ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ปลื้ม 3 รมต.เอาจริงแบนพาราควอต ตามคำวินิจฉัยผู้ตรวจฯ จี้ คกก.วัตถุอันตรายคำนึงปัญหาสุขภาพเป็นหลัก อย่าอ้างมั่วไร้สารทดแทน ยันก่อนวินิจฉัยพบนวัตกรรมใหม่ใช้แทนได้ เตือนดึงดันยื้อต่อเจอส่ง ป.ป.ช.เอาผิดแน่
วันนี้ (9 ต.ค.) พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวกรณีคณะทำงาน 4 ฝ่ายของกระทรวงเกษตรมีมติให้ยกเลิกนำเข้าและใช้สารเคมีวัตถุอันตรายทางการเกษตร 3 สาร คือ คลอร์ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเซต และเตรียมผลักดันให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้ ว่านับเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยไปตั้งแต่ 23 พ.ย. 61 เสนอว่าให้ยกเลิกนำเข้า มีไว้ในครอบครองตั้งแต่ 1 ม.ค. 63 และล่าสุดเมื่อ 13 ก.ย. ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้เร่งรัดปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจฯ และได้รับการตอบรับที่ดี จึงขอชมเชยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตร กระทรวงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ 3 รัฐมนตรีซึ่งเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้และออกมาแถลงยืนยันว่าจะมีการยกเลิกการสารพิษนี้ให้เร็ว และที่น่าดีใจยิ่งขึ้นคือการประกาศจะเร่งให้มีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายเพื่อผลักดันให้มีมติยกเลิกนำเข้า มีไว้ในครอบครองสารพิษ 3 ชนิดนี้ตั้งแต่ 1 ธ.ค.นี้ แสดงให้เห็นว่าผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องมีความตั้งใจที่จะยกเลิกจริง และตนก็จะรอฟังผลการประชุมของคณะกรรมการวัตถุว่าจะมีมติอย่างไร
“ผู้ตรวจการแผ่นดินเคยยืนยันต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อคราวมาประชุมร่วมกัน หลังจากที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอ้างว่ายังติดขัดไม่สามารถปฏิบัติตามคำวินิจฉัยผู้ตรวจการแผ่นดินในครั้งแรกเพราะยังหาสารทดแทนไม่ได้ ว่าการจะยกเลิกนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาประกาศยกเลิกเสียก่อน และเป็นธรรมดาของมนุษย์เมื่อมีข้อจำกัดเรื่องใดแล้วก็จะมีการหานวัตกรรมใหม่ๆ หาสารอื่นขึ้นมาทดแทน อาจจะไม่ใช่การทดแทนแบบ 1:1 แต่อาจมีตัวอื่นมาผสม หรืออาจใช้ระยะเวลาในการกำจัดวัชพืช ศัตรูพืชนานขึ้น ที่สำคัญก่อนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะออกคำวินิจฉัยได้มีการศึกษาหานวัตกรรมใหม่ด้านการเกษตร และมีการลงพื้นที่ไปดูเกษตรกรที่เป็นเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้ 3 สารพิษสารเคมีในการทำการเกษตร ซึ่งก็พบว่าได้ผลผลิตที่มีความปลอดภัย ขายได้ในราคาที่สูงขึ้น ดีกับทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคที่ปัจจุบันหันมาบริโภคอาหารที่ปลอดภัย ดังนั้นการที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายอ้างว่ายังยกเลิกไมได้เพราะไม่มีสารทดแทนจึงไม่สมเหตุสมผล ส่วนการหาสารทดแทน ถ้ากรมวิชาการเกษตรจริงจังตามข้อมูลที่ผู้ตรวจฯเชื่อว่าหาได้ไม่ยากและมีอยู่เพียงพอ” พล.อ.วิทวัสกล่าว
เมื่อถามว่าหากที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายยังคงมีมติไม่ยกเลิก 3 สารพิษดังกล่าว ผู้ตรวจการแผ่นดินจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวว่า ถ้ายังไม่ยกเลิกก็ถือว่าไม่มีเหตุอื่นอันสมควร เข้าข่ายหัวหน้าหน่วยราชการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ตามกฎหมายให้ส่ง ป.ป.ช.ดำเนินการพิจารณาชี้มูลความผิด หรือถ้าบุคคลใดเข้าข่ายผิดอาญาก็ส่งศาลยุติธรรมพิจารณา หากมีความผิดทางวินัย ต้นสังกัดก็จะดำเนินการตามระเบียบข้าราชการฯ ซึ่งผู้ตรวจฯก็จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และที่ก่อนหน้านี้คณะกรรมการวัตถุอันตรายประชุมลับ แล้วมีมติไม่ยกเลิก ตนก็เห็นว่าไม่ถูกต้อง การประชุมควรเป็นไปโดยเปิดเผย เคารพเหตุผลซึ่งกันและกัน แต่ครั้งนี้เมื่อมาถึงขั้นที่รัฐมนตรี 3 กระทรวง ที่มีผู้แทนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการวัตถุอันตราย พร้อมใจกันให้มีการประชุมโดยเปิดเผย ก็เชื่อว่าคณะกรรมการฯที่จะประชุมกันในเดือน ต.ค.นี้จะมีการปรึกษาหารือคุยกันอย่างมีเหตุผล และผลประชุมจะส่งผลดีกับประชาชน
“ฝากถึงคณะกรรมการวัตถุอันตรายว่าขอให้พิจารณาโดยคำนึงถึงเรื่องสุขภาพประชาชนเป็นสำคัญ มากกว่าเน้นเรื่องการหาสารทดแทน หากไม่ยกเลิก ครอบครัวของบุคคลที่เป็นคณะกรรมการวัตถุอันตรายก็ต้องได้รับพิษภัยจากสารพิษนี้เช่นกัน และปกตินวัตกรรมใหม่ๆ จะเกิดขึ้นภายใต้ข้อจำกัดอยู่แล้ว ดังนั้น ทำอย่างไรให้ประเทศไทยเป็นเกษตรปลอดภัย อาหารปลอดภัยและคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า จึงอยากให้คิดให้รอบคอบ” พล.อ.วิทวัสกล่าว