xs
xsm
sm
md
lg

อดีตสมาชิกรปช. ยื่นศาลรธน. ขอวินิจฉัยสั่งการให้ยุติเคลื่อนไหวแก้รธน.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อดีตผู้สมัครส.ส.รปช. ยื่นเรื่องศาลรธน. ขอวินิจฉัยสั่งการให้ยุติเคลื่อนไหวแก้รธน. โวยละเมิดสิทธิ 16 ล.เสียงที่ประชามติ พร้อมยกพฤติกรรม "ช่อ-นักวิชาการ" ส่อขัดรธน. พร้อมโยกซบพปชร.

วันนี้ (4 ต.ค.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย เปิดเผยว่าได้ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลมีคำวินิจฉัยสั่งการให้ยุติการดำเนินการเคลื่อนไหวในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ในทุกประเด็น เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้มีการทำประชามติ และผ่านความเห็นชอบจากประชาชนกว่า 16 ล้านคน เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหวต่างๆ ของ 7 พรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งบุคคลอื่นๆ ที่จะมีการเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนเกือบ 16 ล้านคนที่ให้ความเห็นชอบกับรัฐธรรมนูญ 2560 อย่างไรก็ตามนายสนธิญา ได้ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 17 กันยายน แต่เมื่อครบ 15 วัน ไม่ได้รับคำตอบจากอัยการ นายสนธิญา จึงขอใช้สิทธิร้องตรงไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

นายสนธิญา ยังระบุถึงสาเหตุที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติผู้จะเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังพบว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้ระบุถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เรียกร้องให้ประชาชนลงมาบนถนน และยังพูดที่ จ.มหาสารคาม ระบุอีกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เฮงซวยทุกมาตรา อีกทั้งการที่นักวิชาการคนหนึ่งพูดที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีรัฐเดียว นั่นหมายความว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 มาตรา 1 ที่ระบุว่าประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ ซึ่งตนเห็นว่ากรณีเหล่านี้น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 25 และมาตรา 49

“รัฐธรรมนูญทุกฉบับมีข้อดีข้อเสีย ผมอยู่ในรัฐธรรมนูญ 2540 ที่หลายคนระบุว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนแต่ก็ถูกแก้ไข ผมจึงอยากบอกกับพรรคการเมืองทั้งหลายเห็นใจประชาชน เพราะโพลที่ออกมาทุกๆโพลประชาชนต้องการให้นักการเมืองแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติเป็นหลัก เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญค่อยๆว่ากันไป จะแก้ไขตรงไหนค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง ขอให้เป็นไปตามกระบวนการคือการทำประชามติ “

นายสนธิญา ยังเปิดเผยว่า ในวันนี้ตนได้มายื่นเรื่องที่สำนักงาน กกต. เพื่อขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยมีความประสงค์ที่จะไปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากเห็นว่ามีอุดมการณ์และการทำงานที่ตรงกับตน แม้ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ก็ตาม แต่หากการทำงานหลายๆอย่างจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น จะต้องพิจารณาตัวเองว่าเหมาะสมตรงไหน ไม่ได้มีใครมาทาบทามหรือชักชวน แม้ว่าจะรู้จักหลายคนในพรรคพลังประชารัฐ แต่ได้ย้ายไปด้วยตัวเอง

“ผมไม่มีข้อแม้ใดๆ แต่ไปเพราะอุดมการณ์ เพราะเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนซื่อสัตย์ การบริหารงานที่ผ่านมา 4-5 ปี แม้เศรษฐกิจจะมีปัญหา แต่เรื่องการทุจริตน้อยมาก”


กำลังโหลดความคิดเห็น