เผยหนังสือราชการลงนามโดยรองปลัดเกษตรฯ ระบุ กรมวิชาการเกษตร เตรียมเสนอปลัดอุตสาหกรรม ในฐานะ ปะ.กก.วัตถุอันตราย ให้แบน 3 สารพิษ แต่ รมว.เกษตรฯ กลับให้ทำตามมติ กก.วัตถุอันตราย แค่จำกัดการใช้ไปก่อน สวนคำประกาศ “รมช.มนัญญา” ที่ต้องการให้ยกเลิก
วันนี้ (1 ต.ค.) นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ภาพในเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha เป็นหนังสือราชการ ลงนามโดย นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน รองปลัดกระกรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการผลิต เกี่ยวกับการยกเลิกสารพาราควอต ไกลโฟเซต และ คลอร์ไพริฟอส โดยระบุว่า กรมวิชาการเกษตร ได้ดําเนินการ ดังนี้
“๑. ยกร่างหนังสือเรียนปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพื่อขอให้พิจารณาจัดวัตถุอันตราย พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ ๔ คือ ห้ามผลิต นําเข้า ส่งออก และจําหน่าย เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๐
๒. ได้นําหนังสือ (ข้อ ๑) เรียนหารือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๒ ถึงแนวทางในการดําเนินการและได้รับข้อเสนอแนะว่า ควรจะดําเนินการตามมติ คณะกรรมการวัตถุอันตรายในการให้จํากัดการใช้วัตถุอันตรายพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส และได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรจัดทําและดําเนินการมาตรการจํากัดการใช้ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้จัดทํา และอยู่ระหว่างดําเนินการตามมาตรการจํากัดการใช้วัตถุอันตรายดังกล่าว”
ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดังกล่าว ถือว่าสวนทางกับท่าทีของ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะต้องยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด
นพ.ธีระวัฒน์ ยังโพสต์ข้อความด้วยว่า “รมว.เกษตรฯ จาก ปชป. ขวาง รมช.เกษตรฯ คุณมนัญญา
“การทำตามกรมวิชาการเกษตรที่จำกัดการใช้ในหนังสือฉบับนี้ จะเหมือนกับตั้งแต่เมื่อปี 2560 ที่ทำเช่นเดียวกัน และเป็นสิ่งที่รัฐมนตรีเกษตรชุดที่แล้วในปี 2562 ประกาศทำ โดยไม่ได้ทำตามมติของท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน
“ประสานกับท่านกรรมาธิการบางคนในวันนี้ ที่ให้ความเห็นในขณะที่ตัวแทนบริษัทสารเคมีกำลังเสนอข้อมูล
“จุดมุ่งหมายของคณะกรรมาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข และ รมช เกษตรฯ คือ เลิกการใช้สารเคมีสามตัวนี้ภายในสิ้นปี 2562 และรวมถึงสารเคมีอื่นๆ
“โดยมีมาตรการทดแทนที่ใช้สารเคมีน้อยที่สุด โดยที่ตัวที่ต้องใช้ ต้องมีความปลอดภัย ไม่ปนเปื้อนและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งคณะวิชาการเตรียมที่จะรวบรวมข้อมูลเสนอภายในสองถึงสามสัปดาห์นี้
“นอกจากนั้น ประเด็นที่สำคัญ ก็คือ ต้องมีกองทุนทดแทนให้เกษตรกรในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านและจะต้องมีการชดใช้ความสูญเสียที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและการเจ็บป่วยของเกษตรกร และคนในพื้นที่ที่ได้รับอันตรายไปด้วย
“ปัญหาสำคัญคือรัฐบาลไม่ยอมเลิก ใช่หรือไม่ครับ?
“ไม่ว่ากรรมาธิการจะพูดอย่างไร ท่านผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีมติอย่างไรไม่มีความหมายใช่หรือไม่ครับ?”
