ยาที่ชาวบ้านเขารู้จักกันมาเป็นร้อยๆ ปี สมัยก่อนเอามาใช้เพื่อรักษาคนติดฝิ่น แต่พอคนติดฝิ่นน้อยลง ยอดเก็บภาษีฝิ่นตก ก็มีเสนาบดีคนหนึ่ง ประมาณปี 2478 เป็นยุคกลางๆ ของการล่มทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในอเมริกาในปี 1932 ซึ่งสะเทือนไปทั่วโลก เมื่อเงินคงคลังไม่มี เงินภาษีจากฝิ่นหมดแล้ว ก้มีคนหัวใสเห็นว่าคนกินกระท่อมเยอะก็เก็บภาษีใบกระท่อม ใบกระท่อมก็เลยติดอยู่ในบัญชียาเสพติดจนทุกวันนี้

นายสนธิ ได้ตั้งคำถามว่า ข้อแรก ถ้ากัญชาเป็นยาเสพติด อันตรายต่อมนุษยชาติ ทำไมอเมริกาจึงเปิดกัญชาเสรีในรัฐต่างๆ เยอะแยะไปหมด ข้อสอง ถ้าฝรั่งมันสามารถจะเอาต้นกัญชามา แล้วเอามากลั่นเป็น CBD แล้วก็เอาไปส่งขายออกไป แล้วเป็นผลทำให้ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ต้องซื้อมันมาเพื่อรักษาโรค ถามว่าคุณเอาแพทย์แผนไทย 40,000 คน ที่อยู่ทั่วประเทศไทย ลงทะเบียนแล้ว ได้ใบอนุญาตแล้วคุณเอาเขาไปทิ้งไว้ที่ไหน เพราะคนพวกนี้คือคนซึ่งสามารถรักษาโรคได้ด้วยกัญชา แต่คุณกลับไปปิดป้อง แล้วสร้างกำแพงรั้วกั้นพวกเขาเอาไว้ ไม่ให้เขามีสิทธิ์ทำอะไรเลย เฉพาะโรงพยาบาลรัฐอย่างเดียวที่รักษาได้

“ผมเชื่อว่านี่เป็นความคิดของข้าราชการ อะไรๆ ก็รัฐ สุขภาพไม่ใช่เรื่องการผูกขาดของรัฐ เรามีแพทย์แผนไทยเอาไว้ทำไม ถ้าเราตัดสินใจว่าฝรั่งทำได้ ทำไมเราไม่ให้โอกาสแพทย์แผนไทยทำได้บ้าง ให้เขามีสิทธิ์ปลูกต้นกัญชาของเขาในพื้นที่สถานแพทย์ของเขาเพื่อเอาต้นกัญชาพวกนี้ให้เขาเอาไปทำยาและสามารถรักษาคนไข้ได้ นี่คือคุณูปการให้กับมนุษยชาติ”

นายสนธิกล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ที่ปลูกกัญชา ที่ผลิตกัญชาได้ดีที่สุดในโลก ถ้าเราทำประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตยารักษาโรคจาก CBD และวิจัยการรักษาโรคมะเร็งด้วยกัญชา แล้วเพิ่มต่อยอดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกัญชาเป็นยาส่วนหนึ่งที่สำคัญมากในการรักษาโรคมะเร็ง เมืองไทยจะเป็นฮับในการรักษาโรคมะเร็ง นอกจากนั้นแล้ว น้ำมัน CBD หรือแม้กระทั่งน้ำมันจากกัญชง ก็สามารถจะเอามาผสมอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ต่อยอดได้อีก มูลค่าเท่าไร มันเป็นแสนๆ ล้าน

“ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ท่านรัฐมนตรีฯ อนุทินท่านต้องทำงานบ้างแล้ว ท่านเป็นคนที่ใช้ได้ ผมอยากจะให้ประชาชนให้โอกาสท่าน ผมได้อ่านในเฟซบุ๊กของท่าน มีการตอบโต้ ท่านหัวร้อนเกินไป คนที่เขาเห็นว่าท่านยังไม่สามารถเดินหน้าต่อไป เขากำลังมีความทุกข์ ที่พ่อเขาไม่สบาย แม่เขาไม่สบาย เขาอยากจะเห็นท่านดำเนินการต่อไปให้มันจบกระบวนการ เพราะท่านไปสัญญากับเขาไว้ เป็นพื้นฐานการหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย”

นายสนธิกล่าวอีกว่า ช่วงหลังๆ เป็นกระแสที่ปะทะกันระหว่างกระแสเก่า-กระแสใหม่ และปะทะกันแทบจะทุกเรื่อง จากการเมืองมาเรื่องกัญชา เรื่องแบนสารพิษ และต่อไปจะเป็นอีกหลายๆ เรื่อง สัญญาณนี้แปลว่าเริ่มมีคนตั้งข้อสงสัยกับสิ่งแวดล้อมเก่าๆ วิธีคิดแบบเก่าๆ ความเชื่อแบบเก่าๆ และหลักการอำนาจนิยมแบบเก่าๆ กัญชานี้เห็นได้ชัด ถ้าวันหนึ่งข้างหน้า พวกคนซึ่งพ่อแม่เจ็บป่วยแล้วไม่ได้ใช้กัญชา ไม่สามารถจะรักษาได้ ถ้าเขาจัดขบวนรถมาทั่วประเทศไทย รัฐบาลจะทำอย่างไร ตนจะไม่ลงถนนเพื่อเป็นรัฐบาล แต่พร้อมจะลงถนนกับผู้ป่วยที่ต้องการกัญชามารักษา เพราะว่าชีวิตคนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

ในตอนท้าย นายสนธิกล่าวว่า วันศุกร์หน้าจะมีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ มาออกรายการคู่กัน ชื่อ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ และชูวิทย์” วันศุกร์ เวลา 09.00 น.

คำต่อคำ : SONDHI TALK ผู้เฒ่าเล่าเรื่องกัญชา [11 ต.ค. 62]

สวัสดีครับ ท่านผู้ชมที่เคารพรักทุกท่านที่รอฟังรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พุทธศักราช 2562 ก่อนที่เราจะเข้าเรื่อง 2 เรื่องที่วันนี้ผมตั้งใจจะพูด เรื่องแรกจะพูดไม่มากนัก แต่ว่าเป็นการอธิบายความให้กับผู้ที่กล่าวหาพวกที่ไม่เห็นด้วยกับการมีสารพิษ ว่าเป็นคนที่มองโลกสวย ไม่ยอมรับความจริง เรื่องที่สองที่ผมจะพูดต่อจากเรื่องสารพิษ ก็คือเรื่องของกัญชา กัญชง ใบกระท่อม เรื่องต่างๆ เหล่านี้จริงๆ แล้วมีการพูดจามาแล้วร่วม 2 ปี และหัวหอกในการพูดและอธิบายความ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านวิชาการนั้นก็คือท่านอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ผมมีหน้าที่รวบรวมองค์ความรู้ของท่านอาจารย์ปานเทพ และหลายๆ ท่าน ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แล้วก็มาเรียบเรียงอยู่ในสมอง แล้วใช้สติปัญญาเท่าที่มีวิเคราะห์จะได้อธิบายให้กับท่านผู้ชมทั้งหลายฟัง

แต่เรื่องแรกผมอยากจะเชิญชวนท่านผู้ชมทั้งหลาย ผมและสถานีโทรทัศน์ News1 จะขอเชิญร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคีเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มั่นคงถาวรสืบไป ในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ทอดถวาย ณ วัดป่าภูแปก ญาณสัมปันโน ของหลวงปู่เฉลิม ซึ่งเป็นลูกศิษย์สายหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่บ้านกกบก ต.หนองงิ้ว อ.วังสะพุง จ.เลย สามารถร่วมทำบุญได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ News1 โทรศัพท์ก็ปรากฏอยู่บนจอแล้ว 02-629-2948 และ 095-5864741 กำหนดการวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 07.00 น. พระสงฆ์ออกรับบิณฑบาตและถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ 10.00 น. คือการทอดถวายกฐินสามัคคี

ท่านผู้ชมครับ เมื่ออาทิตย์ สองอาทิตย์ที่แล้ว เราได้พูดถึงเรื่องการแบนสารพิษที่สำคัญมากๆ ซึ่งผมตั้งชื่อย่อสารพิษ 3 ตัวนั้นว่า ไอ้คลอร์ฯ ไอ้ไกลฯ และไอ้ควอต ผมได้อธิบายไปแล้วในรายการที่ผมออกไลฟ์เฟซบุ๊กในเรื่องของการแบนสารพิษ ถึงข้อเสียต่างๆ หลายต่อหลายอย่าง จนกระทั่งเกิดกระแสขึ้นมา และในที่สุดแล้ว ท่านรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่าน ตั้งแต่คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน คุณมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ไปจนกระทั่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คุณอนุทิน ชาญวีรกูล เมื่อพูดไปแล้วก็มีคำสั่งจากท่านนายกรัฐมนตรีให้ตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่ายร่วมประชุมกันแล้วเสนอกันไปว่าจะทางออกควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งโดยหลักการแล้ว 9-0 ก็คือให้แบนสารพิษ

หนุนใช้สารพิษต่อ เอาอะไรคิด

ทีนี้ ในการกระทำเช่นนี้มันก็มีข้อกล่าวหา หรือข้อที่ฝ่ายที่ต้องการให้ดำรงคงอยู่ของสารพิษ เพราะนี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ จากการเช็กสตอกของคุณมนัญญา ได้ค้นพบว่าแต่ละบริษัทที่นำสารพิษเข้านั้นมีสตอกเยอะเหลือเกิน เป็นล้านกิโลกรัม เล็กๆ หน่อยก็ 5-6 แสนกิโลกรัม ของพวกนี้ ถ้าแบนสารพิษขึ้นมาเมื่อไร ก็จะทำให้ข้าวของที่แอบสั่งเข้ามาเป็นล็อตใหญ่ ขายไม่ออก เพราะฉะนั้นแล้วก็เลยไม่น่าประหลาดใจที่เงินสะพัด จะเข้ากระเป๋าใครบ้างผมไม่มีสิทธิ์ที่จะไปรู้ได้ แต่โดยหลักการแล้ว เงินมันปลิวแน่นอนครับ ไปทุกจุด

ฝ่ายที่ต่อต้านฝ่ายที่ไม่ต้องการสารพิษ ก็เริ่มออกมาในรูปแบบของการพูดว่าพวกเราซึ่งไม่เห็นด้วยกับสารพิษ เป็นพวกที่มองโลกสวย เขามาอ้างว่าไม่ได้อยู่บนความเป็นจริง ถ้าไม่มีสารพิษแล้วเกษตรกรจะอยู่ได้อย่างไร ซึ่งผมประหลาดใจมากท่านผู้ชม ว่าคนบางคน หรือคนที่คิดข้อความนี้ สรุปแล้วใช้สมองคิด หรือใช้หัวแม่เท้าคิด ผมเชื่อว่าแม้จะใช้หัวแม่เท้าคิด ก็จะไม่พูดคำนี้ออกมา แสดงว่าคนๆ นี้ที่คิด หรือร่วมขบวนการที่จะมาบอกว่าพวกผม หรือพวกท่านผู้ชมนั้นเป็นพวกมองโลกสวย และไม่ได้ยืนอยู่บนความเป็นจริง ผมไม่อยากใช้คำว่าความคิดนี้มันบัดซบและต่ำช้ามาก โง่เขลา โง่งมและเหลวไหลสิ้นเชิง เพราะอะไร เพราะประการแรกนั้น สมัยก่อนแต่ไหนแต่ไรมา ประเทศไทยไม่เคยมีสารพิษ ไม่เคย แล้วเกษตรกรของเราอยู่มาได้อย่างไร อยู่มาตั้งนมตั้งนาน ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข จนมาเริ่มวุ่นวายเมื่อสารพิษบ้านี้เข้ามา

ข้อที่สอง ประเทศภูฏาน เขาประกาศชัดเจนว่าเป็นประเทศไร้สารพิษ แล้วเขาอยู่ได้อย่างไรล่ะ ทำไมไม่ใช้สมอง แม้กระทั่งใช้สมองหมาปัญญาควาย ก็น่าจะคิดออก ว่าเขาอยู่ได้อย่างไร ข้อที่สาม ช่วยตอบผมหน่อยสิ ชุมชนชาวอโศก ของสันติอโศก ทุกจังหวัด เกษตรกรเขาไม่ใช้สารพิษเลย ปลอดสารพิษทุกอย่าง ปรากฏว่าเขามีกำไรมากขึ้น ขายดีขึ้น มีเงินมีทองไปขยายกิจการบุญเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร เขาทำได้อย่างไรล่ะ อีกข้อหนึ่ง เครือข่ายการเกษตรไร้สารพิษ แบบมูลนิธิข้าวขวัญ เขาอยู่ได้อย่างไร

เลิกใช้สารพิษ มีทางออก แต่โดนขวาง

ท่านผู้ชมครับ เล็กๆ น้อยๆ เป็นตัวเลขซึ่งจะปฏิเสธไม่ได้ สารพิษนี้ ผมเรียกมันว่าสารพิษนรก ปี 2560 มีการนำเข้า 140 ล้านกิโลกรัม ท่านผู้ชมเฉลี่ยต่อหัวประชากรคนไทย 65 ล้านคน พวกเราต่อ 1 คน ต้องแบกสารพิษไว้ 2.1 กิโลกรัมต่อปี แล้วถ้าเราใช้สารพิษแบบนี้จะไม่ให้เจ็บไม่ให้ป่วยได้อย่างไร จะเห็นได้ชัด สารพิษพวกนี้กระทบเกษตรกร ผู้บริโภค ระบบนิเวศ เขาประเมินว่าปีหนึ่งประเทศไทยสูญเสีย 27,440 ล้าน ทำไมไม่เรียกเก็บภาษีที่ประเทศไทยเราสูญเสียไปแบบนี้กับพวกนำเข้าสารพิษ มาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วนำเงินก้อนนี้มาสนับสนุนเกษตรอินทรีย์ ที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง พวกนี้ชอบพูดว่า ถ้าไม่มีสารพิษแล้วเกษตรจะแย่ ทำอะไรไม่ได้ คุณวิฑูรย์ ซึ่งเป็นหัวหน้าไบโอไทย เขาชี้แจงมาชัดเจน เขาบอกว่าจริงๆ แล้วรัฐบาลต้องจัดงบประมาณเอาไว้ คอยสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรที่ต้องหยุดใช้สารพิษ แต่เขาชี้แจงว่า ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไอ้คลอร์ฯ ไอ้ไกลฯ และไอ้ควอตอีก และไม่ต้องไปหาสารเคมีอื่นมาสนับสนุนให้ปลูกพืช เขาบอกให้ปลูกพืชคลุมพื้นดินเอาไว้ และใช้เครื่องมือทางการเกษตร เช่น รถไถนา รถไถ เครื่องตัดหญ้า เพื่อกำจัดพวกวัชพืชต่างๆ เหล่านี้

ทีนี้ ผมก็เพิ่งรู้เองว่าระหว่างสารพิษที่นำเข้ามานี่ ภาษีไม่ต้องเสียเลยแม้แต่บาทเดียว แต่เครื่องมืออุปกรณ์ทางการเกษตรที่ช่วยให้เกษตรกรกำจัดวัชพืช พรวนดิน นู่นนี่นั่น ต้องเสียภาษี และเกษตรกรเข้าไม่ถึง คำถามคือ เราจะทำอย่างไรให้เกษตรกรที่เคยใช้สารพิษเข้าถึงเครื่องมือพวกนี้ แล้วเอามากำจัดวัชพืช คนที่ใช้สารพิษพวกนี้ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อเกษตรกรทั้งประเทศ ประมาณ 5.61 หรือ 5.91 เปอร์เซ็นต์เอง น่าจะบริหารจัดการได้ น่าสนใจมากนะครับ มันมีทางออก แต่คำถามจะเลือกทางออกไหมล่ะ ทางออกที่เลือกก็ถูกขัดขวางด้วยฝ่ายที่ต่อต้าน คัดค้านกลุ่มพวกเราที่เห็นด้วยว่าควรจะแบนสารพิษ แล้วก็มโนไปหมด ตั้งข้อสังเกตโน่นนี่นั่น ว่าผลผลิตจะตกบ้าง ตั้งข้อสังเกตว่าพวกเราเป็นพวกที่มองโลกสวย โดยที่ไม่ยอมมองย้อนหลังไปตามเหตุผลและข้อเท็จจริงที่ผมเล่าให้ฟังในตอนต้น ผมถึงดูถูกคนพวกนี้มากว่าคิดได้อย่างไร คุณบอกว่าคุณแบนสารพิษ ผมนี่ผิดที่ผมไปแบนสารพิษ พวกคุณกล้ามองตาผม แล้วตอบผมมาตรงๆ ได้ไหม จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล วิจัยชัดเจนว่า 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ ของเด็กที่อยู่ในครรภ์มารดา เท่าที่เขาสำรวจมา ได้รับอิทธิพลจากสารพิษมาก และจะก่อให้เกิดผลทำให้เด็กเมื่อเกิดขึ้นมาแล้วสมาธิสั้น สั้นไม่พอ การพัฒนาทางสมองจะช้า และมีโอกาสที่จะเป็นเด็กออทิสติกอ่อนๆ ตลอดจนมีปัญหาเรื่องต่อมไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ

ท่านผู้ชมครับ เคยสังเกตบ้างไหมเหมือนที่ผมสังเกต ว่าเด็กรุ่นใหม่ที่คลอดจากครรภ์มารดาและเจริญเติบโตมา ช่วงหลังๆ เรามีเด็กสมาธิสั้นมากขึ้น และเด็กที่เป็นออทิสติกอ่อนๆ ก็มีมากขึ้น ผมเชื่อครับ จากงานวิจัยชัดเจน เพราะไอ้สารพิษบ้ามันตกหล่นไปที่พืชผักผลไม้ ลงไปสู่แม่น้ำลำคลอง ไปสู่กุ้งหอยปูปลา พวกเรานี่จะดีๆ ชั่วๆ เราโดนสารพิษนี้กันทั้งนั้น แต่โชคดีที่ผมเกิดเมื่อปี 2490 ในช่วงนั้นมันยังไม่มีสารพิษพวกนี้เข้ามา ผมก็เลยเป็นคนที่ไม่มีสมาธิสั้น และก็ไม่ได้เป็นออทิสติกอ่อนๆ ด้วย แต่เด็กที่เกิดจากท้องแม่และเกิดโรคพวกนี้ ก็ขอให้รู้ว่ามาจากผลพวงของสารพิษพวกนี้ และพวกที่มายุยงส่งเสริมบอกว่าให้เลิกคิด เลิกมองโลกสวย สารพิษยังมีความจำเป็น คุณมองตาผมแล้วคุณตอบผมให้ฟังดีๆ ซิ ผมกำลังบอกว่าพวกคุณคือตัวการที่ทำลายเด็กรุ่นต่อไปของประเทศไทย อำมหิตไหม เพียงเพื่อคุณต้องการให้ฝรั่งไม่กี่เจ้าที่มาครอบงำการเกษตรเมืองไทยแต่ไหนแต่ไรมา ให้มันมีโอกาสได้ขายสารพิษของมันต่อ ทั้งๆ ที่ประเทศมันซึ่งเป็นประเทศที่คิดค้นสารพิษนี้กลับไม่ให้มันใช้ แต่ทะลึ่งมาให้พวกเราใช้ ได้ทั้งเงิน ส่วนพวกเราจะเป็นจะตายยังไง ช่างหัวมัน

“เฉลิมชัย” ต้องเดินชนปัญหา

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้แล้ว ขอเวลาสักนิดครับ ก็มีความจำเป็นต้องพูดถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน ผมทราบว่าท่านพยายามทำอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่ผมจำเป็นต้องเตือนท่านนิดหนึ่ง ท่านก็ยังไม่มีความชัดเจนนะครับในเรื่องนี้ วันที่ประกาศแบนสารพิษโดยคณะกรรมการ 9:0 แทนที่ท่านจะมาเน้นในเรื่องยกเลิกสารพิษและจะแก้ปัญหาอย่างไร ท่านกลับไปพูดถึงเรื่องการส่งเสริมเกษตรยั่งยืน เหมือนกับท่านกำลังพยายามพลิ้วหนีปัญหา ท่านเฉลิมชัย ท่านต้องเดินชนปัญหา สมัยที่ท่านเป็น ส.ส. หรือสมัยที่ท่านยังไม่ได้รัฐมนตรี ผมเชื่อว่าท่านฟังทุกคน ชาวไร่ ชาวนา ประชาชน นักวิชาการ แต่พอท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แล้ว ท่านกลับไปฟังข้าราชการประจำอย่างเดียว ผมว่าไม่ถูกต้องนะครับ ไม่ถูกต้อง และผมก็ได้ข่าวมา ผมก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ผมยังไม่เชื่อนะครับท่านเฉลิมชัย ว่ารายชื่อคณะกรรมการสารพิษที่คุณมนัญญา เสนอไป ตกหมดแล้ว ท่านไม่เลือกเลย ท่านเฉลิมชัยกลับเลือกคนของท่านเอง หรือที่กรมวิชาการเกษตรเสนอมา ทั้งๆ ที่คุณมนัญญาเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง ผมเกรงว่าข้อครหานี้ถ้าเป็นจริง ท่านกำลังจะสูญเสียพื้นที่ไปอีกรอบหนึ่ง แต่ถ้าไม่เป็นจริง ก็ดีครับ แต่อย่างน้อยที่สุด โดยหลักการในการบริหารงาน ท่านควรจะให้เกียรติท่านรัฐมนตรีช่วยฯ คุณมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ในเมื่อเขารับผิดชอบในเรื่องนี้ และท่านเองก็ถอยในเรื่องนี้แล้ว ท่านบอกว่าต้องแบนสารพิษ ก็คณะกรรมการที่คุณมนัญญาเสนอมา ก็ให้เขาเป็นทุกคนสิครับ

ท่านอย่าเพิ่งไปหลงลืมตัวเองว่าท่านมาจากพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุด เหมือนคนโบราณนะครับ ผมนี่แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นานหรือเปล่า ไม่ใช่ครับ เพราะวันนี้ผมมีหน้าที่มานั่งให้ปัญญากับประชาชน กลายเป็นผู้เฒ่าเล่าเรื่อง เล่าเบื้องหลังต่างๆ ให้คนได้เข้าใจ ผมอยากให้ท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน คิดให้ดีๆ นะครับ สิ่งที่ผมพูด ผมไม่ได้กล่าวหาท่าน ผมแนะนำว่าท่านยังไม่มีความชัดเจนเลยแม้แต่นิดเดียว ที่ท่านจะแสดงออกว่าท่านเอากับประชาชนที่ต่อต้านสารพิษพวนี้ ระวังนะครับ ระวังให้มากๆ เพราะว่ายุคโซเชียลมีเดียเป็นยุคที่อันตรายที่สุด ข้อมูลข่าวสารมันไปถึงอย่างรวดเร็ว ผมไม่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคที่ถือว่าประชาชนต้องมาก่อน กลายเป็นพรรคที่มีสโลแกนว่า ประชาชนต้องตายก่อน ไม่ดีครับ ผมฝากให้ท่านเฉลิมชัยช่วยดูให้สักนิดหนึ่ง

เบื้องหลัง “กัญชา” จากยารักษาโรค กลายเป็นยาเสพติด

ท่านผู้ชมครับ ตอนนี้เราก้าวเข้ามาสู่เรื่องราวต่างๆ ที่เราจะพูดกันในเรื่องกัญชา เอากันง่ายๆ ดีกว่า กัญชาข้อมูลมันสลับซับซ้อน เมื่อคืนผมไม่รู้จะพูดอย่างไร ผมก็เลยเขียนเป็นสคริปต์หนังขึ้นมา บทที่ 1 บทที่ 2 บทที่ 3 เป็นอย่างไร

แรกสุดเราต้องเข้าใจคำว่ากัญชาก่อน กัญชา กัญชง ใบกระท่อม กัญชาหรือที่เรียกว่า MARIJUANA กัญชงเขาเรียกว่า HEMP ส่วนใบกระท่อมผมไม่รู้ เขาเรียกอะไร ผมก็เรียกว่ากระท่อมก็แล้วกันนะ แต่ผมเห็นฝรั่งเขาก็เขียน KRATOM สามตัวนี้ถามว่ามีมาในโลกนี้นานหรือยัง นานแล้วครับ ไม่ใช่เพิ่งมี สมัยอาณาจักรเปอร์เซียก็มีการใช้กัญชา อินเดีย ราชวงศ์โมกุลก็มีการใช้กัญชา มาจนกระทั่งประเทศจีน ประเทศไทย ก็เคยใช้กัญชามานมนานแล้ว

สมุนไพรทางด้านกัญชาไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อน เป็นเรื่องที่แพทย์ไทยแผนโบราณที่อยู่ในอดีต ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ รัชกาลที่ ๕ ได้ใช้กัญชา สกัดออกมาแล้วมาผสมแล้วทำยารักษาโรค มานานแล้วครับ ตั้งแตรัชกาลที่ ๔ มาเรื่อยๆ ถึงรัชกาลที่ ๕ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันพังทลายไปหมด ถูกห้าม เพราะฝีมือฝรั่ง ฝีมือฝรั่งที่มาในนามของมูลนิธิร็อกกี้ เฟลเลอร์ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ท่านผู้ชมฟังว่าความเป็นมา มันเป็นอย่างไรบ้าง แล้วฝรั่งเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างไร ถ้าผมเล่าต่อไปว่ากัญชามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมัน อย่างเช่นสแตนดาร์ดออยล์ หรือบริษัททางเคมีที่ทำงานใหญ่มาก แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตสารพิษเข้ามาไทย ก็คือบริษัทดูปองต์

หรือแม้กระทั่ง ท่านผู้ชมเชื่อหรือไม่ เจ้าของเครือข่ายสื่อมวลชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็คือ วิลเลียม แรน เฮิร์สต์ ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์เครือข่ายเฮิร์สต์ สามตัวนี้เป็นตัวเปลี่ยนแปลงในเรื่องกัญชา และเป็นตัวการซึ่งทำทุกอย่าง ล้มกัญชา ล้มทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

ประการแรก เราถามตัวเราเองก่อน วันนี้เราจะพูดในเรื่องข้อเท็จจริง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่มาที่ไป และในขณะเดียวกัน เราจะพูดถึงปรัชญาต่างๆ ในเรื่องกัญชา ควรหรือไม่ควร ใช่หรือไม่ใช่ เราทำถูกอยู่หรือเปล่า ทำไมเราไม่ทำอย่างนั้น ทำไมเราไม่ทำอย่างนี้

ประการแรก ท่านผู้ชมคิดว่ากัญชาเป็นยาเสพติดหรือเปล่า ถ้าดูตามกฎหมาย เป็นยาเสพติด แต่กฎหมายระบุว่ากัญชาเป็นยาเสพติดนั้นมันมีเบื้องหลังที่มาที่ไป เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ท่านผู้ชมฟังว่าที่มาที่ไปมันเป็นอย่างไร

กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด ระหว่างกัญชา เหล้า บุหรี่ เหล้ากับบุหรี่กลับเป็นยาเสพติด ใครทานเหล้ามากๆ ก็เลยกลายเป็นผู้ที่ติดเหล้า หรือภาษาอังกฤษเขาเรียกว่าแอลกอฮอล์ลิซึม ใครติดบุหรี่มากๆ ก็ทนไม่ได้ ตื่นขึ้นมาต้องสูบบุหรี่ แต่กัญชานั้นไม่มีใครติดได้ ใครสูบ ใครจะเลิกเมื่อไรก็เลิกได้ ระหว่างยาเสพติด อย่างเช่น บุหรี่กับเหล้า ซึ่งมีขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป กับกัญชาที่ห้าม ไม่ให้ขาย ไม่ให้ซื้อกัน ถือว่าผิดกฎหมาย ใครเป็นยาเสพติด และเป็นยาเสพติดที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ข้อที่สอง แพทย์ไทยแผนโบราณ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ได้เรียนรู้การใช้กัญชา สมุนไพร เอามาทำยารักษาโรคให้คน ไม่ว่าจะยารักษาโรคเครียด หรือยารักษาโรคนอนไม่หลับ หรืออะไรต่ออะไรหลายอย่าง รักษาทางจิต หรือแม้กระทั่งโรคมะเร็ง เขารักษามาจนกระทั่งเขามีสูตร สูตรยารักษาโรคที่ใช้กัญชาผสมถึง 400 สูตร ถามว่าถ้ายาผสมกัญชาเป็นยาเสพติด เขาจะคิดมา 400 สูตรได้อย่างไร และ 400 สูตรนี้ คิดก่อนที่ฝรั่งจะค้นพบเสียด้วยซ้ำว่ากัญชามีประโยชน์อะไร

ปัจจุบันนี้งานวิจัยสมัยใหม่ของสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ก็เริ่มมีการวิจัยค้นพบประโยชน์จากกัญชาเอามารักษาโรคได้มาก แต่ท่านผู้ชมครับ คนไทยรู้เรื่องนี้มาร้อยกว่าปีแล้ว และที่น่าเศร้าสลดอย่างมากก็คือว่า เรามีคนกลุ่มหนึ่งที่มีอำนาจ มีอิทธิพล กลับไปทำลายภูมิปัญญาที่เขารักษาปู่ย่าตายายเขามาตลอด แล้วทำไมกัญชาถึงกลายเป็นยาเสพติดไปได้ ตามผมมาครับ

มันเกี่ยวข้องกับประเทศที่ผมไม่อยากพูดเลย เพราะประเทศนีมันบริหารโดยคนบ้า ก็คือสหรัฐอเมริกา นานมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังสงครามโลกที่ 1 ใหม่ๆ มีบริษัทสแตนดาร์ดออยล์ ซึ่งเจ้าของชื่อร็อกกี้ เฟลเลอร์ ขุดเจาะค้นพบน้ำมัน แล้วก็ตั้งสแตนดาร์ดออยล์ สแตนดาร์ดออยล์สมัยก่อนยิ่งใหญ่มาก ความยิ่งใหญ่ไม่ต่างจาก ปตท.ทุกวันนี้เลย สแตนดาร์ดออยล์มีอำนาจเหนือรัฐบาล ลึกๆ แล้ว ปตท. ในทางอ้อมก็มีอำนาจเหนือรัฐบาลไทยเช่นกัน เพราะเงินตัวเองก็มีอยู่เยอะ

บริษัทที่ 2 คือ บริษัท ดูปองต์ บริษัท ดูปองต์คือบริษัทผลิตสารเคมีทุกอย่าง แล้วเอาทางวิทยาศาสตร์มาทำ อย่างเช่นกระดาษแก้ว ทำไนลอน คือใช้วิทยาศาสตร์มาทำ

อันที่สามก็คือโรงพิมพ์ โรงพิมพ์และอุตสาหกรรมผลิตกระดาษพิพม์ ซึ่งอยู่ในกำมือของนายเฮิร์สต์ ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายสื่อมวลชนที่ใหญ่ที่สุด หนังสือพิมพ์เฮิร์สต์ ตระกูลเฮิร์สต์ สามารถจะสร้างสงครามระหว่างอเมริกาเม็กซิโกได้ด้วยการลงเฟกนิวส์และปลุกระดมให้รัฐบาลอเมริกาเข้าไปยึด เข้าไปตีและยึดแคลิฟอร์เนียมา ยึดหลายๆ แห่งมา เฮิร์สต์ทั้งนั้น เฮิร์สต์เขาตั้งโรงงานทำกระดาษซึ่งทำจากเยื่อไผ่ แล้วในการทำโรงงานกระดาษนั้นมันต้องใช้ซัลไฟต์ หรือซัลเฟอร์ในการมาช่วย เอาล่ะ ผมเอาตัวละครสามตัวมาให้ดูแล้ว

และเผอิญ ช่วงหนึ่งจังหวะหนึ่งน่าจะเป็นประมาณ พ.ศ. 2468 ถ้าผมจำไม่ผิด มันเกิดมีฝรั่งคนหนึ่งชื่อเฮนรี ฟอร์ด เฮนรี ฟอร์ด คือใคร คือผู้คิดค้นรถยนต์ โมเดล T ขึ้นมา ปรากฏว่าสิ่งที่เฮนรี ฟอร์ด ทำก็คือ ผิวรถ เบาะรถยนต์ เขาทำมาจากไฟเบอร์ที่เอามาจากกัญชง ที่ฝรั่งเขาเรียกว่า HEMP กัญชาเขาเรียก MARIJUANA กัญชงคือ HEMP และที่ร้ายกาจที่สุดก็คือว่า เขาคั้นน้ำมันจากกัญชงมาทำเอทานอล เพราะฉะนั้นรถฟอร์ดรุ่น T ก็กลายเป็นรถที่ใช้ผลผลิตจากพืชสมุนไพร คือ HEMP รวมไปจนถึงน้ำมัน ก็คือเอาทานอลซึ่งทำมาจาก HEMP ก็คือไฟเบอร์ของกัญชงนั่นเอง

อันที่สอง กัญชงมีไฟเบอร์เยอะ หลายไฟเบอร์ที่กัญชงทำนี้ เอามาทำเสื้อผ้า เอามาทำหีบห่อ เอามาทำโน่นทำนี่ ก็เลยกลายเป็นศัตรูโดยปริยายกับบริษัทดูปองต์ เพราะดูปองต์กำลังผลิตกระดาษแก้วขึ้นมา แล้วไฟเบอร์ของกัญชงก็สามารถเอามาทำหนังสือพิมพ์ได้ด้วย ซึ่งก็ไปขัดต่อผลประโยชน์ของนายเฮิร์สต์ ซึ่งมีโรงงานกระดาษหลายโรง เพราะเขาผูกขาดหนังสือพิมพ์ทั่วอเมริกา ทำไมถึงต้องต่อสู้เรื่องนี้ เพราะ HEMP คือกัญชง ไฟเบอร์เมื่อนำมาทำกระดาษพิมพ์ ใช้ซัลเฟอร์แค่ 25 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่โรงงานผลิตกระดาษตามรูปแบบเดิมของนายวิลเลียม แรนดอล์ฟ เฮิร์สต์ ใช้ซัลเฟอร์ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นแล้วมูลเหตุทั้งหลาย สแตนดาร์ดออยล์ โดยร็อกกี้ เฟลเลอร์ ไม่ต้องการให้โมเดล T ฟอร์ด หรือรถคันต่อไป ใช้น้ำมันเอทานอลจาก HEMP ให้ใช้น้ำมันจากสแตนดาร์ด ออยล์

ดูปองต์ไม่ต้องการให้กัญชงเกิด เพราะกัญชงผลิตไฟเบอร์ที่จะมาทำให้ธุรกิจดูปองต์ลำบาก นายเฮิร์สต์ก็ไม่ต้องการให้กัญชงเกิด เพราะกัญชงสามารถนำไปผลิตกระดาษหนังสือพิมพ์ได้ ในต้นทุนที่ต่ำกว่าเขาเยอะ

ทีนี้ ผมจะเล่าให้ฟังนิดหนึ่งเล็กๆ น้อยๆ เป็นความรู้ประดับเอาไว้ สามบุคคลนั้นก็คือ จอห์น ดี. ร็อกกีเฟลเลอร์ เจ้าของบริษัท สแตนดาร์ดออยล์ บริษัทดูปองต์ และนายวิลเลียม แรนดอล์ฟ เฮิร์สต์ อุปมาอุปไมยก็คือเป็นเจ้าของประเทศสหรัฐอเมริกา อิทธิพลทั้งเงินทั้งทองเขามีสูงมาก สูงขนาดไหน สูงขนาดเขาสามารถที่จะส่งใครก็ได้เข้าไปเป็นวุฒิสมาชิก หรือเป็น ส.ส. รัฐมนตรีทุกคน ประธานาธิบดีทุกคน จะเกรงใจสามกลุ่มนี้มาก เพราะฉะนั้นแล้วก็มีเลยมีความพยายามที่จะผลักดัน เพื่อให้กัญชาและ HEMP ไม่ถูกกฎหมาย ก็คือผิดกฎหมายไป จังหวะพอดี ในช่งยุครัชกาลที่ 5 ร็อกกี้ เฟลเลอร์ ขยายกิจการของตัวเองเข้ามาตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งเอเชียด้วย มาในนามมูลนิธิร็อกกี้ เฟลเลอร์ หรือภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า The Rockefeller Foundation

สมัยก่อน ผมจำได้สมัยผมหนุ่มๆ ใตรก็ตามที่ได้ทุนการศึกษาจากมูลนิธิฟอร์ด มูลนิธิร็อกกีเฟลเลอร์ จะภูมิอกภูมิใจ เพราะหนึ่ง ค่าเทอมจ่ายให้หมด ค่าใช้จ่ายให้สูงกว่าทุนอื่นๆ ทุน ก.พ.นี่สู้ไม่ได้เลย แต่คนพวกนี้เขาใช้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Software power อำนาจทางอิทธิพลอ่อนๆ คือส่งคนไทย ส่งคนเวียดนาม ส่งคนกัมพูชา ส่งคนจีน ไปเรียนอเมริกา แล้วไปปลูกฝังค่านิยมของพวกเขา เพื่อคนพวกนี้จะได้แบกค่านิยมพวกนี้กลับมาแล้วก็ดำเนินนโยบายต่อในทิศทางที่อเมริกาต้องการ

ทีนี้ เรื่องมันก็ยังคาราคาซังอยู่ จนกระทั่งมูลนิธิร็อกกีเฟลเลอร์เข้ามา เข้ามาแล้วสิ่งแรกที่มูลนิธิร็อกกีเฟลเลอร์ ทำก็คือ เข้าไปดูโรงพยาบาลศิริราช แล้วเห็นว่าโรงพยาบาลศิริราชแต่ก่อนเป็นศูนย์รวมของแพทย์แผนโบราณไทย และเป็นศูนย์รวมข้อมูลทุกอย่างของแพทย์แผนโบราณไทย ปรากฏว่านี่มาจากเมืองนอก มันต้องการเอาวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่เข้ามา ฝรั่งมันจะไปรู้ได้อย่างไร ฝรั่งจะรู้จักหมอชีวกโกมารภัจจ์ไหม หมอสมัยพุทธกาล ก็ไม่รู้จัก ฝรั่งมันรู้จักหมอเทวดาที่ชื่อฮูโต๋ ซึ่งเป็นคนผ่าสมองของโจโฉ ในยุคนั้น ก็ไม่รู้จัก ฝรั่งมันรู้จักอยู่อย่างเดียว ก็คือผ่าตัด การใช้ยาปฏิชีวนะ การโน่นการนี่ เพราะฉะนั้นแล้วฝรั่งพอมาดูตรงนี้ ก็เห็นว่ามันล้าสมัยในสายตาเขา ไม่เห็นคุณค่าของหมอแผนไทย เนื่องจากยาฝรั่งกับยาไทยมันต่างกัน ยาไทยค่อยๆ รักษาและสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ยาฝรั่ง พอปวดหัวปั๊บ กินพาราเซตามอล 2 เม็ด มันก็จะคลายประสาท แต่ผลที่มีต่อมา ก็คือยาพวกนี้ หรือยาแอนตีไบโอติก มันก็จะตกไปในตับ สะสมในตับ แล้วเป็นอันตรายต่อเรา ฝรั่งไม่สนใจ ข้าพเจ้าขอขายยาอย่างเดียว ในที่สุดแล้วโรงพยาบาลศิริราชก็เลยทำตามคำแนะนำของมูลนิธิร็อกกี เฟลเลอร์ กำจัดแพทย์แผนไทยโบราณออกไปจากระบบ ไม่ให้มีแผนกแพทย์แผนไทยโบราณ ทั้งๆ ที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นศูนย์รวมของแพทย์แผนไทย

ที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง เดี๋ยวจะหาว่าผมกล่าวลอยๆ ทั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชชนก พระบิดาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้เคยมีพระราชดำรัสชัดเจนว่าให้รักษาไว้ซึ่งแพทย์แผนโบราณ แพทย์แผนไทย เพราะว่าแพทย์แผนไทยยังมีความจำเป็นต่อสังคมมาก ถึงกับขนาดว่าสามารถเข้าสู่จิตใจคนได้ และการรักษาโรคนั้น ถ้าเข้าสู่จิตใจคนได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็จะดีขึ้นมาโดยปริยาย ตรงนี้ไม่มีใครรู้ว่ามูลนิธิร็อกกี เฟลเลอร์ ร่วมมือกับคนไทยในยุคนั้น ซึ่งมีความรู้สึกต้องการจะก้าวหน้าไปสู่โลกปัจจุบัน โลกที่ทันสมัย โลกที่มีการแพทย์แผนปัจจุบัน เป็นผู้ล้มล้างระบบภูมิปัญญาไทยทั้งหมด แพทย์แผนโบราณไม่มีงานทำ แล้วต่อมาก็กลายเป็นจำเลยของสังคม เพราะรัฐบาลดันทะลึ่งไปออกกฎหมายว่าถ้าใครรักษาโรคด้วยกัญชา ผิด จะต้องถูกดำเนินคดี แพทย์แผนไทยหลายคนก็เลยล้างมือล้างเท้า เลิกแล้ว ไม่เป็นแพทย์แล้ว ไปทำงานไร่ทำงานนา ไปทำงานรับจ้าง ตำราต่างๆ ที่มีมา สืบทอดมาเป็นร้อยๆ ปีตั้งแต่ยุคสุโขทัย มาถึงยุคอยุธยา มาถึงยุครัตนโกสินทร์ เผาทิ้งเกือบหมด เหลืออยู่เพียงบางส่วนเท่านั้นเอง สูตรของยาที่มีอยู่ 400 อย่าง ก็อยู่ในคัมภีร์อมฤตโอสถ จะอย่างไรก็ตามไม่มีใครสนใจว่ากัญชานี่ล่ะ กัญชาที่คุณรังเกียจนัก โดนฝรั่งมันปั่นหัว จนกระทั่งคุณเห็นชอบด้วย ก็คือพืชสมุนไพรที่สำคัญที่สุดในการที่เอามาดัดแปลง เอามาต่อยอดในการรักษาโรคของคนไทยหลายๆ ต่อหลายอย่าง

สหรัฐฯ บีบยูเอ็นบึ้นบัญชีกัญชาเป็นยาเสพติด

ท่านผู้ชมครับ เล่าต่อไปฟังแล้วฟังแล้วอย่าตกใจนะ คนที่...ก่อนที่ผมจะเล่าตรงนี้ให้ฟัง เราตกลงในข้อเสนอผมก่อน ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 เป็นต้นมา หรือ 2503 หรือ 2500 เป็นต้นมา อเมริกาเป็นเจ้าโลก เสียงอเมริกามีน้ำหนักมากในสหประชาชาติ อเมริกาต้องการจะทำอะไร มีนโยบายอะไร และต้องการให้โลกทำตาม ก็จะออกนโยบายนั้นมา แล้วทุกประเทศในโลกยกเว้นประเทศทางฝั่งคอมมิวนิสต์ ก็จะดำเนินรอยตามนโยบายนั้นตลอดเวลา ท่านผู้ชมรู้ไหม คนที่เป็นตัวการสำคัญที่สุด และโกหกประเทศตัวเอง และโกหกชาวโลก ชื่อ ริชาร์ด นิกสัน

ริชาร์ด นิกสัน เป็นประธานาธิบดีในยุคที่สงครามในเวียดนามกำลังวุ่นวายมากเลย มีการต่อต้านสงครามในเวียดนาม ในที่สุดแล้วรัฐบาลอเมริกาโดยเบื้องหลังของริชาร์ด นิกสัน ก็เริ่มออก พ.ร.บ. เรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ และในนั้นนอกจากจะมีเฮโรอีน มีฝิ่น มีมอร์ฟีนแล้ว ก็ยังมีกัญชาเข้าไปด้วย ท่านอยากรู้ความหลังไหม เบื้องหลังมันอยู่ที่ไหน นายจอห์น เออร์ลิคแมน คือใคร จอห์น เออร์ลิคแมน อุปมาอุปไมยเหมือนเป็น Chief of Staff ก็คือคล้ายๆ เป็นหัวหน้าสำนักงานของประธานาธิบดีนิกสัน ซึ่งติดคุกติดตารางไปในคดีวอเตอร์เกต ตอนหลังพอแก่ตัวลงมีคนไปสัมภาษณ์ บรรณาธิการนิตยสารฮาร์เปอร์ส ไปสัมภาษณ์นายจอห์น เออร์ลิคแมน เขาถามในเรื่องยุคนั้น เรื่องการร่างพระราชบัญญัติยาเสพติด เขาตอบว่าอย่างไรรู้ไหม เขาตอบว่า ใช่แล้ว เป็นฝีมือพวกผมเอง เพราะว่าตอนนั้นคนที่ต้านสงครามในเวียดนามคือฝ่ายซ้าย คนที่เป็นฮิปปี้ เป็นคนดอกไม้ Flower People อีกฝ่ายเป็นคนผิวดำ เขาก็เลยบอกว่า วิธีปราบปรามสองฝ่ายนี้ให้ง่ายที่สุด ก็คือโยงกัญชาให้กับฮิปปี้ โยงเฮโรอีนให้กับคนผิวดำ เพราะฉะนั้นแล้ว ผิวดำมันสูบเฮโรอีน ฮิปปี้มันสูบกัญชา ออกกฎหมายมาแล้วก็ไปถล่มมัน ไปก่อกวนมัน ไปค้นบ้านมัน ไปตามจับมัน ทำทุกอย่างเพื่อให้ชุมชนของมันล่มสลาย แต่พวกนี้ก็ลืมข้อเท็จจริงไปอีกข้อหนึ่ง ว่าทหารอเมริกาที่ไปรบในเวียดนามนั้น ท่านผู้ชมครับ ผลวิจัยออกมาแล้ว 38 เปอร์เซ็นต์ สูบกัญชา ทำไมล่ะครับ มันเครียดน่ะ เวลามันขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป ที่เขาเรียกกันชิปเฮลิคอปเตอร์ ไปตามยิงเวียดกง โดนเวียดกงสอยเฮลิคอปเตอร์ตก เดินลาดตระเวนอยู่ตามทุ่งนา จู่ๆ ก็มีเวียดกงโผล่มาจากพื้นดินมายิง มันตายได้ทุกเมื่อ คนมันเครียด ไม่รู้จะทำอย่างไร มันก็เลยสูบกัญชาให้หายเครียด ท่านผู้ชม 38 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่ากำลังพลแสนคน 38,000 คนสูบกัญชา ท่านผู้ชมก็อาจจะบอกว่า ถ้าอย่างนั้นแสดงว่ากัญชาเสพติด ไม่ใช่ครับ ผลการวิจัยออกมาในภายหลังบอกว่า หลังจากสงครามเวียดนามเลิกแล้ว 38 เปอร์เซ็นต์ที่สูบ ตกมาเหลือแค่ 8 เปอร์เซ็นต์เอง ก็แสดงว่ามันไม่ใช่ยาเสพติด แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ทหารพอสูบกัญชาแล้ว มันครึกครื้น มีความหวาดกลัว ไม่มีความกล้า ก็เลยทำให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการต่อสู้ สู้รบของทหารอเมริกันในเวียดนามมันตกต่ำมาก ตรงนี้ก็เป็นองค์ประกอบอีกตัวหนึ่งที่ทำให้ริชาร์ด นิกสัน และต่อมาถึงลินดอน เบนส์ จอห์สัน ต่อมาเรื่อยๆ ดำเนินนโยบายกับสงครามยาเสพติด ดำเนินไปอย่างหนักเลย เพราะฉะนั้นส่วนนี้ องค์ประกอบตรงนี้ กับองค์ประกอบในเรื่องของหลายๆ อย่างที่ผมเล่าให้ฟัง รวมไปถึงอเมริกา ก็เลยไปกดดันสหประชาชาติ สหประชาชาติก็เลยออกมาตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อที่จะระบุให้ชัดเจน ว่ายาเสพติดที่โลกทั้งโลก และทุกประเทศต้องมาเซ็นสัญญายอมรับกัน ยาเสพติดมีอยู่ทั้งหมดเท่าไร มีอะไรบ้าง แล้วก็ใส่กัญชาเข้าไปด้วย เป็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่ง ใส่กัญชาเข้าไปด้วย แต่ไม่มีใบกระท่อม ใบกระท่อมมันเกิดขึ้นในเมืองไทย คนไทยเล่นกันเอง หาเรื่อง เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ที่มาที่ไปว่าทำไมใบกระท่อมกลายเป็นยาเสพติดไปได้

ผมอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเรื่องการร่างนโยบาย ในเรื่องการออกกฎหมาย ดูรายการนี้นิดหนึ่ง ไม่ใช่ดูเพื่อชมผม ไม่ใช่ เอาข้อมูลผมไป แล้วเอาไปคิด ว่าที่ท่านคิดอยู่ในเรื่องของกฎระเบียบข้อบังคับ กฎหมายเรื่องยาเสพติด ท่านมองอะไรผิดไปบ้างหรือเปล่า ถ้าท่านยอมรับความจริงว่าท่านมองผิดไป ท่านอาจจะแก้ไขได้

ปรากฏว่าคณะอนุกรรมการยาเสพติดก็เลยมีมติออกมาให้ระบุชัดเจน และที่สำคัญที่สุดเขามีคำพูดอยู่คำพูดหนึ่ง เป็นประกาศ ว่ามาตราที่ 6 มาตรานี้ๆ ทุกคนจะยอมรับว่าอันนี้เป็นยาเสพติด ยกเว้น (เป็นภาษาอังกฤษนะ) เขาสั่งห้าม แต่ยกเว้นถ้าเอาไปค้นคว้าและทำประโยชน์ในเรื่องสุขภาพ เขาอนุญาต เอาฝิ่นไปสกัดเป็นมอร์ฟีน เอากัญชาไปศึกษาเพื่อทำโน่นนี่นั่น เขาให้ แต่แปลก มติข้อยกเว้นตรงนี้ พอแปลเป็นไทยแล้วประโยคนี้มันหายไปไหนไม่รู้ กลายเป็นว่ามีแค่กัญชาเป็นยาเสพติดต้องห้าม ตลกไหม ตลก ผมก็ไม่รู้ว่าคนไทยคิดอย่างไร หรือคนที่มีอำนาจพวกนั้นเขาคิดอย่างไร เพราะถ้าเขาแปลออกมาปั๊บ ตรงตามนี้ และเรายึดถือพันธสัญญาที่เราเซ็นเอาไว้ อย่างน้อยที่สุดกัญชาในยุค ค.ศ. 1961 2504 ก็ยังสามารถที่จะมีข้อยกเว้นในการเอากัญชามาวิจัย ไม่มี ปิดประตูหมดเลย ให้ผมเดา ผมคิดว่าเป็นอิทธิพลของบริษัทยา และเป็นอิทธิพลของพวกหมอไทย แพทย์แผนปัจจุบัน ที่มีสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับบริษัทยา

ขอข้ามไปนิดหนึ่ง ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ากัญชา น้ำมันกัญชา ที่มี CBD เดี๋ยวจะอธิบายว่า CBD คืออะไร คุณหยดเข้าใส่ใต้ลิ้น มันจะซึมเข้าไปในร่างกาย คนที่นอนไม่หลับ แล้วแต่สภาพของคน บางคนนอนหลับยาก อาจจะต้องหยด 2 หยด หรือ 3 หยด บางคนนอนหลับฝ่าย หยดเดียว หลับสนิท หลับยาว หลับลึก กัญชามีสิทธิที่จะทำให้ไมเกรนหายได้ทันที ถ้าสูบกัญชาเข้าไปในช่วงไมเกรนขึ้นหัวปั๊บ ไมเกรนจะหายทันทีเลย นี่พิสูจน์กันมาแล้ว แค่สองอย่างนี้ ยาแก้ไมเกรน ยานอนหลับ ถ้าเราใช้กัญชา บริษัทยาจะเสียหายไปมากแค่ไหน เอาแค่นี้พอ จะเห็นได้ชัดนะผลประโยชน์ที่กำลังถูกขัดขวางอยู่ ขัดขวางโดยบริษัทผู้ผลิตยา และขณะเดียวกัน มันเกิดมีติ่งขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง ผลประโยชน์ของการขวางกัญชาวันนี้ก็คือลประโยชน์ของการที่มีกลุ่มคนต้องการผูกขาดกัญชา เพราะตัวเองรู้ว่ากัญชาคือทองคำเขียว

ทองคำเขียว แปลว่าอะไร คือพืชเศรษฐกิจที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองร่ำรวยขึ้นมาอย่างมหาศาล ไม่ใช่เล็กๆ ไปเช็กดูได้เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นออริกอน ไม่ว่าจะเป็นแคนาดา ไม่ว่าจะเป็นหลายรัฐ แคลิฟอร์เนีย ที่มันเปิดเสรีกัญชา ปรากฏว่ารายได้เข้ารัฐมหาศาล

เอาล่ะ เราย้อนกลับมา พอมาถึงอนุกรรมการยาเสพติดของสหประชาชาติพอตกลงกันอย่างนี้ ก็เลยเชิญแต่ละประเทศไปเซ็น เห็นด้วย จะเข้าไปร่วม เพียงแต่ว่าเราเซ็นเป็นภาษาอังกฤษ เราได้ต้นฉบับภาษาอังกฤษ แต่พอเรามาแปลเป็นภาษาไทย ออกพระราชบัญญัติ เราดันตัดประโยคที่สำคัญที่สุดคือยกเว้น สามารถที่จะเอากัญชาเอามาพิสูจน์ เอามาทดสอบ เอามาค้นคว้า เอามาวิจัยได้ ท่านผู้ชม เชื่อผมหรือเปล่าว่า 1960 เกือบหกสิบปีที่ผ่านมานี้ ฝรั่งมันค้นคว้าเรื่องกัญชามาเยอะมาก ในขณะซึ่งเราปิดกั้นตัวเราเอง ทั้งๆ ที่ต้นตระกูลเรา บรรพบุรุษเรา ล้วนแล้วแต่รู้เรื่องกัญชา หมอพื้นบ้าน หมอแพทย์แผนไทยทุกคนรู้ว่ากัญชามีประโยชน์อย่างไร สามารถจะปรุงยาสดๆ ได้ที่ทำจากกัญชา มีเทคนิค มีวิธีการ ซึ่งสืบทอดต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น เรารู้มานานแล้ว แต่พอช่วงหลังเราโดนการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดนฝรั่งเข้ามาบีบ ตลอดจนความคิดที่คับแคบของคนที่อยู่ในวงการนี้ รวมไปจนถึงหลายคนซึ่งมีผลประโยชน์กับบริษัทยา และมีผลประโยชน์กับลักษณะแพทย์แผนปัจจุบัน ก็เลยหาทางที่จะบล็อกเรื่องนี้ตลอดเวลา เราก็เลยกลายเป็นคนซึ่งอยู่ในดงทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรที่โลกทั้งโลกต้องการ แต่เราดันทำอะไรกับมันไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อฝรั่งค้นพบแล้วว่ากัญชาสามารถทำโน่นทำนี่ได้ ท่านผู้ชมครับ นิสัยฝรั่งคือนิสัยการชอบผูกขาด ด้วยเหตุนี้เขาเลยต้องผูกขาดทุกเรื่อง เมืองไทยไม่ได้มีการวิเคราะห์วิจัย ดีแล้ว เพราะฝรั่งยอมรับว่าพื้นที่ในโลกนี้ มีอยู่พื้นที่เดียวเท่านั้นเองที่ผลิตกัญชาได้คุณภาพสูงในโลก นั่นคือพื้นที่ทางอีสาน ตะวันออกเฉียงเหนือ อีสานเหนือต่อเนื่องไปทางลาว จำไม่ได้เหรอครับจับกัญชาทีไร ขนกันเยอะแยะทีไร มาจากนครพนม นครพนมคือที่ไหน อีสานเหนือไง เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่ากัญชาเป็นยาต้องห้ามที่ถูกกลั่นแกล้ง

ผมลืมเล่าให้ฟัง จอห์น เออร์ลิคแมน ซึ่งเป็น Chief of Staff ของนิกสัน พอโดนสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย นักข่าวถามจอห์น เออร์ลิคแมน คำหนึ่ง เจ็บมาก ว่า สรุปแล้วเรื่องนโยบายยาเสพติดของคุณ เรื่องกัญชง กัญชา คุณโกหกประชาชนคนอเมริกันหรือไม่ มันตอบว่าอย่างไรรู้ไหม มันตอบว่า ใช่ พวกผมโกหกเอง เพราะต้องการผลทางการเมือง เห็นได้ชัดไหมครับ

ทีนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองไทยก็คือว่า มีคนป่วยเยอะ แล้วไม่มีทางออก ก่อนอื่นเพื่อความเข้าใจให้ถูกต้อง อธิบายในเรื่องกัญชาก่อน กัญชาคือพืชสมุนไพรที่โตขึ้น กัญชงคือส่วนหนึ่งของต้นกัญชา แต่ว่ากัญชงนี่ใครตั้งชื่อรู้ไหม สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระพันปีหลวง ตั้งชื่อ พระองค์ท่านมีความประสงค์ที่จะเพาะพันธุ์กัญชงที่ไม่ใช่กัญชา เพื่อเอาสายใยของมัน ไฟเบอร์ของมัน เอามาทำเสื้อผ้า ที่ฝรั่งเขาเรียกว่า HEMP ที่เมืองไทยเราก็เลยเรียกว่ากัญชง ทั้งกัญชงและกัญชา มันมีสารอยู่สองตัว จำไว้นะ ตัวแรกคือ THC ตัวที่สองคือ CBD

THC , CBD ในกัญชาเองจะมีสาร THC 12 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเอามากลั่นแล้ว ส่วน CBD จะมีแค่ 0.3 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าน้อยมาก

ทีนี้ ข้อเตือนใจซึ่งต้องระวัง ก็คือว่าคนที่มากล่าวหาว่าสูบกัญชา หรือใช้กัญชาแล้วเมา จิตหลอน เป็นโรคประสาท ไม่เถียง อะไรก็ตามถ้าคุณทานมากไป ก็ไม่ได้ เหมือนคุณปวดหัวมากๆ คุณกินพาราฯ เข้าไป 2 เม็ดก็ยังไม่พอ คุณกินเข้าไป 3 เม็ด 4 เม็ด 5 เม็ด 6 เม็ด ก็ยังไม่พอ แล้วเกิดอะไรขึ้น มันไปกระตุกประสาท และในที่สุดมันก็จะลงไปสะสมที่ตับ เช่น แอนตีไอโบติก เอะอะอะไรคุณก็กินแอนตีไบโอติก 500 มิลลิกรัม เป็นหวัดก็กินแอนตีไบโอติก ต้องกิน 7 วัน เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ตามที่หมอให้ แล้วหมอก็ระบุชัดว่าถ้ากินไม่ครบ 7 วัน จะไม่หายนะ เพราะฉะนั้นต้องกินให้ครบ 7 วัน เพราะฉะนั้นคนที่เป็นหวัดครั้งหนึ่งจะต้องกินแอนตีไบโอติกเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน วันละ 8 เม็ด 56 เม็ดในการกินยาแอนตีไบโอติก ฉันใดฉันนั้น เมื่อคุณใช้ THC จากกัญชามากจนเกินไป สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรรู้ไหม ข้อดีของ TCH คือ หนึ่ง มันลดอาการปวดได้ ทำให้หลับ ผมรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ผมอ่านหนังสือออก ผมมีปัญญาที่จะคิดเป็น และผมใช้เหตุใช้ผลได้ สาม ช่วยทำให้เจริญอาหาร และสี่ มีส่วนช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็ง แต่ผลเสีย THC ก็มี ไม่ใช่ไม่มี THC ถ้ากินมากเกินไป อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการโรคจิต จิตเภท โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้มีปัญหาทางโรคจิตในครอบครัว หรือพันธุกรรม ผู้ป่วยโรคจิตจากสารเสพติด แอลกอฮอล์ เป็นต้น

สอง THC หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะชะลอการทำงานของสมอ ทำให้สมองหยุดสร้างสารเคมี ทำให้รู้สึกดี ทำให้หงุดหงิดได้ง่ายๆ เวลาไม่ได้ใช้ สาม THC มีผลลบทางด้านสมองที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ กัญชาจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาสมองของเยาวชน ไม่ใช่ไม่มีพิษ มี

แต่ในเมื่อต้นไม้ต้นหนึ่งมีสารที่มีพิษ และในขณะเดียวกันก็มีสารที่ไม่มีพิษ และเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ มันก็ไม่ยากอะไร เราก็สกัดสารที่ไม่มีพิษ แล้วใช้ตัวสารที่ไม่มีพิษ ผลการรักษาของ CBD ซึ่งมีอยู่ 0.3 เปอร์เซ็นต์ในกัญชาทุกต้น CBD จะลดอาการจิตประสาทของผลที่เราไปใช้ THC มากเกินไป ป้องกันการสูญเสียความจำระยะสั้นจาก THC ป้องกันอาการจิตเสื่อม โรคประสาท ลดความเป็นไปได้ในการพัฒนาโรคทางจิตจากการใช้ THC ลดอาการวิตกกังวล ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน อาจจะช่วยรักษาโรคจิตเภท ป้องกันโรคนอนไม่หลับ ลดอาการชักจากปอดประสาทเสื่อม และจากโรคต่างๆ เพราะฉะนั้นท่านผู้ชมจะเห็นได้ว่า คุณภาพของ CBD ซึ่งมาจากกัญชา เป็นคุณภาพที่สูงมาก สูงจริงๆ และหลายต่อหลายคน แพทย์แผนโบราณ แพทย์แผนไทย ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มจะฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว หลังจากที่เริ่มมีกรมแพทย์แผนโบราณขึ้นมา ก็มีการส่งเสริมมาเป็นระยะเวลาสักพัก ก็เริ่มที่จะไปค้นคว้าคัมภีร์เก่าๆ มา มาดูว่าจะทำอย่างไรได้ ก็คิดหาทางออกได้แล้ว แต่มันไปตันอยู่เรื่องเดียว ตันตรงไหน ตันตรงที่ระบบราชการขัดขวางในการการรักษาพยาบาล โดยที่ให้รัฐเป็นคนผูกขาด เมื่อรัฐเป็นคนผูกขาดแล้ว รัฐก็จะบอกว่า ให้มารักษาพยาบาลที่นี่ได้ แต่ต้องมาลงทะเบียนนะ คุณต้องลงทะเบียนว่าคุณเป็นโรคอะไร โน่นนี่นั่น แล้วคุณถึงจะมีสิทธิ์ได้กัญชาไป ไปสร้างความยุ่งยากให้กับคนไข้ด้วยความปรารถนาดีแต่ว่าประสงค์ร้าย ก็คือบล็อกไม่ให้มีการใช้กัญชามากขึ้น และผมเชื่อว่าคนที่ประสงค์ร้ายเชียร์อยู่ข้างหลัง น่าจะมีพวกบริษัทยา ซึ่งมีดีเทลยาเยอะไปหมด วิ่งไปชี้แจงให้หมอฟัง

หมอไทยเป็นหมอที่เก่ง แต่ไม่ได้เป็นหมอที่รอบรู้ เพราะหมอไทยจะเป็นคนที่แคบ มีไม่กี่คนที่จะมองกว้างออกไป มีไม่กี่คนที่จะมองแบบแนวนอน ส่วนใหญ่แล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ จะมองแบบแนวตั้ง แนวดิ่ง อะไรที่ไม่ได้อยู่ในตำราที่ฝรั่งให้มา หมอไทยจะไม่เชื่อ แม้กระทั่งภูมิปัญญาโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายทวด ก็ไม่เชื่อ เพราะฝรั่งไม่เคยพูดในหนังสือเล่มนั้น ฝรั่งมันจะพูดได้ยังไง มันไม่พูดหรือครับ ฝรั่งมันจะพูดได้อย่างไรว่าอาการจิตหลอน จิตประสาท โรคมะเร็ง สามารถใช้กัญชารักษาได้ มันไม่พูด มันเน้นทางเคมี ด้วยเหตุนี้คนเป็นมะเร็งพอเข้ารักษาด้วยคีโม 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ตายแน่นอน ไปไม่รอด คนพวกนี้ถึงต้องวิ่งเข้าหากัญชากัน

ตอนนี้ท่านผู้ชมเข้าใจแล้ว แล้วใบกระท่อมล่ะ มันเกิดอะไรขึ้นถึงกลายเป็นยาเสพติดไปได้ ทั้งๆ ที่ในโลกนี้เขาไม่มีการใส่ใบกระท่อมลงไปว่าเป็นยาเสพติด ใบกระท่อมมีประโยชน์อะไรบ้าง ใบกระท่อมเป็นพืชสมุนไพร ยาที่ชาวบ้านเขารู้จักกันมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว เขาเด็ดใบกระท่อมมาเคี้ยว ทำให้นอนหลับ ใบกระท่อมคือตัวการที่เขาเอามาใช้เพื่อรักษาคนติดฝิ่น สมัก่อนคนไทยติดฝิ่นเยอะ และวิธีรักษาคนติดฝิ่นก็คือใช้ใบกระท่อมรักษา รักษาไปรักษามาเกิดมีปัญหา คนติดฝิ่นหายมากขึ้นๆ คนไทย ประเทศไทย รัฐบาลไทย พึ่งพาภาษีอากรจากการเก็บภาษีฝิ่น พอยอดภาษีฝิ่นตกมาๆ อ้าวตาย กระเป๋าแตกแล้วสิ ถังแตกแล้ว ทำยังไงล่ะ ก็เกิดมีเสนาบดีคนหนึ่ง ประมาณปี 2478 สามปีหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 และ 2478 ก็เป็นยุคกลางๆ ของการล่มทางเศรษฐกิจ ที่เขาเรียกว่า The Great Depression ในปี 1932 ก็คือ 2475 ที่เศรษฐกิจอเมริกา วอลล์สตรีท พังทลายหมด และสะเทือนไปทั่วโลก เพราะฉะนั้นแล้ว เงินคงคลังไม่มี เงินภาษีจากฝิ่นมันหมดแล้ว เพราะคนเริ่มกินน้อยลง สูบน้อยลง เกิดมีคนหัวใสบอกว่า ถ้าอย่างนั้น กินกระท่อมเยอะก็เก็บภาษีใบกระท่อม นี่คือที่มาของความบัดซบของคนโบราณสมัยโบราณสักคนหรือสองคนที่คิดแบบนี้ โดยไม่ได้คำนึงถึงรอบด้านว่าใบกระท่อมคือสมุนไพรที่รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ใบกระท่อมก็เลยติดอยู่ในบัญชียาเสพติดจนทุกวันนี้ ทั้งๆ ที่ในโลกนี้ไม่มี จะเห็นได้ชัด ชาวบ้านบางคนแค่เอาใบกระท่อมไปต้ม ใส่ต้มยำ ต้มข่าไก่ ก็โดนจับ ติดตาราง เห็นหรือยังว่าเรื่องความอยุติธรรมในการออกกฎหมายโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลและข้อเท็จจริงเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งๆ ที่ใบกระท่อมคือสมุนไพรยา แต่มาในตระกูลของกัญชาและกัญชง ท่านผู้ชมเริ่มพอจะเข้าใจได้หรือยัง ว่าเมื่อมีมติสหประชาชาติมา ... เมืองไทยนี่มีข้อดีอย่างหนึ่ง เป็นคนที่ว่านอนสอนง่ายในสายตาฝรั่ง ฝรั่งบอกให้ทำอะไรก็ทำตาม ฝรั่งผายลมออกมา มันบอกว่าลมนี้ไม่เหม็น ก็เชื่อมันว่าไม่เหม็น คนไทยเป็นอย่างนี้จริงๆ นะ ของดีๆ ที่มีอยู่กับตัว ไม่เคยคิดเอามาใช้ ไม่เคยคิดเอามาวิจัย

เอาล่ะครับท่านผู้ชม ผมมีข้อที่จะพูดบางอย่างในตอนจบวันนี้ สิ่งที่ผมจะพูดวันนี้จะเป็นเรื่องของตรรกะ ปรัชญา ผสมข้อเท็จจริงด้วย เหมือนกับผมพูดในรื่องกรณีแบนสารพิษ ผมจะตั้งคำถามเป็นข้อๆ ท่านผู้ชมตามผมมาและคิดตามผม และเห็นด้วยกับผมไหม

ข้อแรก ถ้ากัญชาเป็นยาเสพติด อันตรายต่อมนุษยชาติ คำถามมีว่า ทำไมประเทศที่เราเคยเชื่อมั่นในตัวเขา ทำตามที่เขาบอก อย่างเช่นอเมริกา ถึงเปิดกัญชาเสรีในรัฐต่างๆ เยอะแยะไปหมดเลย อันนี้มันขัดต่อข้อเท็จจริงใช่ไหม แสดงว่าหมอไทย หรือนักวิทยาศาสตร์ไทยที่คอยพึ่งพาการค้นคว้าวิจัยของฝรั่งมาตลอด ก็ต้องยอมรับแล้วใช่ไหมว่าฝรั่งวิจัยแล้วว่ากัญชามีประโยชน์ มีข้อดี รักษาโรคได้ และเขาให้สูบเพื่อเป็นการบันเทิง อยู่ที่บ้านสูบ คนสูบกัญชา กับคนกินเหล้า สองอย่างนี้อะไรเกิดขึ้น คนสูบกัญชาก็นั่งยิ้ม โลกสวยสดงดงาม ส่วนคนกินเหล้ากินแล้วหน้าแดง หัวร้อน คนสูบกัญชาเจอจิ้งจกกระโดดมา ก็ตกใจ กลัว

สมัยผมไปเรียนหนังสืออยู่เมื่อประมาณปี 2508-2509 ผมจำได้ว่าผมเรียนซัมเมอร์อยู่ ผมเรียนปริญญาตรีอยู่ที่ UCLA แล้วซัมเมอร์ผมไปเรียนที่ UC Berkeley เป็นช่วงคอร์สซัมเมอร์ มีเวลาเหลืออยู่เดือนหนึ่ง ผมไปทำงานอยู่ที่บ่อนการพนัน รัฐเนวาดา ที่เลคทาโฮ ระหว่างผมทำงานอยู่ ผมก็ไปเช่าบ้านอยู่กับฝรั่ง 10-20 คน สูบกัญชากันทุกวัน ผมช่วยไม่ได้ผมก็สูบด้วย ความรู้สึกของผมคือผมเมากัญชา ผมรู้สึกว่าโลกมันหมุน บ้านมันหมุน แล้วมันเป็นอะไรไม่รู้ ปากฉีกยิ้มตลอดเวลา เห็นอะไรก็หัวเราะๆ และขี้ตกใจ ผมถามว่า อันนี้มันไม่ได้เป็นอันตรายต่อสังคมเลยแม้แต่นิดเดียว พอฤทธิ์กัญชาหมดไป หลังจากนอนคืนหนึ่ง วันรุ่งขึ้นตื่นมาก็หาย เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องผลข้างเคียงของคนสูบกัญชา หรือภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า MARIJUANA เขาเรียกสั้นๆ ว่า WEED ไม่ได้มีผลต่อร่างกาย ไม่ได้มีผลอะไรทั้งสิ้นต่อสังคม ไม่ได้มีผลต่ออาชญากรรมทั้งสิ้น เขาถึงเปิดเสรีกัญชาให้ และปรากฏว่า กลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่แล้ว เพราะฝรั่งเริ่มมีงานวิจัยออกมาว่ากัญชานั้นเมื่อเอามากลั่นให้มีสาร CBD แล้ว CBD สามารถเอาไปประยุกต์เพื่อรักษาโรคต่างๆ ซึ่งยาแพทย์แผนปัจจุบันรักษาไม่ได้ และไม่มีส่วนผสมของเคมี เพราะฉะนั้นตอนนี้ CBD ก็เลยทะลักออกมาจากประเทศอเมริกา จากประเทศแคนาดา จากเยอรมนี จากยุโรป ออกมาขายทั่วไป แม้กระทั่ง CBD ที่ทางรัฐประเทศไทยนำเข้ามา ก็เอามาจากประเทศพวกนี้ แต่นำเข้ามาจากประเทศพวกนี้มันก็มีดาบสองคม ดาบคมแรกก็คือว่า เมื่อส่งไปตามโรงพยาบาลให้หมอรักษา หมอไทยที่อยู่ในโรงพยาบาลรัฐบาลนั้น ก็คือข้าราชการไทยคนหนึ่ง จะไม่กล้ารักษาโดยที่ไม่ใช้ยาของฝรั่ง เพราะยาของฝรั่งมันมีผลการวิจัยออกมา ทั้งๆ ที่ผลงานวิจัยที่เป็นรูปธรรมของเรามาจากแพทย์แผนไทยโบราณ ในสมัยโบราณ ซึ่งมีหลักฐานพิสูจน์ได้ชัด ก็ไม่กล้า ทุกคนก็จะใช้ยาเฉพาะที่ซื้อมาจากฝรั่งเศสหมด เราก็ตกเป็นทาสลิขสิทธิ์ของเขาตลอดชีวิต นั่นข้อแรก

ข้อที่สอง ผมถามว่าถ้าฝรั่งมันสามารถจะเอาต้นกัญชามา แล้วเอามากลั่นเป็น CBD แล้วก็เอาไปส่งขายออกไป แล้วเป็นผลทำให้ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ต้องซื้อมันมาเพื่อรักษาโรค ถามว่าคุณเอาแพทย์แผนไทย 40,000 คน ที่อยู่ทั่วประเทศไทย ลงทะเบียนแล้ว ได้ใบอนุญาตแล้ว คุณเอาเขาไปทิ้งไว้ที่ไหน เพราะคนพวกนี้คือคนซึ่งสามารถรักษาโรคได้ด้วยกัญชา แต่คุณกลับไปปิดป้อง แล้วสร้างกำแพงรั้วกั้นพวกเขาเอาไว้ ไม่ให้เขามีสิทธิ์ทำอะไรเลย เฉพาะโรงพยาบาลรัฐอย่างเดียวที่รักษาได้ ผมเชื่อว่านี่เป็นความคิดของข้าราชการ อะไรๆ ก็รัฐ สุขภาพไม่ใช่เรื่องการผูกขาดของรัฐ เรามีแพทย์แผนไทยเอาไว้ทำไม ถ้าเราตัดสินใจว่าฝรั่งทำได้ ทำไมเราไม่ให้โอกาสแพทย์แผนไทยทำได้บ้าง ให้เขามีสิทธิ์ปลูกต้นกัญชาของเขาในพื้นที่สถานแพทย์ของเขาเพื่อเอาต้นกัญชาพวกนี้ให้เขาเอาไปทำยาและสามารถรักษาคนไข้ได้ นี่คือคุณูปการให้กับมนุษยชาติ

คุณมีความสุขแค่ไหนที่คุณเห็นคนที่เป็นมะเร็งแล้วโรงพยาบาลปฏิเสธไม่รับรักษา แล้วก็มานอนเป็นแถวที่วัด หรือที่ศาลาของสถานพยาบาลของแพทย์แผนไทย แล้วให้แพทย์แผนไทยรักษาด้วยกัญชา ซึ่ง ณ วันนี้ยังถือว่าผิดกฎหมายอยู่ ฉะนั้นคุณมีความสุขไหมถ้าคุณเป็นตำรวจแล้วไปจับ คุณไปจับเพราะเขาทำผิด แล้วคนที่พ่อเขากำลังจะตายเพราะโรคมะเร็ง แล้วเขาไม่มีทางออก เขาไม่มีทางเลือก เขาต้องมาทางนี้ คุณรู้สึกว่าลูกหลาน พ่อแม่ พี่น้องเขาจะรู้สึกอย่างไรกับตัวคุณที่มา แล้วเขาด่าใคร เขาด่ารัฐ เขาด่าตำรวจ เขาด่ารัฐบาล เขาด่าเจ้าหน้าที่ เขาด่าข้าราชการประจำ จิตใจของพวกคุณทำไมถึงอำมหิตอย่างนี้

การที่จะแก้ปัญหากัญชา มันต้องแก้ด้วยความเป็นจริง พ่อผมสอนตลอดเวลาเลยว่า ให้เอาความจริงมาวางบนโต๊ะ แก้ปัญหาไป 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องไม่แปลกปลอมอะไรทั้งสิ้นนะ อีก 50 เปอร์เซ็นต์ หาช่องทางที่จะบริหารจัดการ ความเป็นจริงวันนี้ ท่านผู้ชมเชื่อไหม น้ำมันกัญชาหาได้ตลอดเวลา จะหาเมื่อไรก็หาได้ เข้าเว็บไซต์หาก็ได้ มีคนติดต่อซื้อขาย ซื้อมาให้ มีคนใช้น้ำมันกัญชา (***เสียงหาย***) ประชากร 65 ล้านคน เพราะอะไร เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องกัญชาซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยจะได้เสียงมากขนาดนี้เหรอ เห็นหรือยัง เพราะฉะนั้นพรรคภูมิใจไทยบอกว่าให้บ้านหนึ่งปลูกได้ 6 ต้น ตอนนี้เงียบไปแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลายเป็นรัฐผูกขาด สั่ง CBD มาจากเมืองนอกที่มีลิขสิทธิ์ งานวิจัยในประเทศไทยไม่เคยมีใครสนใจ ทำไมคุณไม่เปิดเสรี เปิดกว้างให้สถาบันการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นจุฬาฯ มหิดล ม.รังสิต หรือใครก็ตามที่มีแล็บ ห้องวิจัย ให้เขาสามารถวิจัยผลข้างเคียง หรือผลดี หรือผลเสียของน้ำมันกัญชา หรือกัญชาเพื่อเอามาต่อยอดในการรักษา ทำไมไปปิดกั้นปัญญา เพียงเพราะมีคนไม่กี่คนมีผลประโยชน์ติดตัว หรือว่ามีคนไม่กี่คนที่จิตใจคับแคบยังคงมองว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ทั้งๆ ที่มันเป็นยารักษาโรค

ตอนนี้ท่านผู้ชมพอจะเข้าใจแล้วใช่ไหม แล้วปรากฏว่ามีการนิรโทษกรรมกัญชาประมาณ 3 เดือน เอาคนไปลงทะเบียน ว่าใครบ้างมีโน่นนี่นั่น ปรากฏว่าพอเลยเวลานิรโทษกรรม รัฐมนตรีฯ กระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ดำเนินการต่อไป ตำรวจก็ยิ้มหวานสิ บุกเข้าไปสิ จับ รีดไถเงิน รีดไถทอง มีอยู่เจ้าหนึ่งเป็นพระ เป็นพระใช้กัญชารักษาคนไข้ คนไข้นอนเกือบร้อยคน นอนเลยนะ ลุกไม่ไหว เผอิญท่านผู้การจังหวัดนำกำลังไปเอง ท่านเป็นคนที่มีหลักนิติธรรมสูง ท่านเห็นว่าอะไรควร ไม่ควร ท่านเห็นว่าพวกนี้ทำผิดกฎหมายแน่ แต่ท่านเห้นว่าคนที่นอนอยู่จะตายทุกคน ท่านจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร ท่านก็เลยยกกำลังกลับไป ท่านไม่ยอมจับ แต่เรามีตำรวจอย่างนี้อยู่สักกี่คน เรามีไม่กี่คนหรอก

กัญชา มันก็คือทองคำเขียว เรามีพื้นที่ที่ปลูกกัญชา ที่ผลิตกัญชาได้ดีที่สุดในโลก เราขาดการพัฒนาสายพันธุ์กัญชง เพราะกัญชงของเรานั้น ปริมาณ CBD ที่กลั่นออกมามันน้อยมาก เราควรอนุญาตให้มีการนำเข้ากัญชงมาแล้วเริ่มงานวิจัย ถ้าเราทำประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ฮับ ในการผลิตยารักษาโรคจาก CBD เสร็จเรียบร้อยแล้ว วิจัยในการรักษาโรคมะเร็งด้วยกัญชา แล้วเพิ่มต่อยอดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกัญชาเป็นส่วนหนึ่ง เป็นยาส่วนหนึ่งที่สำคัญมากในการรักษาโรคมะเร็ง เมืองไทยจะเป็นฮับในการรักษาโรคมะเร็ง

นอกจากนั้นแล้ว น้ำมัน CBD หรือแม้กระทั่งน้ำมันจากกัญชง ก็สามารถจะเอามาผสมอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ต่อยอดได้อีก มูลค่าเท่าไร มันเป็นแสนๆ ล้าน ท่านผู้ชมเห็นหรือยัง ท่านผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เข้าใจหรือยังว่าท่านกำลังทำลายอนาคตของชาติ ของอยู่ในมือท่าน ท่่านไม่เปิดโอกาสให้เขาวิจัย ท่านไม่เปิดโอกาสให้เขาใช้ แล้วท่านก็บอกว่าจะใช้ได้ก็ต้องผูกขาด เข้าไปสู่กระทรวง ที่สำคัญที่สุด แพทย์ไทยแผนโบราณ 40,000 คน ที่ลงทะเบียนแล้ว ได้ใบอนุญาตแล้ว ให้เขาได้มีสิทธิ์ที่จะรักษาโรคโดยที่ไม่ต้องไปที่โรงพยาบาลรัฐ แต่ต้องให้เขามีสิทธิ์ในการปลูกกัญชาของเขาเอง เพื่อเขาจะได้นำมาสกัดแล้วมาทำตามคัมภีร์โบราณ แพทย์แผนโบราณ ซึ่งแน่นอนที่สุดแพทยสภาส่วนใหญ่ก็จะไม่เห็นด้วย เพราะมันขัดต่อแพทย์แผนปัจจุบัน ถึงจะพูดปากเปียกปากแฉะอย่างไรก็ตาม ว่ากัญชาส่วนดีก็มี ส่วนเสียก็มี ก็เอาส่วนดีมาใช้ แล้วเราก็ไม่เคยวิจัยค้นคว้าเสียที เรารู้แต่ผลจากในอดีตที่เขาเคยรักษามาแล้ว ถ้าเราไปต่อยอด ม.รังสิตต่อยอด จุฬาฯ ต่อยอด มหิดลต่อยอด ธรรมศาสตร์ต่อยอด แล้วกัญชาที่เราปลูกในประเทศไทยมันดีที่สุดในโลก เราก็จะเป็นมหาอำนาจในเรื่องน้ำมันกัญชา CBD และต่อยอดการรักษา เราก็จะเป็นฮับในการรักษาต่อไปอีก

ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ท่านรัฐมนตรีฯ อนุทินท่านต้องทำงานบ้างแล้ว ท่านเป็นคนที่ใช้ได้ ผมอยากจะให้ประชาชนให้โอกาสท่าน ผมได้อ่านในเฟซบุ๊กของท่าน มีการตอบโต้ ท่านหัวร้อนเกินไป คนที่เขาเห็นว่าท่านยังไม่สามารถเดินหน้าต่อไป เขากำลังมีความทุกข์ที่พ่อเขาไม่สบาย แม่เขาไม่สบาย เขาอยากจะเห็นท่านดำเนินการต่อไปให้มันจบกระบวนการ เพราะท่านไปสัญญากับเขาไว้ เป็นพื้นฐานการหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย ผมเคยพูดว่าท่านรองนายกฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (***เสียงหาย***) เพียงแต่ว่ากัญชาตอนนี้มันเริ่มกลายพันธุ์แล้ว (***เสียงหาย***) ตัดปัญหาทิ้ง ท่านบอกว่าท่านเสนอ พ.ร.บ.พืชเศรษฐกิจ กัญชาเข้าไปในสภาฯ แล้ว หน้าที่ท่านไม่จบ ท่านสัญญาอะไรกับประชาชนไว้ ท่านสัญญากับประชาชนไว้ท่านต้องรักษาให้ได้ ท่านรู้ได้อย่างไรว่า พ.ร.บ.ท่านจะผ่านสภา ท่านรู้หรือเปล่า ส.ว.มีอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งคอยบล็อกเรื่องกัญชา พ.ร.บ.ท่านไม่ผ่านหรอกครับ แล้วท่านก็จะมาพูดทีหลังว่า ผมทำสุดความสามารถแล้วนะ หมดปัญญาแล้ว ไม่ใช่ ท่านยังไม่ได้ทำสุดความสามารถ อำนาจท่านมี ท่านสามารถใช้อำนาจในฐานะเป็นรัฐมนตรีได้ ท่านสามารถจะใช้ได้เลย ท่านสามารถที่จะเสนอ ท่านสามารถที่จะพูดคุยกับคณะกรรมการยาเสพติด 27 คนได้ อธิบายให้ฟังได้ คือข้อ 7 ผู้ขออนุญาตอื่นตามที่รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบคณะกรรมการกำหนดในกฎหมาย ก็หมายความว่าท่านจะต้องเข้าไปหาคณะกรรมการชุดนี้ อธิบาย (*** เสียงหาย ***) ต้องการให้แพทย์แผนไทยที่มีอยู่ 40,000 คน สามารถปลูกกัญชาในที่ได้ เพราะตอนนี้เรากำลังล้าหลังในเรื่องการวิจัยในเรื่องกัญชา วันนี้น้ำมันกัญชาที่มี CBD ทั่วโลกต้องการอย่างมากมายมหาศาล อีกไม่เกินต้นปีหน้า คณะอนุกรรมการ เรื่องยาเสพติดของสหประชาชาติก็จะถอดเรื่องกัญชาออกแล้วว่าไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป

เพราะฉะนั้นแล้ว ผมเชื่อว่าท่านทำตรงนี้ท่านจะสร้างคุณูปการ มีเมตตาธรรมกับผู้ป่วยทั้งหลาย ท่านรัฐมนตรีครับ คนที่พ่อแม่เป็นมะเร็งและหาทางออกไม่ได้ ใกล้จะตาย อะไรเปิดเอาไว้ เขาก็เดินหาตรงนั้น เขามีความหวัง เหมือนท่านเองท่านก็มีความหวังในเรื่องครอบครัวของท่าน ท่านเอาใจท่านไปใส่ใจเขา ที่สำคัญท่านไปสัญญากับเขา เพื่อเอาเสียงของเขามาเพื่อหนุนพรรคท่าน ไม่อย่างนั้นพรรคท่านจะได้มา 50 กว่าเสียงได้อย่างไร ท่านต้องยอมรับความจริงตรงนี้ก่อน ท่านต้องยอมรับความจริงว่าที่ท่านได้ตรงนี้ก็เพราะคนที่อยู่ในแวดวงกัญชา ผมบอกท่านแล้วว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน และจะมีมากกว่านี้อีก เมื่อท่านได้มาเพราะกัญชา ท่านก็อาจจะล้มเพราะกัญชา ผมเสียดายแทนท่าน ท่านเป็นคนดี ผมว่าท่านตั้งใจพิจารณาเรื่องที่ผมเสนอไปดีกว่า ผมไม่ใช่เป็นนักการเมือง แต่ผมเห็นว่านักการเมืองถ้าไม่ฟังประชาชน และประชาชนที่เลือกท่านเข้ามา มีจำนวนไม่น้อยเลย คือคนซึ่งเห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรี แล้ววันนี้พิสูจน์ชัดแล้ว ท่านสามารถจะหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทุกอย่างพิสูจน์ได้ เอาไปให้คณะกรรมการยาเสพติด แล้วก็เล่าให้เขาฟังด้วยว่า ปีหน้า ต้นปีหน้า เขาก็จะถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว และท่านก็สามารถที่จะอธิบายได้ว่าทำไมท่านต้องการให้แพทย์แผนไทยโบราณ 40,000 คน สามารถจะปลูกกัญชาในบ้าน เพราะเขาสามารถรักษาโรคได้ และท่านก็ควรจะออกเป็นคำสั่งว่าการที่จะรักษาโรคด้วยการใช้น้ำมันกัญชาไม่จำเป็นต้องไปที่โรงพยาบาลรัฐอย่างเดียว สามารถจะไปได้ที่สถานพยาบาบของแพทย์แผนไทยโบราณ

ตรงนี้ล่ะครับ เราขาดองค์ความรู้มากในเรื่องของประสิทธิภาพประสิทธิผลของกัญชา ทั้งๆ ที่เราเป็นดินแดนแห่งกัญชาที่ดีที่สุดในโลก และวันนี้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา อเมริกาใต้ แคนาดา เขาเปิดกัญชาเสรี ถ้ามันเลวจริง เขาจะไม่เปิดเสรีหรอกครับ เพราะฉะนั้นแล้ว เราพลาดอะไรไปหรือเปล่าในเรื่องกระบวนทัศน์ความคิด ถ้าพลาดไป ผมคิดว่า เรามานั่งทบทวนกันใหม่ คิดกันเสียใหม่ได้ไหมครับ

วันนี้ก็เป็นเรื่องราวต่างๆ ที่ผมได้พูดมา ก็มีคำถามเข้ามาเยอะ โอ้โห รับฟังจากซานฟรานซิสโก ขอบคุณมากครับ คนดีเทวดาคุ้มครอง แม้แต่ผียังปกป้องเลย คนที่มีอคติ คุณสนธิไปทำตัวเองให้ดี เทวดาจะได้คุ้มครองนะ กัญชาอันตรายน้อยกว่าแอลกอฮอล์ ลุงสนธิมี fc ทั่วโลก กำลังดูที่สงขลา สวัสดีครับผมได้แชร์ไปในกลุ่มกัญชาแพทยศาสตร์เฟซบุ๊ก แล้วครับ ลุงคะทำไมทุกเรื่องที่มีอันตรายคนจึงกล้าหาผลประโยชน์โดยไม่กลัวบาปเลยคะ ขอบคุณมากๆ ท่านผู้เฒ่าที่จัดรายการแบบนี้ให้ฟังคิด ถึงครับ ชัดเจน ฟังง่ายทุกเรื่อง เป็นพาร์กินสัน หยอดน้ำมันกัญชา 2 ขวด หายเลขค่ะ สวัสดีคุณสนธิขอให้มีสุขภาพแข็งแรงตลอดไปด้วยความเคารพรักนับถืออย่างสูง สวัสดีครับ จากฮูสตัน ยูเอสเอ กัญชาทหารป่าใช้ทาตัวป้องกันผื่นคันได้ ป้องกันแมลงพิษได้ ก็เพราะผู้เฒ่ารู้ลึกรู้จริงแบบนี้จึงต้องโดน 200 นัด และคุก 20 ปี เข้าใจหรือยังคะ พวกที่เข้ามาจ้องจับผิดไม่เชื่อหรือไม่อยากฉลาดก็อย่าเข้ามาดูนะคะ คอมเมนต์มีเยอะครับ

ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมมีเพื่อนฝูงที่แชร์เรื่องนี้ไป แชร์ให้มากๆ นะครับ และกดไลก์หรือฟอลโลว์ให้เยอะๆ ในเพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ เพื่อไม่ให้ตกทุกเรื่องราว ความรู้ตรงนี้ผมอยากให้กระจายไป เหตุผลหนึ่งที่เรื่องสารพิษได้ผลมากก็เพราะพวกเราแชร์กันไปเยอะๆ แล้วอย่าลืมบอกคนที่เราแชร์ให้กดไลก์ หรือกดฟอลโลว์ และอย่าลืม วันที่ 3 พฤศจิกายน วันอาทิตย์ เราจะมีการทอดกฐิน ผมจะนำผ้ากฐินไปทอดที่วัดป่าภูแปก ญาณสัมปันโน บ้านกกบก ต.หนองงิ้ว อ.วังสะพุง จ.เลย

ท่านผู้ชมครับ ก่อนที่จะจากไปวันนี้ ผมมีความคิดอะไรบางอย่างที่อยากจะฝาก ผมพูดเรื่องนี้กับหลายคน ผมพูดเรื่องนี้กับคุณไพศาล พืชมงคล ผมพูดเรื่องนี้กับอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ผมมีความรู้สึกว่าช่วงหลังๆ มันเป็นกระแสที่ปะทะกัน กระแสเก่า-กระแสใหม่ ปะทะกัน คุณธนาธรก็เป็นกระแสใหม่ เราต่อสู้เรื่องกัญชาก็เป็นกระแสใหม่ สารพิษก็เป็นกระแสใหม่ กระแสเก่าก็มีหลายรูปแบบ คนที่ยังเชื่อในเรื่องสารพิษ คณะกรรมการที่มองอะไรคับแคบ คนที่ยังเห็นว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ก็เป็นกระแสเก่า เพราะฉะนั้นแล้วกระแสเก่า-กระแสใหม่มันปะทะกันตลอดเวลาในเวลานี้ และปะทะกันแทบจะทุกเรื่องแล้ว จากการเมืองมาเรื่องกัญชา เรื่องแบนสารพิษ และต่อไปจะเป็นอีกหลายๆ เรื่อง สัญญาณนี้แปลว่าอะไร สัญญาณนี้แปลว่าเริ่มมีคนตั้งข้อสงสัยกับสิ่งแวดล้อมเก่าๆ วิธีคิดแบบเก่าๆ ความเชื่อแบบเก่าๆ และหลักการอำนาจนิยมแบบเก่าๆ กัญชานี้เห็นได้ชัด ถ้าวันหนึ่งข้างหน้า พวกคนซึ่งพ่อแม่เจ็บป่วยแล้วไม่ได้ใช้กัญชา ไม่สามารถจะรักษาได้ ถ้าเขาจัดขยวนรถมาทั่วประเทศไทย รัฐบาลจะทำอย่างไรกับเขาครับ และผมก็จะบอกด้วยนะ อย่าโกรธผมนะ ผมจะไม่ลงถนนเพื่อเป็นรัฐบาล แต่ผมพร้อมจะลงถนนกับผู้ป่วยที่ต้องการกัญชามารักษา เพราะผมเห็นว่าชีวิตคนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ไม่มีอะไรสำคัญกว่าชีวิตหรอกครับ

ท่านผู้ชมครับ จากนี้ไปคิดว่าน่าจะเป็นอาทิตย์หน้า วันศุกร์หน้า จะมีผมกับคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ มาออกคู่กัน ชื่อคุยทุกเรื่องกับสนธิและชูวิทย์ วันศุกร์หน้า 9 โมงเช้า และพรรคพวกซึ่งอยู่ในทีมเขาแจ้งมาบอกว่า คุณสนธิครับ ถึงคุณสนธิจะออกทุกวันศุกร์ แต่ถ้ามีเรื่องอะไรที่เป็นประเด็นสำคัญ อยากให้คุณสนธิมาออก ไม่ต้องยาว สิบนาที สิบห้านาทีก็ได้ เพื่อจะอธิบายการวิเคราะห์ของผม และจุดยืนของผม ผมเห็นเรื่องนี้เป็นอย่างไร ถ้าท่านผู้ชมเห็นด้วยเข้ามาออกความเห็นในเฟซบุ๊กได้นะครับ ขอบพระคุณมากครับท่านผู้ชม สวัสดีครับ





กำลังโหลดความคิดเห็น